โครงการแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ Swappable Battery Consortium เดินหน้าต่อ
เมื่อสองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอข่าวของโครงการ Swappable Battery Consortium ที่เป็นการร่วมมือกันของ 6 แบรนด์ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลก ที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และใช้ชุดพื้นฐานแบตเตอรี่ในรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้เกิดความง่าย รวดเร็ว ในการแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ แทนที่จะเสียเวลาในสถานีการชาร์จนานหลายๆ ชั่วโมง และในเนื้อข่าวนี้เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการนี้
โดยพื้นฐานของโครงการ Swappable Battery Consortium เป็นหลักแนวคิดที่เรียบง่าย โดยใช้ทีมวิจัยและพัฒนาจากสี่แบรนด์ผู้ผลิตญี่ปุ่น ในการพัฒนาชุดแบตเตอรี่เพียงชุดเดียว เพื่อให้สะดวกและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการให้พลังงานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยเป้าหมายสำคัญคือการสร้างพื้นฐานแหล่งพลังงานที่สามารถสลับเปลี่ยนกันได้ระหว่าง 4 แบรนด์ ซึ่งหมายความว่าต่อให้คุณใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ Yamaha แต่คุณก็สามารถใช้งานแบตเตอรี่หรือแหล่งพลังงานจากแบรนด์ Honda, Kawasaki หรือ Suzuki ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นส่วนในการย่นเวลาในการประจุไฟในสถานีบริการ ที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 2-3 ชั่วโมงในการประจุไฟแต่ล่ะครั้งจากรูปแบบปกติ แต่เราสามารถใช้เวลาเพียงไม่ถึง 15 นาที ในการเต็มพลังงานและสามารถเดินทางได้ต่ออย่างไม่เสียเวลานั่นเอง
โดยโครงการ Swappable Battery Consortium เกิดขึ้นจากความตกลงของ 4 แบรนด์จตุรเทพจากประเทศญี่ปุ่น Honda, Yamaha, Kawasaki และ Suzuki เมื่อประมาณปี 2019 ที่ได้ทำการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนลูกใหม่ได้ โดยล่าสุดได้อีกสองแบรนด์ผู้ผลิตระดับโลกเข้ามาขอเอี่ยวกับโครงการนี้ นั่นก็คือ Piaggio และ KTM โดยเป็นสัญญาแบบแยกส่วนจากสัญญาหลัก ซึ่งมีสองผู้ผลิตจากคู่สัญญาหลักอย่าง Yamaha และ Honda เข้าเสริม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการพัฒนาชุดแบตเตอรี่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า สำหรับใช้งานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังส่งสูงกว่าจากรถพื้นฐาน
ซึ่งดูเหมือนว่าสัญญาฉบับแยกของ Yamaha, Honda, Piaggio และ KTM นั้นจะทับซ้อนกับสัญญาหลัก ซึ่งทำให้เกิดความแตกต่างในเรื่องของมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของความจุ และขนาดของแบตเตอรี่ที่จะแตกต่างออกไปจากกลุ่มสัญญาแรก ซึ่งอาจจะขัดต่อผลประโยชน์ของการพัฒนาจากทั้งสองสัญญา ที่ Suzuki และ Kawasaki จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสัญญาฉบับที่สองและ Piaggio และ KTM จะไม่สามารถใช้งานความสามารถจากสัญญาฉบับแรกได้ แต่จะมี Yamaha และ Honda เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากสัญญาทั้งสองฉบับที่ทั้งสองลงนามไว้
ซึ่งเรื่องนี้ Noriaki Abe เจ้าหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการจาก Honda และดำรงตำแหน่งเลขานุการของโครงการ ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “ข้อตกลงสำหรับมาตรฐานของแบตเตอรี่ที่ใช้ร่วมกันนี้ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จากผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ญี่ปุ่น 4 รายที่ทำงานร่วมกันในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ Consortium และ Society of Automotive Engineers of Japan, Inc. สำหรับความเข้าใจและการสนับสนุน ในขณะที่เราจะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับแบตเตอรี่ร่วมกันตามข้อตกลงของเรา เราจะแข่งขันกันเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ด้วยความพยายามของเราทั้งในด้านความร่วมมือและการแข่งขัน เราจะทำงานเพื่อนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไปใช้อย่างแพร่หลายเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน”
ดูเหมือนว่าจะเป็นการตอบคำถามแบบปลายเปิดพอสมควร เพราะถึงที่สุดแล้วในความร่วมมือกันของทั้ง 6 แบรนด์จาก 2 ฉบับของสัญญา ในความร่วมมือกันเองก็ยังต้องแข่งขันกันต่อ เพื่อที่จะหาจุดเพื่อดึงดูดลูกค้า และให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีที่สุด มันดูย้อนแย้งกันอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.