Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

รีวิว 2020 Kawasaki Ninja 400 [SPECS REVIEW]

รีวิว 2020 Kawasaki Ninja 400 [SPECS REVIEW]

หากจะพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์สายสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งในตลาดประเทศไทยตอนนี้ Kawasaki Ninja 400 น่าจะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายๆ คน นึกถึงกัน และในบทความนี้เราจะขอพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ Ninja 400 สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งจากค่ายยักษ์เขียว Kawasaki กันให้มากขึ้นถึงสเปกตัวรถและฟีเจอร์เด็ดๆ ประจำที่มีมาให้จากโรงงานกันครับ

2020 Kawasaki Ninja 400 ABS2

2020 Kawasaki Ninja 400 นับว่าเป็นโมเดลคู่ขนานกับรุ่นเล็กอย่าง Ninja 250 ที่เปิดตัวมาพร้อมๆ กันในงาน EICMA Show 2018 ที่ประเทศอิตาลี โดยแต่เดิมนั้น Kawasaki มีโมเดลสายสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งอย่าง Ninja 300 และ Ninja 650 เป็นทุนเดิม โดยการเปิดตัวเจ้า Ninja 400 นั้นก็ทำให้ไลน์ในการผลิตของ Ninja 300 นั้นยุติลง

สเปกพื้นฐานของ 2020 Kawasaki Ninja 400 นั้นยังคงพื้นฐานเดิมจากการเปิดตัวเมื่อปี 2018 ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 399 ซีซี 2 ลูกสูบ 4 จังหวะ แบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกระบอกสูบคูณช่วงชักจะอยู่ที่ 70.0 X 51.8 มิลลิเมตร ที่แรงม้าสูงสุดที่ 44.8 HP ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 38 นิวตันเมตรที่ 8000 รอบต่อนาที ซึ่งดูแล้วให้สมรรถนะที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าขนาดของกระบอกสูบจะมากกว่าก็ตาม รวมไปถึงการออกแบบช่องลมพิเศษที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า และการดัดแปลงช่อง Downdraft intake ให้มีขนาดที่สั้นลง จะทำให้การทำงานของระบบระบายความร้อนนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการน้ำเอาลมเข้ามาผสมช่วยกับระบบหม้อน้ำ ซึ่งจะเป็นการรักษาอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานมากขึ้น รวมไปถึงสายโมดิฟายที่จะปรับจูนแรงม้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของความร้อนที่จะเกิดขึ้น

2020 Kawasaki Ninja 400 ABS3

มาดูกันต่อในเรื่องของโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการออกแบบใหม่นั้นเป็นแบบ Trellis High-Tensile Steel ที่สามารถทดทานต่อแรงบิดได้สูงกว่า Semi – Double Candle ที่อยู่ใน Ninja300 รวมไปถึงมีน้ำหนักที่เบากว่าเดิม ทำให้น้ำหนักของเจ้า Ninja 400 คันนี้มีน้ำหนักตัวเพียง 168 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่า Ninja 300 อยู่ถึงเกือบ 8 กิโลกรัม ซึ่งมันก็สอดคล้องกับ Swingarm แบบใหม่ที่ทางทีมพัฒนาได้ออกแบบมาให้ติดกับโครงสร้างหลัก โดยติดตั้งอยู่บริเวณหลังของเครื่องยนต์ ทำให้จุดรวมของน้ำหนักนั้นอยู่บริเวณกลางตัวรถพอดิบพอดี ซึ่งมันจะทำให้การควบคุมรถนั้นทำได้ง่ายกว่า Ninja 300 ที่จุดศูนย์ถ่วงนั้นจะกระจายไปทางด้านหน้าซะมากกว่า รูปลักษณ์การออกแบบนั้นทาง Kawasaki ได้ใช้แรงบันดาลใจมาจากสปอร์ตรุ่นใหญ่ของทางค่ายอย่างเจ้า H2 โดยวางแนวทางไว้ที่ “Street Born – Track Inspired” ซึ่งหมายความถึงเกิดมาเพื่อขับขี่บนท้องถนน แรงบันดาลใจจากสนามแข่งขัน ซึ่งทำให้เจ้า Ninja 400 คันนี้มีความบึกบึน หล่อล่ำ แบบเดียวกับที่ Ninja H2 เป็นนั่นเอง

https://i2.wp.com/motorcycle.com.vsassets.com/blog/wp-content/uploads/2017/10/102517-2018-kawasaki-ninja-400-hi_18EX400J_540GN2NRS3CG_A_001.jpg?resize=980%2C736

มาดูส่วนของระบบกันสะเทือนหน้ากันบ้าง เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะผิดหวังว่าทำไม Kawasaki ไม่เลือกใช้โช้คอัพแบบ USD หรือ Upside- Down ตามสมัยนิยมเฉกเช่นค่ายรถคู่แข่งใส่มาในรถมอเตอร์ไซค์ระดับนี้กันแทบจะถูกค่ายแล้ว ซึ่งหากเรามองแบบผ่านๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องของการทำราคาให้ไม่สูงจนเกินไป แต่ถ้าย้อนกลับมาดูกันจริงๆ แล้ว มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยโมเดล Ninja 300 นั้น ขนาดของแกนโช้คหน้าจะอยู่ที่ 37 มิลลิเมตร ซึ่งโมเดลใหม่อย่าง Ninja 400 นั้นให้ขนาดแกนโช้คมาถึง 41 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่มากๆในระดับเครื่องยนต์พิกัด 400 ซีซี ซึ่งสอดคล้องกับระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monoshock ที่สามารถปรับระดับได้ถึง 5 ระดับ นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในคลาสนี้

https://i1.wp.com/motorcycle.com.vsassets.com/blog/wp-content/uploads/2017/10/102517-2018-kawasaki-ninja-400-hi_18EX400G_201GN2ALFD00D_A.jpg?resize=980%2C654

ระบบเบรกของ Ninja 400 มาในระบบดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มิลลิเมตร ปั้มเบรก 2 ลูกสูบ ในด้านหน้าและด้านหลัง ดิสก์เดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร พร้อมปั้มเบรกแบบคู่ พร้อมระบบ ABS ที่เป็นมาตรฐาน (โดยเฉพาะในโมเดลที่ส่งขายในยุโรปจำเป็นต้องมีตามกฎข้อบังคับ Euro4) ซึ่งมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง Assistant&Slipper Clutch เช่นเดียวกับที่อยู่ใน Ninja 300 แต่รับการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

ระบบไฟหน้าและไฟท้ายนั้นมาในรูปแบบของ LED ที่ให้ความสว่างที่เพียงพอในการขับขี่ยามค่ำคืน รวมไปถึงระบบไฟเลี้ยวนั้นก็มาเป็นแบบ LED ด้วยเช่นกัน รูปแบบของหน้าจอแสดงผลนั้นยังคงความเป็น Kawasaki ด้วยระบบดิจิตอลผสมอนาล็อก โดยได้เพิ่มความพิเศษด้วยไฟบอกตำแหน่งเกียร์มาให้ด้วย พร้อมช่องไฟ AC ขนาด 12 V มาให้พร้อมใช้งาน

สำหรับราคาของ 2020 Kawasaki Ninja 400 ในประเทศไทยนั้น มีหลากหลายราคาให้ได้เลือกกัน แบ่งออกตามลวดลายและสีสันของแฟร์ริ่งเป็นหลัก โดยมีให้เลือกกันถึง 11 สี ราคาที่ย่อมเยาที่สุดก็จะประกอบไปด้วยสีน้ำเงิน CANDY PLASMA BLUE และสีดำ METALLIC SPARK BLACK ในราคา 196,000 บาท ขยับมาอีกนิดกับสีน้ำเงิน BLUE และสีเงิน SILVER ในราคา 199,500 บาท ขยับมาอีกขั้นกับลวดลายพิเศษ KRT Editiomn ลวดลายของทีมแข่งในรายการ WorldSBK ด้วยชุดสีเขียว-ดำ LIME GREEN / EBONY (KRT EDITION) และสีแดง-ดำ PASSION RED / METALLIC FLAT SPARK BLACK ในราคา 205,000 บาท

1
2020 Kawasaki Ninja 400 สีน้ำเงิน CANDY PLASMA BLUE ราคา 196,000 บาท 

4
2020 Kawasaki Ninja 400 สีดำ METALLIC SPARK BLACK ราคา 196,000 บาท 

3
2020 Kawasaki Ninja 400 สีน้ำเงิน BLUE ราคา 199,500 บาท 

2
2020 Kawasaki Ninja 400 สีน้ำเงิน BLUE ราคา 199,500 บาท 

5
2020 Kawasaki Ninja 400 สีเขียว-ดำ LIME GREEN / EBONY (KRT EDITION) ราคา 205,000 บาท 
6
2020 Kawasaki Ninja 400 สีแดง-ดำ PASSION RED / METALLIC FLAT SPARK BLACK ราคา 205,000 บาท 

มาต่อกันกับอีกหนึ่งเฉดสีใหม่ประจำปี 2020 กับชุดสีทูโทนขาว-ดำ PEARL BLIZZARD WHITE / METALLIC SPARK BLACK ในราคา 210,400 บาท อีกราคาสำหรับสีใหม่ดำ-เขียว EBONY / METALLIC MAGNETIC DARK GRAY ราคา 215,000 บาท และลวดลายใหม่ของทีมแข่ง WorldSBK ในฤดูกาล 2020 กับสีเขียว-ดำ LIME GREEN / EBONY (KRT EDITION) (SE) ที่จะมีความพิเศษที่ถอดลายสีสันของแฟร์ริ่งมาจาก Kawasaki ZX-10RR ในราคา 216,200 บาท พร้อมด้วยสีดำ METALLIC SPARK BLACK / LIME GREEN (SE) ในราคาเดียวกัน ปิดท้ายด้วยตัวท๊อปของปี 2020 ด้วยสีดำ-คราม METALLIC SPARK BLACK / PHANTOM BLUE (HG) ในราคา 226,800 บาท

7
2020 Kawasaki Ninja 400 ขาว-ดำ PEARL BLIZZARD WHITE / METALLIC SPARK BLACK ราคา 210,400 บาท 

8
2020 Kawasaki Ninja 400 สีดำ-เขียว EBONY / METALLIC MAGNETIC DARK GRAY ราคา 215,000 บาท

9
2020 Kawasaki Ninja 400 สีเขียว-ดำ LIME GREEN / EBONY (KRT EDITION) (SE) ราคา 216,200 บาท

10
2020 Kawasaki Ninja 400 สีดำ METALLIC SPARK BLACK / LIME GREEN (SE) ราคา 216,200 บาท

11
2020 Kawasaki Ninja 400 สีดำ-คราม METALLIC SPARK BLACK / PHANTOM BLUE (HG) ราคา 226,600 บาท

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ 2020 Kawasaki ninja 400 อยู่ก็สามารถเข้าไปชมตัวจริงพร้อมทั้งสอบถามรายละเอียดข้อมูลรถเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและตัวแทนจำหน่าย Kawasaki ทั่วประเทศได้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.totalmotorcycle.com www.kawasaki.co.th