วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของ Kawasaki Ninja 700
เป็นเรื่องที่ฮือฮาเป็นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับ Kawasaki ในการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สองลูกสูบในพิกัด Middle Wight กับการพัฒนาเจ้า Ninja 650 ให้กลายเป็น Ninja 700 ซึ่งมีหลายๆ สื่อเริ่มทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโมเดลนี้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อย่างไร
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่า ทั้งหมดเป็นการรวบรวมข้อมูลจากสื่อหลายๆ สำนักและเอามาย่อยในวิธีของเรา ผสมเข้ากับความคิดเห็นส่วนตัวของทางทีมงาน อาจจะไม่ตรงใจเพื่อนๆไปบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
2020 Kawsaki Ninja 650
หากเรามองไปยังตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในคลาสกลางปัจจุบัน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าตลาดถูกปกคลุมด้วยรถมอเตอร์ไซค์จากแบรนด์ Honda กับเจ้า CBR650R ที่นับว่าเป็นโมเดลเรือธง ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในหมวดหมู่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของทางค่าย ด้วยประสิทธิภาพ ราคา และการเข้าถึงได้ง่ายของตัวรถ จึงทำให้มีหลายๆ คนยกให้มันเป็นหนึ่งในโมเดลที่ยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน จนยากที่จะมีใครล้มได้ แต่สำหรับตลาดรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งในคลาส 650 ซีซี ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสองลูกสูบนั้น กลับมีตัวเลือกที่ไม่มากสักเท่าไหร่ เท่าที่เรานึกออกในเวลานี้ก็จะมีเพียง Kawasaki Ninja 650 และโมเดลใหม่เอี่ยมจากฝั่งยุโรปอย่าง Aprilia RS660 แต่ถึงจะอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า RS660 นั้นพึ่งจะมาได้ไม่นาน แต่มันค่อนข้างมีราคาสูง ด้วยอุปกรณ์และฟีเจอร์ที่จัดเต็มจนแทบล้นคัน จึงทำให้เจ้าตลาดใน Segment นี้ก็ยังคงเป็น Honda อยู่ดี แต่กลับกลายเป็นเจ้า CBR500R ที่มีเครื่องยนต์ที่ขนาดเล็กกว่า โดยมี Yamaha YZF-R3 ที่เป็นคู่แข่งตามมาแบบห่างๆ
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนและเป็นข้อเท็จจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รถสปอร์ตกลุ่มเครื่องยนต์ 2 ลูกสูบ นั้นถูกผูกขาดไปแล้ว ณ ปัจจุบัน การที่จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสียบหรือทำให้เกิดการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้บริโภคเองก็มักจะมองข้ามรถใน Segment นี้ไป แต่จะไปมองที่กลุ่มที่เครื่องยนต์ใหญ่กว่า หรือการมีจำนวนลูกสูบที่มากกว่า เสียเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างแบบง่ายๆ หากจะมีใครสักคนที่เริ่มต้นด้วย Kawasaki Ninja 250 แล้วล่ะก็การขยับเปลี่ยนโมเดลใหม่ในครั้งต่อไป มักจะกลายเป็น Ninja 1000 ไม่ก็รถในซีรี่ส์ ZX ไปเลย คงมีไม่มากนักที่จะขยับตามขั้นเป็น Ninja 650
2020 Honda CBR650R
แต่ถ้าให้มองในมุมกลับกัน หากจะมีใครสักคนที่เริ่มจะใช้บิ๊กไบค์เป็นคันแรก กลุ่ม 650 ซีซี สองลูกสูบ เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก เพราะมันค่อนข้างแตกต่างออกไปจากรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัดเล็กๆ ไม่เกิน 200 ซีซี แต่มันก็มีปัจจัยสำคัญอยู่อีกหนึ่งอย่างก็คือเรื่องของ “ราคา” โดยราคาของเจ้า Ninja 650 สำหรับประเทศไทยนั้นมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 318,900 บาท และเมื่อไปเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง Honda CBR650R ที่ปัจจุบันมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 324,300 บาท ส่วนต่างเรื่องราคาเพียงเล็กน้อยนี้ เมื่อเทียบกับตัวรถ สเปก ฟีเจอร์ น่าจะทำให้หลายๆ คนไขว่เคว้าได้ไม่ยากนัก และเมื่อเทียบกับเจ้าตลาดในคลาสที่ต่ำลงมาอย่าง CBR550R ที่ใช้เครื่องยนต์ประเภทเดียวกัน แต่ต่างกันที่ซีซี กลับมีราคาอยู่ที่เพียง 219,800 บาท ซึ่งทำให้เกิดความต่างของราคา จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่เจ้า Ninja 650 นั้นจะถูกลืมไปในที่สุด
พล่ามมายืดยาว ก็กลับเข้ามาสู่ประเด็นกันดีกว่า หากจะถามว่า Kawasaki Ninja 700 มีโอกาสจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน โดยความคิดเห็นของตัวผู้เขียนเอง ก็มีโอกาสที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้พอๆ กัน หากมองในความเป็นไปได้ Kawasaki ที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งมากมาย ไล่เรียงไปตั้งแต่ Ninja 250 ไปจนถึง Ninja 1000 หรือแม้แต่สปอร์ตเรฟพลิก้าในซีรี่ส์ ZX ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 ลูกสูบ ไล่ไปตั้งแต่ ZX-25R จนไปถึง ZX-10RR หรือแม้แต่รุ่นใหญ่อย่าง ZX-14R การขาดหายไปของ Ninja 650 ในกลุ่มราคาย่อมลงมานั้น ดูจะไม่ใช่ผลดีต่อรูปการตลาดของบริษัทสักเท่าไหร่ เพราะส่วนหนึ่ง กลุ่มเป้าหมายหลักๆ ของเจ้า Ninja 650 ก็คือกลุ่มผู้ใช้งานชาวยุโรปที่มีเรื่องของข้อบังคับใบขับขี่ที่ครอบอยู่ การขยับเครื่องยนต์จาก 650 ไปสู่ 700 ซีซี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สิ่งที่ควรใส่เพิ่มในโมเดลใหม่ต่างหากคือสิ่งสำคัญ ในเมื่อการขยับเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้น ต้นทุนในการผลิตก็เพิ่มขึ้น ราคาตั้งขายของมันก็ต้องขยับเข้าใกล้ CBR650R เข้าไปอีก ดังนั้นส่วนที่จะทำให้มันเหนือกว่าก็คือการอัดสิ่งที่ใกล้เคียงกับ CBR650R หรือเหนือกว่าไปเลย
หากจะมองให้ใกล้เคียงกัน แต่ตัวรถดันมีจุดอ่อนที่เครื่องยนต์สองลูกสูบที่อาจจะไม่ดึงดูดคนซื้อเท่าไหร่ การปรับลูกเล่นใหม่ ทั้งในส่วนของการออกแบบ อุปกรณ์ให้ใกล้เคียง หรือแม้แต่การใส่อะไรที่ CBR650R ไม่มี ยกตัวอย่างเช่นระบบคันเร่งไฟฟ้า พร้อมโหมดการขับขี่ ระบบช่วยเหลือต่างๆ ที่ใช้แกน IMU เป็นหัวใจหลักในการทำงาน ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ก็คือ “ราคา” ของมันจะสูงกว่าอย่างแน่นอน หากจะอัดฟีเจอร์มาเต็มขนาดนี้ มันอาจจะไปใกล้เคียงกับรถในซีรี่ส์ ZX อย่างเจ้า ZX-6R เลยก็เป็นไปได้
อีกนัยหนึ่งการไม่มีอยู่จริงของ Ninja 700 มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่างที่บอกไปข้างต้น Kawasaki เองมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปอร์ตฟูลแฟร์รี่งเป็นจำนวนมาก การขาดหายไปของโมเดลที่ไม่ค่อยมีผลต่อกำไรโดยรวมของบริษัท ก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่ แต่การไปมุ่งเน้นที่กลุ่ม Naked Sport ที่มีเจ้า Kawasaki Z650 ที่ยังพอไปวัดไปวาได้ในตลาดยุโรปก็ดูจะเป็นผลดีเสียมากกว่า
เรายังคงอยู่ในช่วงการติดตามความเป็นไปได้ของโมเดล Kawasaki Ninja 700 กันต่อไปถึงแม้ว่าทางผู้ผลิตเองจะยังไม่มีการออกมายืนยันถึงการมีอยู่จริงของโมเดลก็ตาม ย้ำอีกครั้งทั้งหมดในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงาน Greatbiker เท่านั้น หากผิดพลาดหรือไม่ถูกใจต้องขออภัยมา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
