เครื่องยนต์ Honda CRF1100L Africa Twin กำลังจะส่งต่อไปอีก 3 โมเดล
ปัจจุบันกฎระเบียบเรื่องของค่ามลพิษนั้น เป็นเรื่องที่หลายๆ ผู้ผลิตมีความจำเป็นที่จะต้องปฎิบัติตาม ซึ่งในปัจจุบันนั้นมาตรฐานใหญ่สุดก็คือ EURO5 ที่มีความเข้มงวดและมีระเบียบทั้งในแง่ของการปล่อยมลพิษรวมไปถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ดังที่เราได้เห็น Honda ผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นที่เริ่มลงมือกับมาตรฐานใหม่กับการเปิดตัว 2020 Honda CRF1100L Africa Twin ในช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดสื่อจากแดนปลาดิบอย่าง Young-Machine เองก็คาดว่า Honda จะให้เครื่องยนต์ 1,082 ซีซี ไปต่อกับโมเดลใหม่อย่างน้อยๆ 3 โมเดล
2020 Honda CRF1100L Africa Twin
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่าบทความนี้เป็นการคาดเดาของ Young-Machine สื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น โดยที่เราทีมงาน Greatbiker เองก็จะใส่ความเห็นส่วนตัวเพิ่มเติมลงไป โดยส่วนแรกเราจะมาทำความรู้จักกับเครื่องยนต์ที่กำลังจะได้ไปต่อนี้ก่อน โดยเครื่องยนต์ที่ว่านี้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,082 ซีซี เพลาข้อเหวี่ยง 270 องศา ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ 2020 Honda CRF1100L Africa Twin โดยที่มีรุ่นย่อยอย่างระบบเกียร์ DCT ที่ติดตั้งอยู่ทั้งในรุ่นปกติและรุ่น Sport Adventure ตัวท๊อปของตระกูล โดยที่ตัวเครื่องยนต์บล็อกนี้ รวมไปถึงรุ่นเก่าเอง ก็ยังไม่ได้ไปต่อในรุ่นไหนกับค่าย Honda เลยแม้แต่รุ่นเดียว โดยที่ตัวรถนั้นยังมาพร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยเช่น ระบบคันเร่งไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่ แกน IMU แบบ 6 แกน รองรับการทำงานร่วมกับระบบ Engine Brake Control,Traction Contorl รวมไปถึงระบบป้องกันล้อหน้าและหลังยกตัวอีกด้วย โดยที่รุ่นใหม่อย่าง CRF1100L ยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ทันสมัยอย่างระบบ Cornering Light และ Cornering ABS มาให้พร้อมใช้งานอีกด้วย
ในปัจจุบันดูเหมือนว่า Honda เองกำลังพัฒนาโมเดลใหม่ที่มีขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์แบบเดียวกับที่ติดตั้งใน CRF1100L จากสิทธิบัตรต่างๆ ที่ทั้งทางผู้ผลิตเปิดเผยออกมา หรือว่ามีการเปิดเผยโดยบุคคลภายนอกนั้น ก็ชี้ได้ว่า Honda นั้นกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อการส่งมอบขุมกำลังใหม่นี้ไปยังโมเดลอื่นๆ โดยมีสามโมเดลที่น่าจับตามองอย่าง Honda Rebel1100, CRF1100X และ GB1100TT
Honda Rebel1100 / DCT น่าจะเป็นโมเดลแรกที่ถูกส่งต่อก่อนใครเพื่อน โดยจุดนี้ทาง Young-Machine และ Greatbiker เองก็เห็นตรงกัน โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นนั้น Rebel 250 นับเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ขายดีตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 รวมไปถึงยังเป็นโมเดลขายดีทั้งในตลาดเอเชียและยุโรป ตั้งแต่ปี 2017 ที่เปิดตัวในระดับสากล โดยตัวรถยังมีโครงสร้างที่รองรับเครื่องยนต์ขนาดกระทัดรัดที่สามารถติดตั้งเครื่องยนต์ 471 ซีซี สำหรับ Rebel 500 ในตลาดโลกและรวมไปถึงความเป็นไปได้ที่โครงสร้างชุดนี้จะสามารถรองรับเครื่องยนต์ 1,082 ซีซีได้ โดยที่มีการปรับในส่วนของ Sub-Frame และระบบช่วงล่าง รวมไปถึงระบบเบรกใหม่ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนัก สืบเนื่องกับภาพจากการจดสิทธิบัตรรวมไปถึงข่าวคราวของการพัฒนาของมันก็มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2018 ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่สูงที่สุดที่ Honda จะเลือกแนวทางของรถ Cruiser Bobber ที่จะได้ไปต่อก่อนใครในขุมกำลังชุดนี้
Honda CRF110X / DCT แน่นอนว่าต้องย้อนกลับไปช่วงสองปีก่อน ในงาน EIMA Show 2018 ที่ค่ายปีกนกได้โชว์ตัวคอนเซปต์อย่างเจ้า CB125X ที่ มาพร้อมกับยางล้อหน้าและล้อหลัง 17 นิ้วสำหรับซี่ล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่และคล่องตัวจากเมืองไปจนถึงทางคดเคี้ยว ทำให้เรานึกถึง Honda X-ADV สกู๊ตเตอร์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองรวมไปถึงการขับขี่บนทางฝุ่น โดยการมาของ Honda CRF1100X นั้นอาจจะทำให้หลายๆคนสงสัยว่ามันไม่ทับไลน์กับ CRF110L หรือยังไง คำตอบก็คือ ไม่ทับกันอย่างชัดเจนครับ CRF1100X จะเป็นรถครอสโอเวอร์ ไม่แตกต่างกับ X-ADV ที่มีความสามารถในการขับขี่ได้ทั้งในเมืองและบนทางวิบาก แต่ตัวรถ CRF1100X นั้นจะออกแบบมาให้ใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก ทั้งในส่วนของวงล้อที่มาในรูปแบบของแม็กอัลลอยด์ และขนาดของยางสองฝั่งที่มีขนาดเท่ากันที่ 17 นิ้ว ดังนั้นเจ้า CRF1100X จะเป็นโมเดลทัวร์ริ่งสายทางเรียบ ที่มีความสามารถในการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวสูงและประสิทธิภาพในการรีดความเร็วบนทางเรียบที่แตกต่างกับ CRF1100L นั่นเอง
โมเดลสุดท้าย GB1100TT / DCT โมเดลสายเรโทรสปอร์ตกึ่งเปลือย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตัวคอนเซปต์ที่เปิดตัวในงาน EIMA Show 2017 กับเจ้า Honda GB400TT Mark II โมเดล Cafe Racer ย้อนยุคจากทางค่าย โดยที่รูปแบบของตัวรถนั้นจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยตัวรถจะมาพร้อมกับแฟร์ริ่งแบบครึ่งท่อน เปลือยฝาข้างและท่อนล่าง เปิดให้เห็นตัวเครื่องยนต์อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับล้อซี่ลวดและแฮนด์แบบ Clip-On จับโช้คและเบาะนั่งแบบ Solos Seat ท้ายสั้นและตูดมด ครบองค์ประกอบของรถ Cafe Racer ที่ควรจะมีอย่างครบถ้วน และที่สำคัญโมเดลนี้ยังมีภาพการจดสิทธิบัตรมาตั้งแต่ปี 2016 ก่อนหน้าที่ CRF จะพัฒนาเครื่องยนต์ 1,082 ซีซี เสียอีก ดังนั้นความเป็นไปได้ของโมเดลนี้ ก็นับว่ายังสูงด้วยสไตล์และแนวทางของตัวรถที่เอื้อต่อกันและแน่นอนว่าเมื่อเครื่องยนต์ผ่านมาตรฐาน EURO5 เป็นที่เรียบร้อย การได้ไปต่อในตลาดใหญ่อย่างยุโรปก็เปิดกว้างไม่ต่างจากสองโมเดลข้างต้นเลยแม้แต่น้อย
รีวิว 2020 Honda CRF1100L Africa Twin
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.