Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

ไปดูตัวเป็นๆ กันกับ Honda CBR250RR ที่งาน Tokyo Motor Show

CBR250RR-001

เอาล่ะครับหลังจากที่รอคอยกันมานาน วันนี้ก็เป็นวันแรกของงาน Tokyo Motor Show 2016 ซึ่งสื่อชื่อดังอย่าง TMCBLOG.com ได้นำภาพของเจ้า Honda ตัวใหม่ที่มีคอนเซ็ปท์ว่า Supersport light concept ซึ่งมันจะกลายเป็น CBR250RR มาแสดงให้ดูกัน ซึ่งก็เหมือนกันกับภาพที่หลุดมาก่อนหน้านี้เลย เราไปดูรายละเอียดกันด้านล่างนี้ครับ

อย่างแรกเลยในเรื่องของดีไซน์นั้น ยอมรับว่ามันค่อนข้างแตกต่างกันกับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆ ของทางค่ายฮอนด้าเลยทีเดียว เพราะว่าเส้นสายในการออกแบบนั้นจะค่อนข้างเฉียบคมและดุดัน โดยในด้านขุมกำลังนั้นแน่นอนแล้วว่าจะมีเครื่องยนต์ทั้งในขนาด 250cc และ 350cc ซึ่งใช้จำนวน 2 สูบ และมีเรดไลน์ถึง 14,000 รอบต่อนาที ให้แรงม้ามามากกว่า 40 ตัว ทีนี้เราจะไปพิจารณาในเรื่องของดีเทลรถแต่ละส่วนกัน

http://i2.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2015/10/CBR250RR-004.jpg

มุมมองจากด้านข้างนี้จะเห็นได้ว่าเบรกหน้านั้นเป็นแบบดิสก์เดี่ยว แบบคลื่น (ซึ่งช่วงหลังทางฮอนด้าเปลี่ยนมาใช้จานดิสก์เบรกแบบคลื่นกันหลายรุ่น อย่างเช่นตัว new CBR500R 2016) ตัวเบาะนั่งนั้นมาแบบสปอร์ตเต็มตัวเลย องศาที่รองรับสะโพกนั้นรับกับท่าหมอบในการขี่เป็นอย่างดี และแฮนด์จับโช๊คด้านหน้านั้นจะมีการวางตำแหน่งให้ต่ำกว่าตัวก่อนอย่าง CBR300R ซึ่งสอดคล้องกับรหัส RR ที่เป็นแนว racing เต็มตัว

http://i2.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2015/10/CBR250RR-007.jpg

มุมมองจากคนขี่ จะเห็นได้ชัดเลยว่าแฮนด์นั้นค่อนข้างจะก้มต่ำทีเดียว คอ racing น่าจะชอบใจกันไม่น้อย และฝาถังน้ำมันนั้นค่อนข้างใหญ่และนูนออกมาจากตัวถังเลยทีเดียว

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2015/10/CBR250RR-006.jpg

หน้าจอแสดงผลของ Honda CBR250RR เป็นแบบ Full Digital LCD เลย ซึ่งจะแปลกตาไปจากรุ่นอื่นๆ ของทางค่าย และที่สำคัญมันเป็นแสงแบบ black light ด้วย ตัดกับตัวเลขและตัวอักษรสีขาวและแดง ดูแล้วให้อารมณ์สปอร์ตเอามากๆ ซึ่งการแสดงผลนั้นก็ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเกจ์ความร้อน, น้ำมัน วัดรอบ วัดความเร็ว นาฬิกา และหากสังเกตดูให้ดีจะพบว่ามันจะมีตำแหน่งบอกเกียร์ด้วย

http://i2.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2015/10/CBR250RR-010.jpg

ตัวเครื่องนั้นเป็นแบบ 2 สูบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ และแน่นอนว่าระบบกันสะเทือนหรือโช๊คอัพด้านหน้านั้นเป็นแบบหัวกลับ (Upside Down) และระบบกันสะเทือนหลังนั้นแหล่งข่าวได้แจ้งมาว่าเป็นแบบ monoshock ของ Ohlins

ท่อที่ใช้กับตัวโชว์นั้นจะเป็นของ Akrapovic ซึ่งตรงนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อเป็นเวอร์ชั่นในการวางจำหน่ายจริงๆ นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงสเปคตรงนี้หรือเปล่า อย่างไรก็ตามมันถูกคาดหมายว่าจะเริ่มเข้าสู่ไลน์การผลิตจริงในช่วงต้นปี 2016 นั่นเอง ยังไงตรงนี้หากว่ามีความคืบหน้าทางเราก็จะนำมาฝากกันก่อนใครเช่นเคย ติดตามกันได้ครับ

ขอบคุณภาพและที่มาจาก tmcblog.com

ติดตามข่าวสารในวงการบิ๊กไบค์ล่าสุด 2016 คลิกที่นี่