เทคนิคเพิ่มแรงยึดเกาะของยาง ในการเข้าโค้งบนถนน และบนสนาม!!!
ในการแข่งขันในสนามหรือแม้แต่การขับขี่ทั่วไป การรู้ว่ายางของเรามีแรงยึดเกาะมากแค่ไหนเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้รถตั้งตรง และพุ่งออกไปในทิศทางที่ต้องการ แต่เราบอกได้ไหมว่ายางของเรายึดเกาะกับถนนได้ดีแค่ไหน?
ยางเป็นสิ่งสุดท้าย(ที่น่าจะสำคัญที่สุด)ที่เชื่อมต่อเรากับถนน ยางนั้นให้แรงยึดเกาะที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยว การเร่ง และการหยุดรถมอเตอร์ไซค์ แต่คุณสามารถบอกได้ไหมว่าคุณยึดเกาะได้มากแค่ไหนบนถนน หรือบนสนาม เพื่อหาคำตอบนี้เรามาแยกแยะแต่ละช่วงของการเข้าโค้งออกเป็น 3 ช่วงได้แก่ ช่วงเบรก ช่วงโค้ง และช่วงออกโค้ง
ช่วงเบรก
เราลองสมมุติว่าในสนามแข่งนั้นมีพื้นถนนที่แห้ง และในขณะที่รถตั้งตรงก่อนเข้าโค้งนั้น เรากดเบรกหน้าลงไปอย่างนุ่มนวลและหนักแน่เช่นที่เคยทำมาตลอด ซึ่งจะทำให้ล้อหน้านั้นถูกกดทับด้วยน้ำหนักของเราบวกกับน้ำหนักของรถ และความเร็ว ในจังหวะนั้นยางล้อหน้าจะถูกบีบอัดด้วยแรงนี้ลงไปกับพื้นผิวสนาม ทำให้หน้ายางมีพื้นผิวสัมผัสกับถนนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ล้อหน้ามีการยึดเกาะที่มากขึ้นตามไปด้วย
ในขณะที่ช่วงเบรกนี้ ดูเหมือนว่ายางจะให้การยึดเกาะที่มากขึ้น ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถเบรกได้หนักขนาดไหนโดยไม่ทำให้ล้อหลังลอยขึ้นมา โดยอาการล้อหลังลอยนี้เมื่อเทียบกับรถที่มีระยะฐานล้อสั้นอย่าง Triumph Speed Triple หรือ MV Agusta Brutale จะเกิดอาการนี้เร็วกว่าปกติและในทางตรงกันข้ามกับรถที่มีระยะฐานล้อยาว อย่าง Kawasaki Ninja H2 SX จะเกิดอาการนี้ช้ากว่าปกติ นั่นคือสิ่งที่เราต้องประเมินรถตัวเองและระวัง
ช่วงโค้ง
ก่อนที่เราจะเริ่มเอียงรถเข้าไปในโค้ง ในขณะที่เรากำลังเบรกอยู่นั้นเราตัองจัดท่าทางการนั่งของเราให้เหมาะสม โดยวิธีก็คือ ขยับไปนั่งตรงขอบเบาะฝั่งที่คุณต้องการจะเลี้ยว เช่น หากต้องการเลี้ยวซ้ายให้โน้มตัวและขยับสะโพกออกไปทางด้านซ้ายของเบาะ ใช้ขาฝั่งตรงข้ามกดบนถังน้ำมันอย่างมั่นคง เพื่อประคองตัวไว้ โดยหน้าข้องคุณควรจะอยู่ประมาณแนวเดียวกับกระจกมองหลังของรถ ไม่ควรเกร็งลำตัวจนเกินไปให้ผ่อนคลายยืดหยุ่น และใช้แขนฝั่งตรงข้ามประคองตัวไว้และช่วยแบ่งเบาน้ำหนักขาที่กดถังน้ำมัน เพียงเท่านี้คุณก็มีท่านั่งในตำแหน่งที่พร้อมจะเลี้ยวแล้ว โดยตัวของคุณจะเป็นน้ำหนักถ่วงที่ทำให้รถพับเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เราอยู่ในท่านั่งและความเร็วที่ถูกต้องแล้ว สองอย่างนี้จะช่วยให้เรามีการยึดเกาะที่มากขึ้นในช่วงโค้ง ส่วนปัญหาที่มักจะเกิดในช่วงนี้ก็คือ นักขี่มักจะเปิดคันเร่ง หรือกดเบรกในขณะที่กำลังโค้ง โดยการเร่งในโค้งนั้นจะทำให้รถเสียการควบคุมและทำให้ล้อหน้าลอยขึ้นจากผิวถนน ยิ่งเร่งแรงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็พลอยจะทำให้ล้อหลังเสียแรงยึดเกาะไปด้วย และจะทำให้รถล้มไปในที่สุด เช่นเดียวกัน ถ้าหาคุณเบรกในขณะที่เข้าโค้ง จะทำให้รถพยามตั้งตรงขึ้น หรือถ้าหากคุณกดเบรกแรงเกินไปจะทำให้ พื้นผิวยางรับแรงกดมาเกินไปจนทำให้รถล้มไปในที่สุด
ช่วงออกโค้ง
เมื่อคุณสามารถจัดท่านั่งได้ถูกต้อง และใช้เทคนิคการเข้าโค้งได้ดีแล้ว การออกโค้งก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญที่ต้องระวังไม่แพ้กัน โดยกุญแจสำคัญที่ต้องจำเลยก็คือ ทันทีที่เราผ่านจุดสูงสุดของโค้งหรือจุด Apex เราต้องเร่งคันเร่งอย่างนุ่มนวลและมั่นคงสม่ำเสมอ เริ่มด้วยการเปิดคันเร่งอย่างนุ่มนวล จะช่วยให้รถค่อยๆ ตั้งตรงขึ้นอีกครั้ง และในระหว่างที่รถกำลังออกจากมุมโค้งด้านใน สู่ขอบถนนด้านนอก ในระหว่างนี้เราก็สามารถหาจุดที่จะเปิดคันเร่งอย่างเต็มที่ได้ แต่ว่ายังต้องระวังเพราะการเปิดคันเร่งในระหว่างรถที่ยังไม่ได้ตั้งตรงมากพอ ก็อาจจะทำให้รถเสียการยึดเกาะและล้มไปได้เช่นกัน
ดังนั้นในบทสรุป นอกจากรถรุ่นใหม่ส่วนมากจะมียางที่ให้การยึดเกาะได้ดีกว่ารถเก่าๆแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือการสร้างความมั่นใจของคุณต่อรถ รู้จักมันให้ดีพอ จงหมั่นฝึกฝน พยายามเอาชนะเป้าหมายทีละน้อย และค่อยๆ เพิ่มความเร็ว ลดเวลาต่อรอบลง และรับรองว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะ และช่วยทำให้เราเข้า-ออกโค้งได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 30%
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก www.visordown.com