Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

2022 Honda Super Cub C125 เตรียมลุยยุโรป

2022 Honda Super Cub C125 เตรียมลุยยุโรป

ในงาน Motor Show 2021 ที่ผ่านมานั้น Honda ได้มีการเปิดตัวจริงของการอัพเดทใหม่ Honda Super Cub C125 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยการอัพเดทเครื่องยนต์ใหม่พร้อมกับระบบช่วงล่างที่มั่นคงมากขึ้น ซึ่งการอัพเกรดในครั้งนี้นั้นกำลังที่จะเดินหน้าเข้าสู่ตลาดยุโรปในช่วงสิ้นปีนี้

0b3f797f74cb71ad0bd55935f2e8905f.jpg

โดยโมเดลใหม่ของ 2022 Honda Super Cub C125 จะเป็นการนำเอาพื้นฐานของเจ้า C125 รุ่นเดิมที่มีการอัพเกรดใหม่ ด้วยการใช้เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 125 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ แบบ SOHC 2 วาล์ว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ใน Honda Grom ใหม่ มีกระบอกสูบ 50 มม. และระยะชัก 63.1 มม.ให้กำลังสูงสุด 9.6 แรงม้า (BHP) ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 10.4 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที โดยที่เครื่องยนต์จะได้รับกล่องไอดีใหม่ ที่ออกแบบมาเฉพาะรุ่น ทำให้อากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้รวดเร็วกว่า รวมถึงการปรับตำแหน่งหัวฉีดใหม่เพื่อปรับปรุงความสามารถในการขับขี่ ท่อไอเสียมีรูปแบบตัวเร่งปฏิกิริยาเดี่ยวแบบใหม่ที่เป็นตัวช่วยในการปล่อยมลพิษที่สะอาดมากขึ้น ในขณะที่การตั้งค่าการฉีดเชื้อเพลิงที่แก้ไขใหม่ยังช่วยปรับปรุงการปล่อยไอเสียอีกด้วย

191a1c72548e6a7034002edb748544db.jpg

จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของ Honda Super Cub C125 ที่แตกต่างจากเพื่อนๆในคลาส 125 จาก Honda คือการใช้ระบบคลัทซ์อัตโนมัติแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ที่ช่วยให้การเข้าเกียร์นั้นสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการบีบคลัทซ์ ซึ่งแตกต่างจากเพื่อนร่วมคลาสอย่าง Honda Monkey 125 ที่ใช้งานระบบคลัทซ์แบบเปียกซ้อนกันหลายชั้น หรือแม้แต่ Honda Grom ที่เป็นเครื่องยนต์พื้นฐานที่เหมือนกัน รวมไปถึงการปรับเกียร์ให้เป็นแบบ 5 สปีดหลังจากที่ใช้ระบบเกียร์แบบ 4 สปีดมาอย่างยาวนาน

3fd04c0277a45f52e9ca78b31421c8ce.jpg

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นของดีประจำตัวรถ C125 ก็คือการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยกว่าใคร โดยทางผู้ผลิตได้ออกมาเคลมไว้ว่า รุ่นใหม่ที่มีการปรับปรุงแล้ว จะมีอัตราการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงน้ำมันหนึ่งถังจะสามารถวิ่งได้ถึง 156 ไมล์หรือประมาณ 251 กิโลเมตร ด้วยขนาดความจุของถังน้ำมันที่ 3.7 ลิตรเท่านั้น

aaee0fef76d0a55bf9a4d34d10a73225.jpg

ไม่เพียงแต่การปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ ทางผู้ผลิตยังมีการปรับปรุงเรื่องระบบกันสะเทือนหน้าหลังใหม่ ด้วยการเปลี่ยนสปริงภายในระบบโช้คอัพคู่หน้าและหลัง เพื่อให้การใช้งานที่เน้นการขับขี่บนทางเรียบดีขึ้นกว่าเดิม นุ่มนวลกว่าเดิม สามารถลดภาระการสะท้านที่ส่งจากล้อไปยังผู้ขับขี่ได้โดยตรง และความต่างเพียงอย่างเดียวของเจ้า C125 ที่จำหน่ายในประเทศไทยกับที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดยุโรปก็คือการที่ตัว EU จะมีการติดตั้งระบบเบรก ABS มาให้จากโรงงานนั่นเอง

2897dd7a251c00ff430b482af40476ed.jpg

ถึงตัวรถจะออกแบบมาให้ดูย้อนยุคแต่ผู้ผลิตเองก็ใส่ความทันสมัยไว้บนตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟ LED รอบคัน ระบบกุญแจอัตฉริยะ Honda Smart Key ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันการขโมยในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งยังใส่ระบบ Answer Back ที่เป็นระบบไฟกระพริบ เพื่อใช้งานในการค้นหาตัวรถในยามที่เราลืมตำแหน่งจอด

07663ba7df4cdbcc0cc7caf6af95ff3c.jpg

ในส่วนของสีสันใหม่ที่จะไปจำหน่ายในยุโรปปลายปีนี้ ทางผู้ผลิตใช้สีเดียวกับที่ทำตลาดในประเทศไทย กับชุดสี Mat Axis Grey Metallic โดยที่ประเทศไทยจะใช้ชื่อว่า Gentle Black โดยเน้นที่การใช้สีเทาด้านตัดกับเบาะนั่งแบบแยกส่วนสีแดง โดยจะเริ่มจำหน่ายในโซนยุโรปเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้และมีการวางราคาแนะนำอยู่ที่ £3,499 หรือประมาณ 154,068 บาท ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่าบ้านเรา ที่ปัจจุบันราคากลางของ C125 จะอยู่ที่ 89,600 บาทเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com