Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

วิเคราะห์ All New Honda Click 160 จะมีอะไรใหม่ๆ ให้ตื่นเต้นบ้าง? ก่อนลุ้นเปิดตัวในไทยปีนี้!

หลังจากที่เป็นกระแสข่าวอยู่พักใหญ่ๆ กับการเตรียมเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ต AT รุ่นใหม่จากทางค่ายปีกนก Honda อย่าง All New Click 160 ที่จะต่อยอดมาจากซีรี่ย์ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาดตอนนี้

การออกแบบภายนอก

มาถึงตอนนีน้เรายังไม่ได้เห็นภาพ Spy Shot หรือว่าภาพร่างในการจดสิทธิบัตรของรถรุ่นนี้แต่อย่างใด ซึ่งทำให้ข้อมูลในเรื่องการออกแบบภายนอกนั้นค่อนข้างจะน้อย แต่หากจะวิเคราะห์กันดูแล้วก็ยังคงเชื่อว่าทางค่าย Honda เองน่าจะยังไม่ฉีกแนวไปจากเดิมมากเท่าไหร่นัก โดยจะยังคงเน้นเส้นสายที่เฉียบคมมีความสปอร์ตทันสมัยกับตัวรถเหมือนกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ แต่อาจจะมีกาารปรับลักษณะของรูปทรงไฟหน้าและไฟท้ายให้แตกต่างไปจากเดิมประมาณหนึ่ง รวมไปถึงพวกรายละเอียดหน้าจอแสดงผลต่างๆ ด้วย

เครื่องยนต์

Honda PCX 150

ทางด้านสเปคเครื่องยนต์ที่คาดว่าจะใช้กับ All New Honda Click 160 นั้น จะมาพร้อมกับรหัสเครื่องยนต์ใหม่อย่าง eSP+ (เครื่องเดียวกันกับที่ใช้ใน All New PCX 160) ที่จะเพิ่มจำนวนวาล์วจากเดิม 2 วาล์วเป็น 4 วาล์ว และเพิ่มพิกัดความจุจาก 149cc มาเป็น 156cc ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 60.0 x 55.5 mm อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 12:1 ทำให้เครื่องยนต์ลูกนี้สามารถผลิตแรงม้าสูงสุดได้ที่ 15.8 ตัวที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 15 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้ชัดเจนว่ามันสูงกว่ารุ่นเดิมแบบเห็นได้ชัด

ฟีเจอร์ใหม่ๆ ?

ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวรถนั้น เรายังไม่อาจจะฟันธงได้อย่างชัดเจนว่ามันจะได้อะไรมาบ้าง เพราะถึงแม้ All New Honda PCX160 จะมีทั้ง HSTC ตัวป้องกันล้อหมุนฟรีและดิสก์เบรกหน้าหลัง แต่สำหรับรถในตระกูล Click ที่วางตำแหน่งทางการตลาดไว้ต่ำกว่า PCX นั้น ถ้าจะใส่ฟีเจอร์เหล่านี้มาก็อาจจะทำราคาได้ค่อนข้างยาก เว้นเสียแต่ว่าทาง Honda เองจะเพิ่มรุ่นท็อปที่มีการเซ็ทระดับราคากันใหม่ โดยจะใส่ระบบเบรก ABS และ HSTC พร้อมดิสก์เบรกหน้าหลังมาให้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ก็อาจจะทำให้ All New Honda Click นั้นมีรุ่นย่อยถึง 3 รุ่นอย่าง All New Click 125 (ถ้ายังทำตลาดอยู่), All New Click 160 และ All New Click 160 ABS

อดใจรอกันอีกไม่นาน เชื่อว่าภายในปี 2021 นี้เราจะมีโอกาสลุ้นได้เห็นการเปิดตัวกันในประเทศไทยเรา โดยจะยังคงใช้โรงงานในบ้านเราเป็นที่ประกอบเช่นเดิม หากมีความคืบหน้าทาง GreatBiker จะรีบมาอัพเดทให้ทราบกันโดยเร็ว!