Top 10 รถมอเตอร์ไซค์ Naked พิกัด 600 ขึ้นไป ที่น่าเป็นเจ้าของแห่งปี 2021
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของไตรมาสที่สามแห่งปี 2021 กันแล้ว และในเดือนกันยายนนี้จะเป็นเดือนสุดท้ายก่อนการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่แต่ล่ะค่ายมักจะทะยอยเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ สำหรับการจำหน่ายในปีหน้าในเดือนพฤศจิกายน โดยมีจุดหมายสำคัญคืองาน EICMA Show 2021 ที่กลับมาจัดกันอีกครั้ง หลังจากหยุดการจัดงานไปนานกว่า 2 ปี เนื่องจากปัญหาการระบาดหนัก และเพื่อเป็นการทิ้งทวนของปี 2021 นี้ เราเลยอยากพาเพื่อนๆ ไปชม 10 รถมอเตอร์ไซค์ในแนวทาง Naked ที่มีพิกัด 600 ซีซีขึ้นไป ที่น่ามีไว้ครอบครองที่สุดของปีนี้
Honda CB650R
เปิดหัวกับแบรนด์ใหญ่ขวัญใจมหาชน กับเจ้า Honda CB650R รถมอเตอร์ไซค์บนแนวทาง Naked ที่มีการแต่งกลิ่นใหม่บนนิยาม Neo-Sport Cafe ด้วยชุดไฟหน้ากลมโต ให้อารมณ์ย้อนยุคที่ร่วมสมัย มาพร้อมกับขุมกำลังแบบ 4 ลูกสูบเรียงถูกใจไบค์เกอร์ชาวไทย พร้อมระบบใหม่อย่าง Honda Selectable Torque Control หรือระบบ Traction Control ช่วยเพิ่มการยึดเกาะของตัวรถ พร้อมกับการปรับปรุงใหม่ของระบบกันสะเทือน ที่มีการเปลี่ยนจาก Telescopic มาเป็นแบบ Upside-Down และมาพร้อมกับราคาโดนใจเพียง 309,100 บาทเท่านั้น
Kawasaki Z650
มาถึงรุ่นกลายจากค่ายยักษ์เขียว Kawasaki กับเจ้า Z650 ที่โดยพื้นฐานแล้วจัดว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของรถในคลาสนี้จากทางค่าย โดยรุ่นที่เราคุ้นเคยและมีการจำหน่ายมากที่สุดก็คือเจ้า ER-6n ที่เปิดจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2006-2017 และเปลี่ยนมาเป็นรหัส Z650 ตั้งแต่รุ่นปี 2018 เป็นต้นมา โดยรุ่นล่าสุดนั้นยังคงเครื่องยนต์แบบสองลูกสูบเรียง 649 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 67 แรงม้า (BHP) ที่อัพเดทล่าสุดเมื่อปี 2020 ให้ผ่านมาตรฐาน EUROI5 และเป็นเพียงรุ่นเดียวในคลาส 650 ซีซี ที่มาพร้อมกับแผงหน้าจอแบบ TFT พร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สนนราคาอยู่ที่ 298,700 บาท
KTM 890 Duke
โมเดลสปอร์ตเนกเกตลูกผสม Supermoto จากออสเตรีย เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก 790 Duke ที่จัดว่าเป็นโมเดลที่มีอายุค่อนข้างสั้น เพราะมันเปิดตัวในปี 2018 และเปลี่ยนมาเป็น 890 Duke ในปี 2021 นี้ โดยที่จุดเด่นของมันก็คือเครื่องยนต์ LC8c สองลูกสูบใหม่ที่มาพร้อมกับความจุเครื่องยนต์ 899 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 119 แรงม้า (BHP) อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นชุดกันสะเทือนหน้าหลัง หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ระบบอิเล็กทรอนิกสช่วยเหลือ และน้ำหนัดตัวที่เบาเพียง 166 กิโลกรัม ส่วนราคานั้นยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่คาดว่าจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
Kawasaki Z900
Roadster ผู้คั้นกลางระหว่างรุ่น 650 และ 1,000 เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Z800 ที่เข้าสู่ตลาดระดับสากลตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา โดยมีจุดเด่นที่ขุมกำลังขนาด 948 ซีซี 4 ลูกสูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 123 แรงม้า (BHP) โดยรุ่นปรับปรุงใหม่เมื่อปี 2020 นั้นจะปรับในเรื่องของหน้าจอแสดงผลใหม่แบบ TFT พร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และเครื่องยนต์ผ่านมาตรฐาน EURO5 เป็นที่เรียบร้อย สนนราคาอยู่ที่ 443,100 บาท
Kawasaki Z900RS
ยังคงอยู่กับค่ายยักษ์เขียว แต่คราวนี้เรามาอยู่กับรถในแนวทางของ Classic-Naked Roadter ที่มีความ Retor แต่แอบแฝงความทันสมัยในการผลิตและเทคโนโลยีที่เอื้อหนุนให้ตัวรถมีความพิเศษไม่เหมือนใคร การออกแบบที่อ้างอิงจากรถในระดับตำนานอย่างเจ้า ZI และ ZII เอกลักษณ์ไฟหน้ากลม หน้าจอแสดงผลแบบกระปุกคู่ อีกทั้งยังมีรุ่นย่อยที่น่าสนใจอย่างเจ้า Z900RS Cafe Racer ที่มีการตกแต่งในสไตล์ของรถแข่งย้อนยุค ซึ่งเจ้ารุ่นมาตรฐานั้นจะมีราคาจำหน่ายที่ 485,000 บาท
Yamaha MT-09
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่การเปลี่ยนแปลงใหม่นั้นสร้างความสนใจให้กับเราเป็นอยางมาก เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของเจ้า MT-09 ก็คือเครื่องยนต์ CP3 สามลูกสูบ แบบจุดระเบิดไม่สม่ำเสมอ ให้กำลังที่มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 4 แรงม้า (BHP) รวมทั้งสิ้น 117 แรงม้า (BHP) อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ยกชุด อีกทั้งยังมีรุ่นประสิทธิภาพ MT-09 SP ที่มาพร้อมกับชุดกันสะเทือนจากแบรนด์ดัง ที่มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า ช่วยส่งให้การขับขี่ตัวรถนั้นสนุกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Ducati Monster 821
ถึงแม้ว่าจะเป็นโมเดลเก่าตั้งแต่ปี 2018 แต่เจ้า Monster 821 ยังคงยอดเยี่ยมและไม่เหมือนใคร โดยมีขุมกำลังแบบ L-Twin 2 ลูกสูบ 4 วาล์ว และมีระบบวาล์วแบบ Desmodromic แบบเดียวที่ใช้ในรถแข่งรายการ MotoGP ของทางแบรนด์ ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 9,250 รอบต่อนาที และจุดเด่นที่น่าจะเป็นภาพจำให้กับกลุ่มคนรัก Monster ก็คือโครงสร้างแบบ Trelis Frame โครงตาข่ายสีแดงที่ดูแข็งแรง โมเดลใหม่นั้นมาพร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยไม่ว่าจะเป็นระบบ DTC (Ducati Tractio nControl), Riding Mode และ Power Mode ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกสรรการขับขี่ที่เหมาะสมตามเหตุการณ์ มั่นใจด้วยระบบเบรก ABS และ Cornering ABS สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 479,900 บาท
Yamaha MT-07
เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับราคาที่แสนเร้าใจ สำหรับเจ้า Naked Sport คลาสกลางจากค่าย Yamaha กับเจ้า MT-07 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์ CP2 ที่มีการอัพเดทใหม่ให้ผ่านมาตรฐาน EURO5 มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการให้กำลังสูงสุด 73 แรงม้า (BHP) พร้อมกับการปรับปรุงเรื่องของโครงสร้างใหม่และระบบเบรกที่เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ที่มากกว่าเดิม อีกทั้งเจ้า MT-07 ยังเป็นพื้นฐานให้กับโมเดลอย่างเจ้า YZF-R7 ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ ในส่วนของราคาที่ว่าเร้าใจนั้น จะอยู่ที่ 289,000 เท่านั้น
Triumph Trident 660
ถ้าพูดกันในช่วงโมงนี้คงไม่มีใครเกินเจ้า Trident 660 โมเดลใหม่เอี่ยมจากผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษ ที่จัดว่าเป็นเพียงผู้ผลิตเดียวในตลาดประเทศไทยที่ใช้เครื่องยนต์แบบสามลูกสูบ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดไม่เกิน 800 ซีซี โดยเจ้า Trident 660 จะมาพร้อมกับขุมกำลังสามลูกสูบขนาด 660 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า (BHP) จัดว่าแรงที่สุดในคลาสต่ำกว่า 700 ซีซี และมีราคาที่น่าจับต้อง ด้วยค่าตัวที่ 313,000 บาทเท่านั้น
Triumph Street Triple
ยังคงอยู่กับผู้ผลิตTriumph กับเจ้า Street Triple เจ้าตั้กแตนที่มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์แบบสามลูกสูบ 795 ซีซี ที่ปรับปรุงใหม่ โดยพื้นฐานแล้วเครื่องยนต์ชุดนี้เป็นเครื่องยนต์สำหรับรถแข่งในระดับ Moto2 ที่พิสูจน์ได้ถึงความแรงและมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ด้วยพละกำลังสูงสุด 118 แรงม้า (PS ที่ 12,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตรที่ 9,400 รอบต่อนาที อัดแน่นไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกใช้งานถึง 5 โหมด สำหรับตลาดประเทศไทยนั้น Street Triple มีให้เลือกใช้งานกับสองรูปแบบประกอบไปด้วย Street Triple R สนนราคา 420,000 บาท และรุ่นท๊อป Street Triple RS สนนราคา 490,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.