All New Honda CBR1000RR ว่าที่ซุปเปอร์ไบค์ตัวแรงที่สุดของปีกนก!
ก่อนหน้านี้หากจะให้พูดถึงรถซุปเปอร์ไบค์ในคลาส 1,000cc ในท้องตลาด หลายต่อหลายคนอาจจะนึกไปถึง YZF-R1, ZX10R หรือรถจากทางฝั่งยุโรปอย่าง S1000RR รวมไปถึงคันล่าสุดอย่าง Panigale V4 ทั้งหมดนี้มักจะในความทรงจำ หรือความประทับใจแรกๆ โดยเจ้า CBR1000RR จากทางค่ายปีกนกนั้น อาจจะไม่ได้โดดเด่นออกมาเป็นเบอร์ต้นๆ ของรถในกลุ่มนี้เท่าไหร่นัก แต่อยากให้จับตามอง All New CBR1000RR คันต่อไปที่มีแพลนจะเปิดตัวกันในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2020 กันให้ดี เพราะว่ามันกำลังจะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของรถซุปเปอร์สปอร์ตจาก Honda ไปอย่างสิ้นเชิง!
ซึ่งมันดูจะมีความย้อนแย้งกันพอสมควร หลังจากทาง Honda เองนั้นได้ผงาดครองโลกด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในรายการแข่งขัน MotoGP แต่ในรายการ World Super Bike กลับไม่เปรี้ยงปร้างแต่อย่างใด จริงอยู่ที่ว่ามันเป็นรถคนละคัน ทีมงานคนละทีม นักแข่งคนละคนก็จริง แต่ด้วยการพรีเซ็นท์ภาพลักษณ์ของรถแนวสปอร์ตรุ่นใหญ่นั้น เชื่อว่าทาง Honda เองก็ต้องการประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน โดย All New CBR1000RR คันใหม่ที่กำลังอยู่ในการพัฒนานั้น ดูจากกระแสข่าว และข้อมูลล่าสุดแล้ว พวกเขาเองจะไม่ยอมให้น้อยหน้าคู่แข่งต่างๆ ในท้องตลาดอีกต่อไป
ล่าสุดทาง Young Machine สื่อชื่อดังของทางญี่ปุ่นนั้น ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลคาดการณ์ว่าทางค่ายจะมีโมเดลย่อยของรุ่นนี้ถึง 3 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ CBR1000RR, CBR1000RR SP และ CBR1000RRW โดยทั้ง 3 โมเดลจะใช้ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องยนต์เดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของรายละเอียดต่างๆ ซึ่งเครื่องยนต์จะเป็นแบบ 4 สูบเรียง 1,000cc DOHC 4 วาล์ว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ แต่ไฮไลท์สำคัญที่สุดตามในกระแสข่าวนั้น ก็คือในเรื่องของการพัฒนาระบบวาล์วแปรผัน VTEC เข้าไปในตัวเครื่องยนต์ด้วย โดยหลักการก็คือจะทำให้วาล์วทั้ง 4 ทำงานอยู่ตลอดเวลา และเซ็ทเพลาลูกเบียวให้ทำงานราบรื่นขึ้น เพื่อที่จะสร้างพละกำลังทั้งในรอบความเร็วต่ำและความเร็วสูงให้ออกมาดีที่สุด
และอีกประเด็นก็คือ ในเรื่องของมาตรฐานยูโร 5 ที่กำลังจะบังคับใช้เต็มรูปแบบในปีหน้า 2020 ซึ่งการใส่ระบบวาล์วแปรผันเข้าไปนั้น จะเป็นหนึ่งในคีย์สำคัญของการผ่านมาตรฐานนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มพละกำลังให้กับตัวเครื่องยนต์แล้ว ยังคงเป็นการลดการปล่อยมลพิษด้วย ซึ่งทั้งนี้ทาง Young Machine นั้น ได้คาดการณ์ว่ามันมีโอกาสที่จะรีดแรงม้าสูงสุดออกมาได้ถึง 220 PS ด้วยกัน ซึ่งหากตัวเลขนี้เป็นจริงก็เท่ากับว่ามันจะเป็นการเกทับคู่แข่งคันอื่นๆ ในคลาสเดียวกันอย่างชัดเจน
สำหรับความแตกต่างของ All New Honda CBR1000RR ทั้ง 3 โมเดลนั้นก็คือ โมเดล CBR1000RR เวอร์ชั่นปกติจะเป็นตัวมาตรฐาน ส่วน CBR1000RR SP นั้นจะเป็นเวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษ ที่จะแตกต่างกันที่อุปกรณ์ของตัวรถ อย่างเช่นจะมีระบบกันสะเทือนหน้าแบบไฟฟ้า ที่ทำงานแบบ Active ตลอดเวลา รวมไปถึงท่อไอเสียจากสำนักแต่งด้วย และสำหรับ CBR1000RRW นั้นนอกจากจะได้พวกอุปกรณ์พิเศษต่างๆ มาแล้ว จะยังมีการติดตั้ง Winglet หรือว่าจะปีกในส่วนของชุดแฟริ่งด้านหน้า โดยมันคืออุปกรณ์ทางอากาศพลศาสตร์ ที่จะช่วยในการกดตัวรถให้อยู่ติดกับพื้นให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยในการแหวกอากาศลดการประทะของลมด้วย สำหรับการกดให้ล้อหน้าอยู่กับพื้นนั้น จะทำให้การควบคุมตัวรถนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้น ลดภาระและการออกแรงของผู้ขับขี่ ซึ่งในสนามแข่งจะส่งผลได้อย่างชัดเจน
และกับงานยักษ์ใหญ่อย่าง Tokyo Motor Show 2019 ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนั้น เชื่อว่าเราจะได้เห็น All New Honda CBR1000RR ในงานกันแล้ว หรืออย่างน้อยๆ ก็น่าจะเป็นรถคอนเซ็ปท์ โดยทางค่ายจะยังคงใช้ประเทศญี่ปุ่นเป็นฐานการผลิตหลัก ก่อนที่จะส่งออกทั่วโลกในรูปแบบของโกบอลโมเดล รวมไปถึงประเทศไทยเราที่ Honda Big Wing ด้วย และครั้งนี้เชื่อว่าจะตอบสนองความต้องการของไบค์เกอร์สายสปอร์ตที่ป็นแฟนๆ ของค่ายปีกนกกันเสียที!
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก https://young-machine.com/
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience