รายละเอียดการอัพเดทใหม่ 2022 Honda CRF1100L Africa Twin
Honda ได้เปิดตัว CRF1100L รุ่นใหม่ไปเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ด้วยการปรับขนาดเครื่องยนต์ให้มีขนาดความจุที่ใหญ่ขึ้น และล่าสุดโมเดลของปี 2022 นั้นจะเป็นการอัพเดทไปอีกขั้นที่ไม่เพียงแต่เปลี่ยนสีสันและรูปแบบของกราฟฟิกบนตัวรถ แต่ทางด้านกลไกบนตัวรถก็มีการอัพเดทด้วยเช่นกัน
2022 Honda CRF1100L Africa Twin
2022 Honda CRF1100L Africa Twin “Sport Adventure”
2022 Honda CRF1100L Africa Twin นั้นเป็นโมเดลบนแนวทาง Touring-ADV ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากแบรนด์ปีกนก โดยโมเดลใหม่ของปี 2022 จะยังคงสองแนวทางประจำอย่างรุ่นมาตรฐาน และรุ่น Sport Adventure โดยมีตัวเลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและรุ่นเกียร์ DCT ซึ่งตลาดประเทศไทยนั้นจะแบ่งรุ่นมาตรฐานเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา และรุ่น Sport Adventure เป็นรุ่นเกียร์ DCT
2022 Honda CRF1100L Africa Twin “STD”
2022 Honda CRF1100L Africa Twin “Sport Adventure”
ในส่วนของการอัพเดทนั้น เรามาดูกันที่รูปแบบตัวรถใหม่กันก่อน ตัวรถจะได้รับการออกแบบกราฟฟิกใหม่ทั้งคัน โดยจะใช้แนวทางของ “Big Logo” ที่จะแสดงตราสัญลักาณ์ของ Africa Twin ที่ด้านข้าง พร้อมกับหมายเลข 1100 ที่ด้านท้าย โดยแต่ล่ะรุ่นจะมีด้วยกันสามสี ประกอบไปด้วย สีดำ สีแดง และสีพิเศษ Tri Color โดยที่ชุดสีดำนั้นจะมีความพิเศษเล็กน้อยด้วยลวดลายที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ ให้ความรู้สึกที่ดุดันและลึกลับมากขึ้น ในส่วนของสีแดงยังคงให้อารมณ์ของรถในสไตล์ Racing ที่ฉูดฉาด และชุดสี Tri Color ที่จะเน้นไปที่สีขาวตัดด้วยสีน้ำเงินและสีแดง
2022 Honda CRF1100L Africa Twin “STD”
ในส่วนของการอัพเดตกลไกใหม่นั้น จะยังเป็นเครื่องยนต์แบบสูบคู่ขนาด 1,084 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้า (HP) เท่ากับรุ่นก่อนหน้า โดยรุ่นที่ใช้เกียร์ DCT จะมีการปรับปรุงเรื่องของชุดเกียร์ใหม่ เพื่อปรับปรุงในเรื่องของความนุ่มนวลของการใช้ช่วงเกียร์ 1 และ 2 ที่สามารถปรับเข้าไปนิ่มกว่าเดิม ลดแรงกระตุกจากการทำงาน อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนสายพานภายในใหม่ โดยเปลี่ยนสายพานใหม่เป็นวัสดุที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อแรงเสียดทานที่สูงขึ้น ในส่วนของรุ่นเกีบร์ธรรมดานั้น จะมีการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ พร้อมทั้งปรับความนุ่มนวลของเกียร์ 1 และ 2 พร้อมทั้งการปรับตัวเลือกพิเศษอย่างระบบ Quickshifter ที่จะสามารถเข้าเกียร์ได้รวดเร็วและนุ่มนวลกว่าเดิม
ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ในรุ่น Sport Adventure นั้นจะมาพร้อมกับชิลด์ใหม่ที่จะมีระดับความสูงที่สั้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่จะมีความสามารถในการปรับระดับได้ 5 ระดับเหมือนเดิม เบาะนั่งใหม่สีโทน และมีการปรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ในรุ่นมาตรฐานเกียร์ธรรมดานั้น จะมาพร้อมกับน้ำหนักตัว 226 กิโลกรัม รุ่นเกียร์ SCT น้ำหนักตัว 236 กิโลกรัม ส่วนรุ่น Sport Adventure รุ่นเกียร์ธรรมดาจะมีน้ำหนักตัวที่ 238 กิโลกรัม และรุ่นท๊อปสุดที่มาพร้อมกับเกียร์ DCT จะมีน้ำหนักตัวที่ 248 กิโลกรัมด้วยกัน
สำหรับการอัพเดทนี้จะเริ่มเข้าสู่โชว์รูมของ Honda ในโซนยุโรป ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ส่วนประเทศไทย จะมีการอัพเดทตามมาอย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะเริ่มเข้าสู่ตัวแทนจำหน่ายผ่านศูนย์ Honda Big Wing ในช่วงกลางปีหน้าเป็นอย่างช้า
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.