Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

All New Honda CB1000R จะมีชื่อเล่นอย่างเป็นทางการว่า Hornet ดังที่ปรากฏในภาพล่าสุด

cb1000

ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่าเจ้า All New Honda CB1000R รถแนวสปอร์ตเนกเกตที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปี 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะมีชื่อเล่นที่ติดกับตัวครีบรถด้านหน้าว่า “Hornet” เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง CBR1000RR ที่มีชื่อเล่นว่า “Fire Blade” ก่อนหน้านี้ โดยที่วันนี้เรายังคงมีความคืบหน้าของโมเดลนี้ในประเด็ดอื่นๆ มาฝากกันด้วย

ซึ่งล่าสุดแหล่งข่าวหลายๆ สำนักต่างก็ตีความตรงกันว่า เจ้าโมเดลใหม่จากทางฮอนด้าโมเดลนี้นั้น จะมาในรูปทรงที่มีกลิ่นอายของความเป็นเรโทรผสมผสานด้วย อย่างน้อยๆ ก็ในส่วนของไฟหน้า ในขณะที่คู่แข่งเองนั้นพยายามที่จะดีไซน์ให้มันดูล้ำยุคและดุดัน แต่ว่าทาง Honda เองนั้นกลับเลือกเดินในแนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าพวกออพชั่นต่างๆ นั้นยังคงจะจัดมาอย่างเต็มที่ ซึ่งหากเราจะนับอายุอานามของเจ้าโมเดลนี้ในโฉมเดิมนั้น ก็จะต้องบอกว่าอายุมันเกิน 10 ปีเข้าไปเรียบร้อยแล้ว มันจึงมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้จากทางประเทศญี่ปุ่นว่า ทางค่าย Honda เองนั้นได้เริ่มต้นการผลิตโมเดลนี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวางเป้าหมายไว้ว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ นั่นก็คือที่งาน Eicma Show 2017 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี่ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และกำหนดการวางขายจริงกันในต้นปีหน้า ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกันกับสเปคของเวอร์ชั่นเดิมนั้น ในปี 2007 มันให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 130 ตัว แต่เมื่อเราเทียบกับทางคู่แข่งคลาสเดียวกันในยุคปัจจุบันอย่าง Yamaha MT-10 ที่ให้แรงม้ามามากถึง 160 ตัว หรือจะเป็น BMW S1000R ที่ให้มามากถึง 165 ตัว ดูจากตรงนี้แล้วแน่นอนว่าทางฮอนด้าเองจะต้องเพิ่มแรงม้ามาให้ใกล้เคียงหรือมากกว่าสำหรับโมเดล All New CB1000R คันใหม่นี้ และอาจจะสู้ด้วยเรื่องของน้ำหนักตัวที่เบากว่า

cb1000r mcn

ภาพ render ก่อนหน้านี้

และเราก็ทราบกันมาว่าเจ้า All New CB1000R คันนี้นั้น จะใช้เครื่องยนต์และระบบต่างๆ ที่มีพื้นฐานเดียวกันกับ All New CBR1000RR Fireblade ซึ่งมีเครื่องยนต์ขนาด 1,000cc แบบ 4 สูบเรียง ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานั่นเอง ดังนั้นแล้วนอกเหนือไปจากเครื่องยนต์เดียวกัน (ที่อาจจะมีการปรับลดแรงม้าลงบ้าง แต่อัดในส่วนของแรงบิดหรือว่าทอร์คเพิ่มเข้าไป) ก็จะมีพวกออพชั่นต่างๆ ติดรถมาให้ด้วยไม่ว่าจะเป็นคันเร่งไฟฟ้า fly-by-wire throttle, ตัวควบคุมแรงบิด  torque control, ตัวป้องกันล้อยก wheelie control, ตัวป้องกันล้อหมุนฟรี traction control และตัวเลือกในการเปิด-ปิด quickshifter หรือ auto-blipper ส่วนสวิงอาร์มด้านท้ายนั้นจะเป็นแบบโปร์อาร์ม (อาร์มเดี่ยว)

http://powersports.honda.com/assets/flash/model/gallery/CB1000R_2016_04.jpg

CB1000R เวอร์ชั่นปัจจุบัน

แม้ว่าภาพที่เราเห็นกันในตอนนี้จะยังไม่ใช่ภาพจริงๆ ของมัน (ยังคงเป็นภาพ render) แต่ก็น่าจะมีความใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นจริงอยู่ประมาณหนึ่ง เพราะทางค่ายเองนั้นมุ่งเน้นที่จะสร้างมิติของตัวรถให้มีความกระชับมากขึ้นกว่าเดิม หากจะเปรียบเทียบกับโมเดลก่อนหน้านี้ รวมไปถึงออกแบบให้มันมีความโมเดิร์นขึ้นอย่างชัดเจนด้วย แต่ว่าดูแล้วมันก็น่าจะยังมีกลิ่นอายของความคลาสสิกแอบแฝงอยู่นิดๆ โดยเฉพาะไฟหน้าแบบ LED ทรงกลมนั่นเอง ซึ่งผลงานในการออกแบบ All New CB1000R คันนี้ก็น่าจะเป็นทีม Design ของฮอนด้าจากโรมประเทศอิตาลี่ ทีมเดียวกันกับที่ออกแบบ Africa Twin และ X-ADV ล่าสุดที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ซึ่งทั้งสองคันนั้นก็ได้รับการยอมรับในเรื่องของงานออกแบบว่ามันเป็นงานของฮอนด้ายุคใหม่ที่ฉีกแนวไปอย่างน่าชื่นชม จับตาดูในปลายปีนี้ให้ดีว่ามันจะออกมามีหน้าตาและสเปคเป็นอย่างไร

ขอบคุณภาพจาก motorcyclenews.com warungasep.net