เปิดตัว 2022 Harley-Davidson Street Glide Special “Arctic Blast”
เป็นอีกหนึ่งโมเดลพิเศษสุดๆ จาก Harley-Davidson ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชื่อดังจากอเมริกา ที่ได้เปิดตัวล่าสุดกับงานศิลปะแบบติดเครื่องยนต์ Street Glide Special “Arctic Blast” ที่เป็นโมเดลพิเศษ ด้วยการทำสีแบบทำด้วยมือ ซึ่งมันถูกผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 500 คันบนโลกนี้เท่านั้น
2022 Harley-Davidson Street Glide Special “Arctic Blast” เปิดตัวครั้งแรกภายในงาน 81st Sturgis Motorcycle Rally โดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางของ Hot-Rod หรือ American Tourring ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถบรรทุกสัมภาระจำนวนมากได้บนตัวรถ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 ใหม่ล่าสุดของทางค่าย และพกพาเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมกับอุปกรณ์พิเศษๆ มากมาย
คุณสมบัติที่เป็นความพิเศษของโมเดลนี้นั้นจะประกอบไปด้วย ชุดล้อแต่งจาก Prodigy ชุดไฟหน้าแบบ LED จากแบรนด์ Daymaker เสริมความบันเทิงในการเดินทางด้วยชุดเครื่องเสียงจาก Boom! พร้อมกับหน้าจอสาระบันเทิงแยกส่วนจาก Box GTS แบบสัมผัสที่มาพร้อมความสามารถ Apple CarPlay และ Android Auto ปิดท้ายด้วยแฟร์ริ่งแบบปีกค้างคาวอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมช่องระบายอากาศแบบแยกส่วน
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นความพิเศษของโมเดลนี้ คือชุดการทำสี Arctic Blast ที่เป็นการพ่นสีด้วยมือจากโรงงาน Gunslinger Custom Paint ในเมือง Golden รัฐโคโลราโด โดยได้กลุ่มจิตกร นักออกแบบ ศิลปิน และทีมผู้ผลิต ที่ร่วมกันออกแบบลวดลายใหม่ โดยมีการใช้สีน้ำเงินเข้มเมทัลลิก ตัดด้วยเส้นสีขาว ที่มีสีน้ำเงินอ่อนเป็นขอบด้านนอก บนลวดลายแบบหกเหลี่ยม พร้อมทั้งมีการรันหมายเลขประจำตัวรถบนครอบถังน้ำมัน
Brad Richards รองประธานฝ่ายการเอกลักษณ์และการออกแบบของ Harley-Davidson กล่าวถึงโมเดลพิเศษนี้ไว้ว่า “การลงสี Arctic Blast นั้นใช้การลากเส้นด้วยสีที่มีความเปรียบต่างสูง โดยมีจุดประสงค์เพื่อสื่อถึงลักษณะที่ปรากฏของการเคลื่อนไหว” การออกแบบดูโดดเด่นจากระยะไกล แต่ให้รายละเอียดที่น่าสนใจที่สามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้เท่านั้น รวมถึงเอฟเฟกต์มุกสีน้ำเงินเหนือฐานสีขาว และลวดลายหกเหลี่ยมโกสต์บนแฟริ่ง
ทั้งหมดที่กล่าวมา มันดูเป็นโมเดลที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และที่น่าสนใจมากกว่าก็คือเรื่องของราคาจำหน่าย ด้วยความพิเศษหลายๆ อย่าง และการผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น ทำให้ 2022 Harley-Davidson Street Glide Special “Arctic Blast” มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 38,495 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,285,348 บาท และจะมีการกระจายผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายทั่วโลกผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ซึ่งหมายความถึงประเทศไทยด้วย แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าก็คือราคาของมันในยามที่เข้าสู่ตลาดบ้านเราจะขยับสูงขึ้นไปขนาดไหนกันนะ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.