เปิดตัว All New Suzuki V-Strom 1050XT ในไทยอย่างเป็นทางการ ราคาพิเศษ 579,000 บาท!
ซูซูกิ V-Strom ซีรีย์ ได้เปิดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2002 ในรุ่น V-Strom 1000 (DL1000) ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตแอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ต้นฉบับ ที่มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบ V-Twin DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีโครงสร้างน้ำหนักเบาที่ผลิตจากอะลูมิเนียมแบบ Twin – Spar มาพร้อมกับชุด Half Cowling ที่ลดแรงลมปะทะขณะขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
V-Strom 1000 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากแฟนๆ ที่ชอบการขับขี่แบบท่องเที่ยวทั่วโลก โดยชื่อ V-Strom นั้นมีที่มาจากเครื่องยนต์แบบ V-Twin และ Stream of Storm (กระแสของพายุ) เป็นรถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ได้ดีในด้านประสิทธิภาพและสมรรถนะของเครื่องยนต์แบบ V-Twin ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว และต่อมาในปี 2004 ซูซูกิได้เรียกเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้งด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์สปอร์ตแอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ เป็นครั้งแรกอีกครั้ง นั่นคือ V-Strom 650 ซึ่งใช้เครื่องยนต์แบบ V-Twin 90 องศา แบบเดียวกันกับรุ่น V-Strom 1000 ซึ่งเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนมียอดขายสูงสุดในคลาส และได้มีการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดอีกสองครั้งในปี 2012 และ ปี 2017 ซึ่งสามารถครองใจผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์สไตล์แอดเวนเจอร์ขนาดกลางได้จวบจนปัจจุบัน
ในปี 2013 ซูซูกิ ได้ปลุกกระแสรถจักรยานยนต์สปอร์แอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ในคลาส 1000 ซีซี อีกครั้ง ด้วยการปรับโฉมลุคของ V-Strom 1000 ใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งได้พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ ติดตั้งอุปกรณ์อันทันสมัยและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการขยายปริมาตรกระบอกสูบจาก 996 ซีซี เป็น 1,037 ซีซี พร้อมเพิ่มระบบ Traction Control และดีไซน์โฉมหน้าปากนกที่ได้รับการถ่ายทอดรูปโฉมจาก ซูซูกิ DR-Z รถแข่งทางฝุ่นชื่อดัง และรถ โปรดักชั่นสุดโหดอย่าง ซูซูกิ DR-BIG โดย DNA ของทั้ง 2 รุ่นที่กล่าวมานี้ ได้ถูกส่งผ่านมายัง V-Strom Series ในรุ่นกลาง และรุ่นเล็กอย่าง V-Strom 650 และ V-Strom 250 ในปี 2017 อีกด้วย
และสำหรับปี 2020 นี้ ทุกท่านจะได้พบกับรถจักรยานยนต์สปอร์แอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ ที่มีดีไซน์ปากนกอันเป็นเอกลักษณ์ ได้ถูกนำมาถ่ายทอดรูปโฉมอีกครั้งให้มีความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น นี่คือ All New Suzuki V-Strom 1050XT ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์เรือธงที่สมบูรณ์ที่สุดในแบบฉบับของ V-Strom ซีรีย์
แนวคิดผลิตภัณฑ์ ของ V-Strom 1050XT ใหม่ คือ “Master of Adventure” หรือ “เจ้าแห่งการผจญภัย” เพื่อให้เป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตแอดเวนเจอร์ทัวร์เรอร์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่าง ไร้ขีดจำกัด โลดแล่นไปได้ทุกที่อย่างอิสระ แม้ในการขับขี่บนที่ลาดชันหรือภูเขาสูง
ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบการขับขี่สไตล์แอดเวนเจอร์ ส่วนใหญ่ต้องการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีความดิบและเทคโนโลยีที่ทันสมัยผสมผสานกัน ซูซูกิ V-Strom 1050XT ใหม่ จึงผสานประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แบบ V-Twin 90 องศา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะ พร้อมด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ที่ล้ำสมัย เช่น Suzuki Intelligent Ride System (S.I.R.S) ตลอดจนได้พัฒนาและอำนวยความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยกล่อง Inertial Measurement Unit (IMU) ที่ทำหน้าที่ประมวลผลลักษณะการขับขี่ องศาของตัวรถในหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีระบบต่างๆ ที่บรรจุไว้ในรถจักรยานยนต์ V-Strom 1050 คันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Motion Track Brake System, Hill Hold Control System และ Slope Dependent Control System ทั้งยังให้สมรรถนะ พร้อมฟิลลิ่งในการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ซูซูกิ V-Strom 1050XT จึงเป็นคำตอบและพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่หลงใหลในสไตล์แอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง เพราะนี่คือ “Master of Adventure”
Acclaim Suzuki V-Twin Engine
ซูซูกิ V-Strom 1050XT ได้บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์แบบ V-Twin 90 องศา DOHC 1,037 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำที่ได้รับการพัฒนามาใหม่ล่าสุด ให้อัตราเร่งที่ดี แต่อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ เครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามพร้อมจะทะยานตั้งแต่เปิดคันเร่ง ให้แรงบิดที่ดีเยี่ยมในรอบต่ำและกลาง พร้อมให้แรงบิดสูงสุดในรอบเครื่องยนต์ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความสนุกในการขับขี่ในการขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่ในเมือง หรือการขับขี่นอกเมือง แม้สภาพอากาศที่มีลมปะทะ หรือสภาพถนนที่เป็นทางฝุ่น ซูซูกิ V-Strom 1050XT สามารถเป็นตอบโจทย์ และพร้อมเป็นคู่หูของคุณ พาคุณโลดแล่น ผจญภัยในการขับขี่ได้ในทุกที่ๆคุณอยากไป
Cruise control system
สะดวกสบายให้ถึงขีดสุด ด้วยระบบ Cruise Control ที่ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ ซูซูกิ V-Strom 1050XT ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ในการขับขี่ระยะทางไกล ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วคงที่ได้โดยไม่ต้องบิดคันเร่งตลอด ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่เมื่อยล้าตลอดระยะเวลาการเดินทาง นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างระบบ Ride by Wire และได้ทำ Program กล่องสมองกลใหม่ เพื่อให้การใช้งานระบบ Cruise Control เป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยสามารถตั้งค่าความเร็วคงที่ได้ระหว่าง 50 – 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ใช้เกียร์ 4 ขึ้นไป
” สวิตช์ควบคุมระบบ Cruise Control ถูกติดตั้งไว้ตำแหน่งแฮนด์ทางด้านขวา และ Selector Switch (Up/Down) ที่ปรับเพิ่มและลดความเร็ว เพื่อทำการเลือกความเร็วในขณะขับขี่นั้น ถูกติดตั้งไว้ตำแหน่งบนแฮนด์ด้านซ้ายของผู้ขับขี่
” ระบบการทำงานของ Cruise Control จะถูกทำการยกเลิกเมื่อผู้ขับขี่ได้มีการควบคุมรถดังต่อไปนี้ บีบมือเบรก, บีบมือคลัตช์, มีการเปลี่ยนเกียร์, บิดคันเร่ง หรือความเร็วขณะขับขี่ต่ำกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเกียร์ 3 หรือต่ำกว่า
” เมื่อระบบได้ทำการยกเลิก ผู้ขับขี่สามารถกลับไปเปิดระบบโดยใช้ค่าความเร็วคงที่เดิมได้ด้วยการกดปุ่ม “Res” (Resume)
Ride-by-Wire Electronic Throttle Control System
” Ride-by-Wire Throttle System ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีขนาดเบา และเล็กกะทัดรัดกว่าระบบลิ้นเร่งเปิดอากาศแบบสายคันเร่งแบบเก่า และในรุ่นใหม่นี้ได้มีการเพิ่มขนาดปากลิ้นเร่งให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 4 มม. จาก 45 มม. เป็น 49 มม. อีกทั้งใช้ระบบอิเลคทรอนิกส์ในการควบคุมเรือนลิ้นเร่งแทนการใช้คันเร่งแบบสายอีกด้วย เรือนลิ้นเร่งได้ถูกติดตั้งไว้ทั้งหมด 2 ชุด โดยติดตั้งไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังกระบอกสูบ แต่ละเรือนลิ้นเร่งนั้นจะมีวาล์วลิ้นปีกผีเสื้อ ทำงานแยกกันอย่างอิสระ เพื่อเปิดและปิดอากาศเข้าในห้องเผาไหม้ ส่งผลให้สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ได้เที่ยงตรง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการเดินคันเร่ง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดตลอดระยะการเดินทาง
” เมื่อผู้ขับขี่ทำการบิดคันเร่ง สัญญาณอิเลคทรอนิกส์จะส่งผ่านจาก Acceleration Position Sensor, Gear Position Sensor และ Crank Position Sensor ด้วยระบบ Ride-by-Wire กล่อง ECM จะทำการประมวลผลข้อมูลจาก Accelerator Position, Crank Position, Gear Position, Engine Speed, Front/Rear Wheel Speed และ O2 Sensor ในการส่งผ่านอากาศโดยวาล์วลิ้นเร่ง (Throttle Valve) เข้าห้องเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ในขณะที่ขับขี่ในความเร็วที่ต่ำที่สุด ระบบนี้ยังสามารถปรับความเร็วรอบเครื่องยนต์ให้มีความสมดุลอีกด้วย
” แต่ละสูบมีหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ 10 รู ถูกติดตั้งไว้ที่ช่องพอร์ตไอดีโดยตรง ทำให้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นฝอยละอองมากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ในห้องเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์
” ระบบควบคุมลิ้นเร่งแบบ Ride-by Wire ได้มีการพัฒนาให้ผู้ขับขี่ได้รับอรรถรสเสมือนการบิดคันเร่งแบบสายมากที่สุด อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ทำงานของได้อย่างราบรื่น
SDMS (Suzuki Drive Mode Selector)
” SDMS (Suzuki Drive Mode Selector) นั้นเป็นระบบที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ สมรรถนะของเครื่องยนต์เพื่อให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ เพื่อตอบสนองความสนุกของผู้ขับขี่ตลอดระยะการเดินทาง โดยสามารถเลือกใช้ระบบได้ 3 โหมด
” A Mode ให้สมรรถนะกำลังของเครื่องยนต์ และการตอบสนองต่อคันเร่งสูงสุด
B Mode ให้สมรรถนะกำลังของเครื่องยนต์ และการตอบสนองต่อคันเร่งในการใช้งานในแบบทั่วไป
C Mode ให้สมรรถนะกำลังเครื่องยนต์และการตอบสนองต่อคันเร่งในการใช้งานในแบบประหยัด
SDMS ทำงานร่วมกับระบบ Traction Control
Traction Control System
ซูซูกิ V-Strom 1050XT ใหม่ ได้พัฒนาระบบ Traction Control ให้มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ในการควบคุมรถได้ทุกสภาพถนน และลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ในระยะทางไกล โดยระบบ Traction Control ใหม่นี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 3 โหมด และสามารถปิดระบบการทำงานได้เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ของผู้ขับขี่ในแต่ละช่วงเวลาและสภาพถนน
” ระบบ Traction Control นี้จะทำการประมวลผลจากเซ็นเซอร์ทั้ง 5 จุด โดยเซ็นเซอร์จะตรวจวัดความเร็วในล้อหน้าและล้อหลัง, ตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อ, ตำแหน่งองศาเพลาข้อเหวี่ยง และตำแหน่งเกียร์ เมื่อล้อหมุนในขณะขับขี่ ระบบจะส่งสัญญาณ และประมวลผลในการควบคุมกำลังของเครื่องยนต์โดยปรับลดไฟการจุดระเบิดและอากาศที่ส่งไปยังในห้องเผาไหม้และลดกำลังของเครื่องยนต์อย่างทันที
” ผู้ขับขี่สามารถสามารถเลือกเปิดระบบการใช้งานได้ 3 โหมด หรือเลือกที่จะปิดการทำงานของระบบได้ โดยแต่ละโหมดจะมีสมรรถนะที่แตกต่างกันไปดังต่อไปนี้
การเลือกใช้ Traction Control ระดับที่ 1 ผู้ขับขี่สามารถสนุกกับการขับขี่แบบสปอร์ตได้อย่างเต็มที่ โดย ระบบ Traction Control จะทำงานเพียงเล็กน้อย
การเลือกใช้ Traction Control ระดับที่ 2 เหมาะสมกับการขับขี่ทั่วไปและสภาพถนนปกติ ระบบจะทำงานโดยหาความสมดุลที่เหมาะสมในการขับขี่ในสภาวะปกติ
การเลือกใช้ Traction Control ระดับที่ 3 สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความปลอดภัยขณะขับขี่บนถนนเปียกลื่น ซึ่งระบบ Traction Control จะทำงานอย่างเต็มระบบ
” สวิตช์โหมดการเลือกระบบ Traction Control ถูกติดตั้งไว้บนแฮนด์ทางด้านซ้ายมือเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ เพื่อให้สามารถใช้มือขวาควบคุมคันเร่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Camshaft and Cam-Timing
เพลาลูกเบี้ยวไอดีและไอเสียได้มีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และสามารถสร้างกำลังเครื่องยนต์ได้เต็มพิกัดตลอดจนประหยัดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด
Piston and Piston Rings
” ลูกสูบแบบ Forged ขนาด 100 มม. แบบใหม่ ที่มีคุณสมบัติในเรื่องความทนทาน น้ำหนักเบา และผ่านขบวนการชุบเคลือบผิวเพื่อให้มีความทนทานมากยิ่งขึ้น
Dual Spark Plugs per Cylinder
” ด้วยเทคโนโลยีการจุดระเบิดแบบหัวเทียนคู่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในรถจักรยานยนต์คลาสนี้ของ ซูซูกิ V-Strom ได้ถูกถ่ายทอดและพัฒนามาจากรุ่นสู่รุ่น โดยการวางตำแหน่งของหัวเทียนคู่แบบอิริเดียมให้อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของห้องเผาไหม้มากที่สุด ส่งผลให้การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพิ่มพลังและกำลังของเครื่องยนต์ได้เต็มที่ในทุกรอบการจุดระเบิด ตอบสนองอัตราเร่งได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังทำให้เครื่องยนต์เดินเรียบในรอบเดินเบา และยังสตาร์ทติดง่ายอีกด้วย
” ในกระบอกสูบแต่ละสูบ หัวเทียนอิริเดียมแบบคู่ได้ถูกติดตั้งและทำงานแยกแบบอิสระจากกัน เพื่อการเผาไหม้ในห้องเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยหัวเทียนตัวแรกนั้นจะถูกติดตั้งไว้ตรงกลางของห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์สำหรับการทำงานในทุกรอบความเร็ว ส่วนตัวที่สองจะถูกติดตั้งไว้ทางด้านข้าง โดยมีทำหน้าที่หลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ในรอบความเร็วต่ำ และช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกทางหนึ่งด้วย
Low RPM Assist
” ระบบ Low RPM Assist จะช่วยเพิ่มรอบเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ ขณะที่รถเคลื่อนตัว หรือการขับขี่ในขณะรอบความเร็วที่ต่ำ ส่งผลให้การออกตัวเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และสามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการขับขี่ในสภาพการจราจรที่แออัด ประกอบกับการนำเทคโนโลยี Ride-by-Wire มาใช้ ทำให้การควบคุมรอบเดินเบาในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำเป็นไปได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ECM
กล่องสมองกลอัจฉริยะ ECM ได้มีการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Suzuki Easy Start System
” ระบบการช่วยสตาร์ท (Suzuki Easy Start System) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์โดยการกดปุ่มสตาร์ทเพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าเครื่องยนต์ขณะสตาร์ทจะมีอุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงก็ตาม กล่องสมองกล ECM จะทำการควบคุมมอเตอร์สตาร์ทให้ทำงานโดยอัตโนมัติจนกว่าเครื่องยนต์จะสตาร์ทติดและ ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องกดสวิตช์สตาร์ทค้างไว้จนกว่าเครื่องยนต์จะเริ่มทำงาน
Suzuki Clutch Assist System (SCAS)
” ระบบ Suzuki Clutch Assist ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังผ่อนแรงในการบีบมือคลัตช์ขณะเปลี่ยนเกียร์ตลอดจนยังช่วยป้องกันคลัตช์ลื่นอีกด้วย
Radiator
” หม้อน้ำได้มีการพัฒนาใหม่ เพื่อให้มีการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถระบายความร้อนจากเดิม 22.6 kw เป็น 26.1 kw เพื่อรองรับกับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากขึ้น
Liquid Cooled Oil Cooler
” ผสานการระบายความร้อนแบบเหนือชั้น โดยนอกจากการระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำแล้ว ซูซูกิ V-Strom 1050XT ใหม่ ยังได้นำระบบการระบายความร้อน Oil Cooler แบบใหม่ ที่มีประสิทธิภาพ น้ำหนักเบา และขนาดกะทัดรัดมาติดตั้งอีกด้วย เพื่อระบายความร้อนระบบหล่อลื่นในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในการขับขี่ช่วงรอบความเร็วสูง
ด้วยโครงสร้างตัวถังที่มีน้ำหนักเบา และขนาดกะทัดรัด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ ซูซูกิ V-Strom 1050XT ที่สามารถถ่ายทอดและส่งผ่านคาแรคเตอร์การขับขี่ที่สะดวกสบาย สนุกสนานไปยังผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับเครื่องยนต์แบบ V-Twin ที่มีขนาดกะทัดรัด และไม่กว้างเหมือนเครื่องยนต์แบบสูบเรียงทั่วไป ทำให้สามารถออกแบบรูปทรงของ ซูซูกิ V-Strom 1050XT ให้มีความเพรียวบาง ถึงแม้ว่าจะมีถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีขนาดใหญ่ขนาด 20 ลิตร ก็ตาม นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ขับขี่สามารถเหยียดขาลงพื้นได้สะดวกสบายโดยไม่มีชิ้นส่วนใดๆมาขวาง
Frame and Swingarm
ซูซูกิ V-Strom 1050XT ได้เลือกใช้ เฟรมอะลูมิเนียมอัลลอยด์แบบ ทวิน-สปา และสวิงอาร์ม ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งเหนือกว่าเฟรมเหล็กแบบทั่วไป ให้ความสมดุลที่สมบูรณ์ นุ่มนวล ควบคุมง่ายและคล่องแคล่ว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถโลดแล่นในทุกการเดินทาง และท่องเที่ยวผจญภัยแม้ใส่กล่องอเนกประสงค์ใส่สัมภาระในระยะทางไกลได้อย่างราบรื่น อีกทั้งสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพขณะขับขี่ในทางที่คดเคี้ยวอีกด้วย
Dimensions and Ergonomics
” ซูซูกิ V-Strom 1050XT ได้ถูกออกแบบตำแหน่งการนั่งและการขับขี่ตามหลักสรีระศาสตร์ประกอบกับความยาวช่วงล้อที่มีขนาดถึง 1,555 มม. ส่งผลให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารมีความสะดวกสบายสูงสุดตลอดระยะการเดินทาง ไม่เมื่อยล้าแม้ขับขี่ในระยะทางไกล
Inertial Measurement Unit (IMU)
ระบบ IMU ใน ซูซูกิ V-Strom 1050XT ใหม่ จะทำหน้าที่ประมวลการเคลื่อนที่ ท่าทางและองศาของตัวรถ 3 แกนหลัก 6 ทิศทาง ไม่ว่าจะเป็น ด้านหน้า, หลัง การเอียงซ้าย เอียงขวา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เพื่อมาใช้ประมวลผลและทำงานร่วมกับระบบการขับขี่ทั้ง Motion Track Brake System, Hill Hold Control System และ Slope Dependent Control System
Motion Track Brake System and Combine Brake System
Motion Track Brake System Overview Diagram
” ระบบ Motion Track Brake ช่วยในการควบคุมการทรงตัวระหว่างเข้าโค้ง และลดอาการชะงักเมื่อต้องเบรกในทางโค้งหรือลงทางลาดชัน โดยระบบจะได้รับข้อมูลจากการเคลื่อนที่และท่าทาง องศาของตัวรถใน 6 ทิศทาง บน 3 แกนหลัก ไม่ว่าจะเป็น องศาทางด้านหน้า ด้านหลัง การเอียงซ้าย เอียงขวา และการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา จากกล่อง IMU เอามาประมวลผลและทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ในการใช้เบรกในทางโค้ง เมื่อผู้ขับขี่ทำการเบรกรถ ระบบนี้จะทำการประเมินว่าระบบ ABS จะทำงานร่วมกับระบบเบรกหรือไม่ โดยประมวลผลจากตำแหน่งของรถและความเร็วล้อหน้าและล้อหลัง ถ้ามีความจำเป็นใช้ระบบ ABS ทำงานร่วมด้วย ระบบจะลดแรงดันเบรก และยังคงควบคุมระบบโดยการเพิ่มและลดแรงดันเบรกในขณะขับขี่
” ระบบ Combine Brake จะทำงานอัตโนมัติโดยใช้เบรกหลังเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อแรงดันเบรกในล้อหน้าเพิ่มสูงขึ้น
” จากระบบนี้ ผู้ขับสามารถเลือกโหมดระบบเบรก ABS ได้ถึง 2 ระดับ โดยระดับ 1 นั้น ระบบจะทำการป้องกัน ล้อล็อคน้อยที่สุดสำหรับการขับขี่ทั่วไป ในขณะที่การเลือกระดับ 2 จะมีการทำป้องกันล้อล็อคสำหรับการขับขี่ ด้วยความเร็วสูง
Hill Hold Control System
Hill Hold Control System Overview Diagram
” ในขณะที่ผู้ขับขี่ได้ทำการจอดรถ หรือหยุดพักรถบนพื้นที่ทางลาดชัน กล่อง IMU จะตรวจสอบท่าทางและองศา ตัวรถทันที และจะสั่งงานให้เบรกหลังทำงานโดยอัตโนมัติเป็นเวลาประมาณ 30 วินาทีเพื่อป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลแม้ว่าผู้ขับขี่จะปล่อยมือเบรกหรือไม่เหยียบเบรกก็ตาม ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถมีสมาธิกับการออกตัวรถจากที่ลาดชั้นได้ดียิ่งขึ้น
” เมื่อผู้ขับขี่ปล่อยการบีบมือเบรกหรือ ไม่เหยียบเบรก กล่อง ECU จะทำการตรวจสอบและระบบ Hill Hold Control หรือระบบช่วยจอดรถและออกตัวบนทางลาดชัน จะทำงานอัตโนมัติโดยรถจะไม่ลื่นไถล ผู้ขับขี่สามารถยกเลิกระบบนี้ได้โดยการบีบมือเบรกหน้าสองครั้งอย่างเร็ว ระบบก็จะทำการยกเลิกและสามารถขับขี่ขึ้นเนินได้อีกครั้ง
” ผู้ขับขี่สามารถปิดระบบ Hill Hold Control ได้ซึ่งสวิตช์ถูกติดตั้งไว้บนแฮนด์ทางด้านซ้าย
Slope Dependent Control System
Slope Dependent Control System Overview Diagram
” ระบบ Slope Dependent Control System หรือระบบป้องกันล้อหลังยก กล่อง IMU ใหม่นี้จะทำการตรวจสอบท่าทางและองศาของตัวรถขณะขับขี่อย่างต่อเนื่อง แม้ผู้ขับขี่กำลังขับรถลงเนินเขาก็ตาม และเมื่อผู้ขับขี่ใช้เบรกขณะลงเนินเขา กล่องควบคุมอิเลคทรอนิกส์จะควบคุมแรงดันเบรกเพื่อป้องกันการยกล้อหลังขณะลงเนิน
Load Dependent Control System
Load Dependent Control System Overview Diagram
” ระบบ Load Dependent Control นี้จะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการเบรกได้อย่างเหมาะสมที่สุดเพื่อรองรับสภาวะ การโหลด หรือ น้ำหนักบรรทุกที่อยู่บนตัวรถขณะขับขี่ ระบบ ABS มีเทคโนโลยีการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงการลดความเร็วด้วยการเบรกอย่างต่อเนื่องโดยผ่านข้อมูลของแรงดันไฮดรอลิกในขณะขับขี่แม้ว่าน้ำหนักบรรทุกบนตัวรถจะเพิ่มขึ้น หรือลดลงก็ตาม เมื่อระบบนี้ตรวจพบว่าการชะลอความเร็วเบรกเปลี่ยนจากการเบรกก่อนหน้านี้ ระบบจะทำการชดเชยแรงดันเบรกเพื่อรองรับการเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ขับขี่สามารถรู้สึกถึงประสิทธิภาพการเบรกที่มั่นคงโดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักบรรทุกบนตัวรถ
” ระยะเบรกจะเปลี่ยนไปตามสภาพการโหลด หรือน้ำหนักบรรทุกบนตัวรถ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ใช้แรงดันเบรกที่เท่ากัน การบังคับหยุดรถด้วยการเบรกจะใช้ระยะการเบรกเพิ่มมากขึ้นเมื่อรถได้มีการบรรทุกเต็มไปด้วยสัมภาระ ในทางกลับกันการชะลอตัวของการเบรก หรือทำให้ระยะการเบรกจะสั้นลงเมื่อน้ำหนักบรรทุกบนตัวรถน้อยกว่า
” ระบบนี้จะเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของการลดความเร็วเบรก เมื่อระบบนี้ตรวจพบว่าการชะลอความเร็วเบรกเปลี่ยนจากการเบรกก่อนหน้าความดันเบรกจะถูกชดเชย ดังนั้นผู้ขับขี่สามารถรู้สึกถึงประสิทธิภาพการเบรกที่มั่นคงโดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงการโหลด หรือน้ำหนักบรรทุก
Newly Shaped Separate Seat with Height Adjustment
” เบาะนั่งของผู้ขับขี่สามารถปรับให้มีความสูงจากตำแหน่งปกติได้ถึง 20 มม. ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือที่ได้จัดเตรียมไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับตัวรถ นอกจากนี้ ซูซูกิ V-Strom 1050XT ได้ถูกเลือกวัสดุหุ้มเบาะคุณภาพเยี่ยมที่มีคุณสมบัติกันลื่นไถลแม้ขับขับขี่ในระยะทางไกล และปรับความนุ่มของเบาะไม่ให้แข็งและนุ่มเกินไปเพื่อให้ผู้ขับขี่มีความสะดวกสบายสูงสุดและไม่เมื่อยล้าขณะขับขี่
Fully Inverted Front Fork
” ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Inverted Telescopic (โช้คหัวกลับ) และสามารถปรับ ค่าสปริงพรีโหลดได้ มีสมรรถนะในการซับแรงสั่นสะเทือน และสมรรถนะในการทรงตัวที่ดีเยี่ยม โดยผู้ขับขี่สามารถปรับค่าความหนืดของโช้ค เพื่อให้เหมาะสมในการขับขี่ตามสไตล์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบสปอร์ต หรือทัวร์ริ่งก็ตาม
Rear Suspension
” ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Link Type ทำงานร่วมกับ โช้คเดี่ยวจาก KYB ที่สามารถปรับค่าความหนืดของโช้ค และค่าสปริงพรีโหลด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัด สามารถปรับได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ เพียงแค่ใช้มือปรับหมุนก็ใช้งานได้เลย
Radial Mount Brake Calipers and Brake System
” ระบบดิสก์เบรกหน้าแบบทวินดิสก์ที่ขนาดจานดิสก์หน้าขนาด 310 มม. ที่ทำมาจาก Stainless Steel พร้อมคาลิเปอร์แบบ 4 พอร์ต พร้อมด้วยเบรกหลังแบบดิสก์เบรกขนาด 260 มม. เพิ่มความมั่นใจไปอีกขั้นขณะหยุดรถด้วยการนำชุดควบคุมระบบเบรก ABS มาทำงานร่วมกันกับระบบเบรกหน้า-หลังที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คุณสามารถพารถคู่ใจโลดแล่นมั่นใจกับการผจญภัยได้ในทุกๆที่
Wheels and Tires
” ซูซูกิ V-Strom 1050XT ใช้วงล้อแบบซี่ลวดหน้า กับวงล้ออะลูมิเนียมที่มีขนาดความกว้าง 2.5 นิ้ว และล้อหลังขนาด 4 นิ้ว ที่มีคุณสมบัติซับแรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือนในการเดินทางแบบแอดเวนเจอร์ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังเลือกใช้ยางที่มีสมรรถนะสูงในการยึดเกาะถนน และการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเพิ่มความเสถียรภาพและความคงทนอีกด้วย
Aluminum Tapered Handlebar
” แฮนด์เดิลบาร์แบบ Aluminum Tapered ได้ถูกเลือกใช้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ผลิตจากอะลูมิเนียมให้ความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา ให้ความรู้สึกสไตล์การขับขี่แบบออฟโรด ซับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี และสามารถลดน้ำหนักโดยรวมของรถได้ถึง 292 กรัม
Footrest
” ที่พักเท้าของผู้ขับขี่ได้ถูกออกแบบใหม่ให้มีขนาดกว้างกว่าที่พักเท้ารุ่นเดิม ผลิตจากเหล็กกล้า ดูแกร่ง บึกบึน มีความเหนียว และแข็งแรง ทนทาน ทุกสภาพการขับขี่
Multi Function Instrument Cluster
” เรือนไมล์ และหน้าจอแสดงผล ซูซูกิ V-Strom 1050XT เป็นแบบ Full – LCD ที่มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา พร้อมจอแสดงผลข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับตัวรถได้ครบครัน และผู้ขับขี่สามารถอ่านข้อมูลบนหน้าจอได้ชัดเจน และง่ายดาย ในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน
” มาตรแสดงผลของเรือนไมล์ ซูซูกิ V – Strom 1050XT :
Speedometer
Driving Range
Tachometer
Average Fuel Consumption
Odometer
Instant Fuel Consumption
Dual Trip Meter
Traction Control Mode
ABS Mode
Fuel Level Indicator
Gear Position
Clock
Service Reminder
Ambient Air Temperature Indicator
Voltage Meter
Engine Coolant Temperature Indicator
SDMS Mode
Service Reminder
Hill Hold Indicator
Cruise Control Indicator Light
Engine RPM Indicator Light
Freeze Indicator Light
Turn Signal Indicator Light
High Beam Indicator Light
Traction Control Indicator Light
ABS Indicator Light
Neutral Indicator Light
” มาตรแสดงผล SDMS (Mode), Traction Control (Mode) และ ABS (Mode) ได้ถูกจัดไว้ในตำแหน่งเดียวกันใต้จอแสดงผลความเร็วรอบเครื่องยนต์ (Tachometer) เพื่อให้ ผู้ขับขี่สามารถอ่านข้อมูลได้ง่าย และสามารถเลือกระบบและปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานให้เข้ากับสไตล์ในการขับขี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น
” มาตรแสดงผลการทำงานของ Cruise Control ถูกวางตำแหน่งอยู่บนด้านขวาของมาตรวัดความเร็วเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นและปรับค่าความเร็วได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
” มาตรแสดงตำแหน่งเกียร์ขนาดใหญ่ ถูกติดตั้งไว้กึ่งกลางของมาตรวัดความเร็วรอบเครื่องยนต์เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เห็นความสัมพันธ์ของรอบเครื่องยนต์และตำแหน่งเกียร์ ขณะขับขี่ได้ชันเจนยิ่งขึ้น
” มาตรแสดงความเร็วอยู่บนมุมขวาของเรือนไมล์ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับค่าหน่วยความเร็วเป็นแบบ กิโลเมตรต่อชม. (km/h) หรือ ไมล์ต่อชม. (mph)
” มาตรวัดระยะทาง (Odometer) และมาตรวัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจะแสดงผลด้านล่างขวาของเรือนไมล์ ส่วนนาฬิกาและอุณหภูมิอากาศภายนอกจะถูกแสดงบนเรือนไมล์อยู่ตลอดเวลาการขับขี่
” สัญญาณไฟสูง, ไฟเลี้ยว, ไฟ ABS, ไฟเตือน Traction Control และสัญญาณ ไฟเตือนอื่นๆ แบบ LED จะถูกติดตั้งไว้ทางด้านซ้ายและขวาของจอแสดงผล แบบ LCD บนเรือนไมล์
Control Switch and Control Mode Display
” สวิตซ์ควบคุม และสวิตซ์เลือกโหมดฟังก์ชั่นต่างๆ จะถูกติดตั้งบนแฮนด์ทางด้านซ้าย ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้ตามสไตล์การขับขี่โดยการกดปุ่ม Up/Down ได้อย่างสะดวกสบาย และสวิตซ์สตาร์ท, ไฟขอทาง และ Cruise Control อยู่ทางด้านขวามือ
Suzuki Drive Mode Selector (SDMS)
ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้โหมด Suzuki Drive Mode Selector (SDMS) ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ได้ถึง 3 โหมด เพื่อการขับขี่ 3 สไตล์ A-Mode, B-Mode และ C-Mode โดยกดปุ่ม Switch Down A > B > C หรือ กดปุ่ม Switch Up C > B > A
Traction Control System
ระบบ Traction Control ใหม่นี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกปิดระบบการใช้งานได้หรือสามารถเลือกระบบการตอบสนองการทำงานของระบบ Traction Control ได้ถึง 3 โหมด ตั้งแต่ 1 ถึง 3 เมื่อผู้ขับขี่ได้ทำการเปิดระบบ สัญญาณเตือน Traction Control (TC) จะกระพริบบนหน้าจอ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่ม Switch Down เพื่อทำการเลือกโหมด 1 > 2 > 3 หรือกดปุ่ม Switch Up เปลี่ยนโหมด 3 > 2 > 1
ABS Mode
ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการทำงานของระบบเบรก ABS ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ 2 ระดับ Mode 1 และ Mode 2 โดยการกดสวิตช์แช่นานกว่า 1.5 วินาทีเพื่อเลือกระดับการทำงานของ ABS จาก 2 > 1 และเลือกจาก 1 > 2 โดยการกดสวิตช์เป็นเวลามากกว่า 1.5 วินาที เช่นเดียวกันระบบ Cruise Control สามารถอยู่ในโหมด Standby เมื่อผู้ขับขี่ได้ทำการกดปุ่มบนสวิตช์บนแฮนด์ทางด้านซ้าย
เมื่อผู้ขับขี่ได้ทำกดสวิตช์ Cruise Control บนแฮนด์ด้านขวาแล้วจอแสดงผลจะแสดงสัญลักษณ์ Cruise Control และผู้ขับขี่สามารถเลือกเซ็ต ค่าความเร็วบนแฮนด์ด้านซ้าย
ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนค่าความเร็วได้โดยการกดปุ่มสวิตช์ Up และ Down
Headlights and Turn Signals
” ไฟหน้าได้รับการถูกออกแบบใหม่รูปทรงสี่เหลี่ยมและติดตั้งไว้ตรงกลางด้านหน้า ให้แสงส่องสว่างและทัศนวิสัย ที่ดีเยี่ยมในการขับขี่ด้วยการใช้หลอดไฟหน้าแบบ LED ที่มีประสิทธิภาพ และไฟหรี่แบบ LED คาดตรงกลางระหว่างไฟต่ำและไฟสูงของเลนส์ไฟ นอกจากนั้นยังได้นำหลอดไฟแบบ LED มาใช้ในสัญญาณไฟเลี้ยวอีกด้วย
12V DC Outlet
” ช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12 โวลต์ เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ถูกติดตั้งไว้ใต้เบาะนั่ง สะดวกสบาย ไม่พลาดการติดต่อสื่อสารอย่างแน่นอน
USB Outlet
” นอกจากการมีช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12 โวลต์มาให้แล้ว ซูซูกิ V-Strom 1050XT ยังได้มีพอร์ต USB ซึ่งติดตั้งไว้ข้างเรือนไมล์ทางด้านซ้าย เพื่อไว้ในการชาร์จ โทรศัพท์, สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์เนวิเกเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้น ไม่พลาดในทุก การเดินทาง
Engine Under Cover, Knuckle Cover and Accessory Bar
” ฝาครอบเครื่องยนต์ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพเยี่ยมโดยผ่านขบวน
การเคลือบผิวที่มีความสวยงาม และเงางาม ส่งผลให้ตัวรถมีความดุดันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังป้องกันความเสียหายต่อตัวรถในขณะขับขี่
” การ์ดแฮนด์ดีไซน์สไตล์แอดเวนเจอร์ เข้ากับตัวรถ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดมากับ V-Strom 1050XT ทำให้ผู้ขับขี่ได้ความรู้สึกขับขี่สไตล์แอดเวนเจอร์ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังป้องกันมือจากน้ำ ฝน ลม และเศษหินที่กระเด็นมาถูกขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี
Height Adjustable Windscreen
” ชิลด์หน้าได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อให้เข้ากับดีไซน์ของตัวรถใหม่ทั้งหมด และได้ทำการทดสอบผ่านอุโมงค์ลมเพื่อให้ได้ค่าแรงต้านทานจากการปะทะของลมให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ชิลด์หน้ายังสามารถปรับระดับได้ในแนวตั้งได้ถึง 11 ระดับ หรือ 50 มม.โดยทำการปลดกลไกล็อคทางด้านหน้าที่ผลิตจากอะลูมิเนียม ดูสวยงาม มาพร้อม Convenient Bar ที่เป็นโครงยึดชิลด์หน้า โดยสามารถเป็นฐานสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ได้ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน หรือ เนวิเกเตอร์ อีกด้วย
Center Stand
” V-Strom 1050XT ใหม่นี้ ได้ติดตั้งขาตั้งกลางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อความมั่นคงขณะจอด อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกในขณะใส่สัมภาระในกล่องอเนกประสงค์ได้อย่างสะดวกสบาย และง่ายต่อการเข้ารับบริการบำรุงรักษารถอีกด้วย
Styling Design Concept “Design is in Our DNA”
การออกแบบด้านหน้าปากนกตามแบบฉบับของ ซูซูกิ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเส้นตรงตั้งแต่ปลายด้านบนของถังน้ำมัน ส่งผลให้ดูเด่นชัดและมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ถูกถ่ายทอดมาจาก “เจ้าแห่งทะเลทราย” อย่าง DR-Z และ DR-BIG ในอดีต ที่ล้ำสมัยและตื่นตาตื่นใจ และยังเป็นแรงบันดาลใจ ในการถ่ายทอด DNA ในด้านสไตล์ลิ่งมาสู่ ซูซูกิ V-Strom 1050XT ใหม่ ในยุคนี้ โดยได้ออกแบบให้มีเส้นสายที่ดูดุดันและชัดเจน และมีความโฉบเฉี่ยวและเพรียวบางมากยิ่งขึ้น
Distinctive New Headlight and Turn Signals
” ไฟหน้าและไฟเลี้ยวได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่น โดยไฟหน้าเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้งและใช้หลอดไฟแบบ LED ที่มีประสิทธิภาพในการส่องสว่างอีกทั้งมีความทนทานและประหยัดแรงเคลื่อนไฟฟ้า
Rear Combination Lights
” ชุดไฟท้ายแบบ Clear Lens ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมในทุกมุมมอง และได้นำหลอดไฟแบบ LED ติดตั้งสำหรับไฟท้ายและไฟเบรก เพื่อให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นแก่ผู้ขับขี่และผู้สัญจรได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังดูดีมีระดับสมกับเป็น “Master of Adventure”
Mirrors
กระจกมองข้าง ซูซูกิ V-Strom 1050 ใหม่ รูปทรงเหลี่ยมเพรียวแลดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น รับกับลุคดีไซน์ใหม่ได้อย่างลงตัว
ซูซูกิ V-Strom 1050XT ยังมีสีให้เลือกเพื่อบ่งบอกความมีสไตล์ในตัวคุณด้วย 3 สีใหม่ล่าสุด ในแต่ละรุ่นได้แก่ สีเหลือง โดดเด่นสง่างามด้วยสีเหลืองแชมป์เปี้ยนราชาทางฝุ่น, สีส้ม-ขาว บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าแห่งทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ระดับตำนานที่มีสไตล์ที่ถ่ายทอดมาอย่างยาวนาน และ สีดำ ดุดัน เงางามน่าหลงใหล สำหรับ ซูซูกิ V-Strom 1050XT และ สีเทา-ดำ แข็งแกร่งดุดัน, สีขาว-ดำ การผสมผสานสไตล์อย่างลงตัวทั้งทางเรียบและทางฝุ่น
สามารถสอบถามข้อมูลและเชิญสัมผัส ซูซูกิ V-Strom 1050XT ได้ที่ผู้แทนจำหน่าย ซูซูกิ บิ๊กไบค์ ทั่วประเทศ ในราคาพิเศษ 579,000 บาท ในจำนวนจำกัดเพียง 15 คันแรกเท่านั้น จากราคาปกติ 619,000 บาท
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience