Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

Ducati และ Lamborghini สาธิตเทคโนโลยี Connected Rider เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

Ducati และ Lamborghini สาธิตเทคโนโลยี Connected Rider And Driver Tech

Ducati เพิ่งสาธิตระบบเชื่อมต่อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่ทางบริษัทกำลังพัฒนาร่วมกับ Lamborghini ผู้ผลิตยานยนต์ในเครือ Audi Group ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) แพร่หลายมากขึ้นในรถยนต์เมื่อเวลาผ่านไป แต่การค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการรวมระบบดังกล่าวและคำนึงถึงรถจักรยานยนต์นั้นเป็นปริศนาที่ Ducati และ CMC ที่ยิ่งใหญ่กว่าต้องการแก้ไข

dWGhM2D.jpeg

CMC หรือ Connected Motorcycle Consortium กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์เจ้าใหญ่ที่ปรนะกอบไปด้วย BMW, Ducati, Honda, KTM, Suzuki, Triumph และ Yamaha ที่ก่อตั้งโดยมีจุมุ่งหมายเดียวกันคือวิเคราะห์และจัดการร่วมกัน เกี่ยวกับเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถจักรยานยนต์และรถยนต์บนถนนสาธารณะ โดยล่าสุดทาง Ducati หนึ่งในผู้ผลิตจากกลุ่ม CMC ได้นำเสนอเทคโนโลยี ที่พัฒนาร่วมกับ Lamborghini ได้สาธิตระบบการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันสำคัญ 3 ประการ Intersection Movement Assist, Left Turn Assist และ Do Not Pass Warning

โดยวิดีโอที่นำเสนอนั้นจะเป็นยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์จาก Ducati Multistrada และ Lamborghini Urus โดยการสาธิตระบบ Intersection Movement Assist สถานการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการที่ Multistrada กำลังเข้าใกล้ทางแยกซึ่งมุมมองอื่นรอบๆ ทางแยกไม่ชัดเจนนัก โดยปกติหากจักรยานถูกบดบังจากการมองเห็นด้วยสิ่งกีดขวางเช่น ต้นไม้ ยานพาหนะอื่นๆ อาคาร หรือการวางแผนเทศบาลที่ไม่ดี ยานพาหนะอื่นๆ ก็อาจไม่สามารถมองเห็นตัวรถจักรยานยนต์ได้เช่นกัน

ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจะเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างระบบ Intersection Movement Assist ที่เปิดใช้งานทั้งบนจักรยานยนต์และรถยนต์ การแจ้งเตือนจะปรากฏบนแผงหน้าปัดของรถเพื่อแจ้งให้ทราบว่าทางแยกที่อาจจะมีทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจนหากผู้ขับขี่เห็นคำเตือน ในทางทฤษฎีแล้ว พวกเขาจะขับต่อไปอย่างระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ทางแยก หรือบางทีอาจจะรอดูยานพาหนะคันอื่นๆ ผ่านไปก่อนเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด

dWGhvlS.jpeg

ระบบ Left Turn Assist ทำงานในลักษณะเดียวกันกับระบบ Intersection Movement Assist โดยจะทำการแจ้งเตือนเมื่อมีตัวรถที่เชื่อมต่อผ่านระบบเดียวกัน กำลังขับสวนบนทางแยก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเลี้ยวตัดหน้า ซึ่งรวมไปถึงกรณีที่รถอยู่ด้านหลังแล้วต้องการแซงจากด้านหลังเพื่อขึ้นไปข้างหน้า ระบบจะแจ้งเตือนถึงทางแยกด้านหน้าที่รถยนต์หรือจักรยานยนต์ข้างหน้ากำลังจะเลี้ยว ซึ่งช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างมาก

ระบบสุดท้าย Do Not Pass Warning คือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะหลายคันซึ่งทุกคันจะพูดคุยกันผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ในกรณีนี้ สถานการณ์คือมีรถหลายคันจอด หรืออย่างน้อยก็ชะลอความเร็วลงอย่างผิดปกติ โดยรถคันหน้าซึ่งต้องการเลี้ยวซ้าย หากรถยนต์และจักรยานยนต์ติดต่อกัน สามารถเตือนยานพาหนะต่อไปนี้ทั้งหมดไม่ให้ผ่าน แม้ว่าจะมองไม่เห็นรถที่อยู่ข้างหน้าที่รอเลี้ยวซ้ายก็ตาม

ระบบทั้งสามแบบนี้ ดูแล้วค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้จริง แต่อุปสรรคสำคัญบางประการที่ต้องพิจารณา ประการหนึ่ง จะใช้เวลานานขนาดไหนกว่าที่ยานพาหนะทุกคันบนท้องถนนจะติดตั้งระบบเดียวกันนี้ ซึ่งนั้นหมายความถึงตัวรถที่ไม่ได้ติดตั้งระบบนี้จะไม่สามารถสื่อสารกับรถคันอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นฉนวนของการเกิดอุบัติเหตุได้

dWGhF71.jpeg

นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องของมูลค่าก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ผลิตรถยนต์และจักรยานมักจะเสนออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์หลายระดับ บางคนจะซื้อรุ่นพื้นฐาน และคนอื่นๆ จะเลือกใช้ข้อเสนอระดับกลางหรือระดับสูงสุด ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นที่ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และแน่นอนว่ารุ่นที่ท๊อปกว่าก็ต้องมีราคาที่สูงกว่า เว้นแต่องค์กรด้านความปลอดภัยของรัฐบาลจะกำหนดให้ใช้ระบบความปลอดภัยที่เชื่อมต่อกันเช่นนี้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน ซึ่งนั้นก็หมายความถึงมูลค่าของตัวรถที่จะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกไม่น้อย

dWGk0TJ.jpeg

สุดท้าย ด้วยการวางระบบความปลอดภัยขั้นสูง เป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น ซึ่งนั้นไม่ได้หมายความว่าผู้ขับขี่ตัวยานพาหนะที่มีระบบนี้จะปลอดภัยแบบ 100% ยังไงเสียผู้ขับขี่ก็ยังคงเป็น “มนุษย์” ที่มีส่วนประกอบของ ความรู้สึก อารมณ์ และจิตสำนึกสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยและองค์ประกอบ ที่จะทำให้เกิดปัญหาบนท้องถนนได้ ต่อให้ระบบพัฒนาก้าวหน้าไปขนาดไหน แต่ผู้ขับขี่ยังคงตั้งตนบนความ “ประมาท” มันก็ก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อยู่ดี

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com