เผยข้อมูลของ Benelli Leoncino Bobber พาวเวอร์ครุยเซอร์รุ่นใหม่
หลังจากประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน EICMA 2025 ที่ผ่านมา ล่าสุด Benelli แบรนด์สัญชาติอิตาเลี่ยน ก็ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของ Leoncino Bobber ผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบของรถพาวเวอร์ครุยเซอร์สมัยใหม่
Benelli Leoncino Bobber จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางพาวเวอร์ครุยเซอร์สมัยใหม่ ตัวรถได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันโดย Centro Stile Benelli ในประเทศอิตาลี ซึ่งทำให้เรานึกถึงการผสมรวมกันของ Fat Boy และ XR1200 โดยตัวรถจะเป็นหนึ่งใน Variant ของซีรี่ส์ Leoncino ซึ่งจะวางตำแหน่งให้อยู่ตรงกลางระหว่าง Leoncino 250 และ Leoncino 500
สิ่งที่แตกต่างกันของทั้งสามรุ่น คือขุมกำลัง โดย Leoncino Bobber จะมาพร้อมกับขุมกำลังแบบ V-Twin 60° ขนาด 385 ซีซี 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว ให้กำลัง 34.5 แรงม้า (hp) ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 36.6 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที แตกต่างจาก Leoncino 250 ที่ใช้งานเครื่องยนต์แบบสูบเดียว และ Leoncino 500 ที่ใช้งานเครื่องยนต์แบบคู่ขนาน และสิ่งที่แตกต่างที่สุดของ Leoncino Bobber คือเรื่องของการส่งกำลังสุดท้าย ที่จะใช้งานสายพานส่งกำลัง แทนที่จะเป็นโซ่เหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆในซีรี่ส์
ตัวรถจะมาพร้อมกับโครงสร้างที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แตกต่างจากโครงสร้างแบบ trellis Frame ที่เราพบบน Leoncino รุ่นอื่นๆ และด้วยความที่ตัวรถจะวางแนวทางให้เป็นพาวเวอร์ครุยเซอร์ ทำให้ตัวรถมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า พร้อมกับขอบล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว และยางหน้ากว้างพิเศษ โดยล้อหน้าจะมีความกว้าง 150 มิลลิเมตร ส่วนล้อหลังจะมีความกว้างถึง 150 มิลลิเมตร และเอกลักษณ์ที่สำคัญของรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางครุยเซอร์คือ ความสูงของเบาะนั่ง ที่ตัวรถจะมีความสูงเพียง 735 มิลลิเมตร ทำให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ในทุกๆ สรีระ
ในแง่ของอุปกรณ์มาตรฐานนั้น ตัวรถจะมาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ทรงกลม ถังน้ำมันความจุ 15 ลิตร ตัวรถจะมีน้ำหนักตัวที่ 180 กิโลกรัมแบบไม่รวมของเหลว ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น ตัวรถจะมีระบบ ABS แบบ Dual-Channel ระบบ Traction COntrol ที่สามารถปรับระดับได้ และระบบ Assit Clutch ที่ช่วยให้เรื่องของการป้องกันการลื่นของแผ่นคลัตซ์ในจังหวะการลดเกียร์
อย่างไรก็ตาม Benelli Leoncino Bobber ยังไม่มีกำหนดในการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าตัวรถน่าจะพร้อมสำหรับการจำหน่ายอย่างช้าที่สุดในไตรมาสที่สองของปี 2025 และมีแนวโน้มว่าตัวรถจะถูกใช้เป็นผลิตภัณฑ์หลักในการทำตลาดในยุโรปและอเมริกาเหนือเป็นหลัก
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikesrepublic.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
