Harley-Davidson อาจจะชะลอการเปิดตัว Bronx
ผลกระทบครั้งใหญ่จากการปรับโครงสร้างภายในองค์กร ด้วยการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่อย่าง Jochen Zeitz ที่ตอนนี้กลับมาปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับตลาดโลกใหม่ที่มีปัจจัยหลายๆ ด้านที่ทำให้เกิดการชะลอตัวของกำไร ทำให้ตรงจุดนี้ Harley-Davidson ต้องกลับมาคำนวนความเป็นไปได้ของการเปิดไลน์อัพรุ่นใหม่ที่กำลังจะมาในอนาคต
เดิมทีแผนการ More Road To Harley-Davidson ที่เป็นแผนงานของ CEO คนเดิม Matt Levatich ที่มีความต้องการในการเปิดตลาดในกลุ่มผู้ใช้งานหน้าใหม่ ด้วยการแตกไลน์การผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในรูปแบบใหม่ๆ โดยมี “LiveWire” รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของทางค่าย ที่ปล่อยสู่ตลาดในปี 2018 แต่ด้วยการตอบรับที่ออกมากลางๆ ไม่ได้หวือหวาตามที่คาดไว้ และบวกกับสถานการณ์การขาดทุนสะสม ก็ทำให้เจ้าตัวต้องก้าวลงจากตำแหน่งและเปิดทางให้ Jochen Zeitz ขึ้นมารับหน้าที่ในการควบคุมทิศทางของบริษัทใหม่
เมื่อเร็วๆ นี้ซีอีโอคนใหม่ของบริษัท ก็ได้เปิดแนวทางใหม่อย่าง “ReWire” ที่จะชะลอการเปิดไลน์อัพโมเดลใหม่ๆ หลังต้องเผชิญกันวิกฤตการระบาดของ COVID-19 จนล่าสุดเป็นแผนงาน “HardWire” ที่โดยเนื้อหาหลักๆ ของมันก็คือการดันผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จและตัดทอนส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นในบางโมเดลออกไป เพื่อป้องกันความสับสนและเป็นการลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งแผนงานใหม่นี้กระทบโดยตรงกับสองโมเดลต้นแบบที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้อย่างชัดเจน
ย้อนกลับไปในปี 2019 ในงาน EICMA Show ประเทศอิตาลี ทางบริษัทได้เปิดตัวสองโมเดลใหม่กับแนวทางใหม่อย่าง Pan America รถมอเตอร์ไซค์แนวทาง ADV รุ่นแรกของทางผู้ผลิตและ Bronx รถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางของ Sport Naked Streetfighter ด้วยขุมกำลังชุดใหม่ Evolution Max สองลูกสูบ V-Tqin 60 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยทั้งสองโมเดลมีขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน โดย Pan America จะมีขนาดความจุที่ 1,250 ซีซี ส่วน Bronx จะมีความจุที่ย่อลงมาเหลือ 975 ซีซี โดยทั้งสองโมเดลเป็น 2 ใน 5 โมเดลแนวทางใหม่ที่บริษัทกำลังพัฒนา
แต่เมื่อการมาถึงของแผนงาน “HardWire” ก็มีข่าวคราวว่าทางบริษัท กำลังต้องการที่จะลดทอนต้นทุนเพื่อการรักษาดุลทางผลกำไรของบริษัท ที่ปัจจุบันทางบริษัทติดลบอยู่ในจำนวนมหาศาล และก็เป็นแผนงานที่สอดคล้องกับแผนงานใหม่ที่ต้องการจะดันผลิตภัณฑ์ที่มีกลุ่มผู้ใช้งานอยู่แล้ว โดยที่ไม่เสี่ยงต่อการต้องไปเปิดกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ โดยที่ CEO คนใหม่ Jochen Zeitz ได้กล่าวไว้ในงานแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ “ เรากำลังปรับปรุงรูปแบบรถจักรยานยนต์ของเราประมาณ 30% โดยมีแผนจะปรับแต่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราเพิ่มเติม สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มที่สำคัญที่สุดในขณะที่สร้างสมดุลระหว่างการลงทุนในกลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพสูง ในบริบทนี้เราวางแผนที่จะขยายการนำเสนอรถจักรยานยนต์อันเป็นสัญลักษณ์ของเราซึ่งส่วนใหญ่สะท้อนจิตวิญญาณของ Harley-Davidson”
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เป็นผลโดยตรงจากยอดขายและผลกำไรที่ลดลงซึ่งถูกขัดขวางโดยปัจจัยต่างๆ เช่นฐานผู้ชมที่มีอายุมากขึ้นและราคาขอตัวผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงขึ้นจากกลไกทางเศรษฐกิจที่ทางรัฐบาลไม่ได้อุดหนุนช่วยเหลือทางบริษัทเหมือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดทางเลือกที่แตกแยกสำหรับลูกค้าหน้าใหม่กลับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาที่ถูกกว่าจากแบรนด์อื่นๆ
ณ เวลานี้ดูเหมือนว่าจะมีเพียง Pan America ที่ยังจะได้ไปต่อในไลน์การผลิตเนื่องจากเครื่องยนต์ขนาดใหญ่นั้นสอดคล้องกับรุ่นอื่นๆมากกว่าและตลาด ADV นั้นมีศักยภาพที่จะเติบโต และมีเม็ดเงินหมุนเวียนในตลาดที่ดีกว่า ซึ่งสวนทางกับ Bronx ที่มีหลายผู้ผลิตเป็นคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่ากับแนวทางที่ทางบริษัทเองยังไม่กล้าจะเสี่ยงสักเท่าไหร่ แต่การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมดสำหรับทั้งสองรุ่นสิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจคือความคิดเกี่ยวกับ Bronx เองก็สามารถกลับมาในรูปแบบดั่งเดิมที่ทางบริษัทถนัดกว่า และเป็นการไม่ให้ขาดทุนจากการพัฒนาเครื่องยนต์และรูปแบบของรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมันดูจะมีประโยชน์มากกว่า
สำหรับตอนนี้นี่เป็นการคาดเดาสถานการณ์ที่ยังไม่มีคำพูดอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิต Harley-Davidson ซึ่งอาจจะเป็นไปตามที่เราวิเคราะห์หรือไม่ก็ยังไม่มีใครทราบได้ หากมีความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเราทีมงาน Greatbiker จะเอามานำเสนอในโอกาสต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.