สัมผัสแรก All New Honda CRF300L
เรียกได้ว่าเป็นการเขย่ากระแสแวดวง Dual Propose อย่างแท้จริง เมื่อค่ายปีกนก Honda ได้ทำการเปิดสองโมเดลสาย Dual Propose ในตระกูล CRF อย่างเจ้า 2021 All-New Honda CRF300L และ 2021 All-New Honda CRF300Rally ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนขุมกำลังเครื่องยนต์ใหม่ และในหลายๆ มุมมอง ทำให้เราได้ตื่นเต้นกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และเป็นโอกาสอันดีที่ทาง AP.Honda ได้เชิญชวนพวกเราทีมงาน Greatbiker.com ให้เข้าร่วมกับการทดสอบการขับขี่จริงเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทำความรู้จัก 2021 All-New Honda CRF300L
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวรถ 2021 All-New Honda CRF300L กันสักหน่อย ตัวรถจะเป็นรถ Dual Propose ที่เน้นการใช้งานในการขับขี่ทางวิบาก Off-Road เป็นหลัก โดยอยู่ภายใต้คอนเซปต์ “THERE’S NO END OF THE ROAD ไปทุกที่ ที่ไม่มีทาง” โดยที่ตัวรถนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ชุดใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 286.01 ซีซี หนึ่งลูกสูบ สี่จังหวะ DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ชุดส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 ระดับ พร้อมระบบใหม่อย่าง ASSIST SLIPPER CLUTCH ทำให้การปรับลดเกียร์อย่างรวดเร็วนั้นท้ายมีอาการสับที่น้อยลง เข้าโค้งบนทางฝุ่น ทรายได้ดีกว่าเดิม ถังน้ำมันปรับรูปทรงใหม่ให้สามารถหนีบถังได้กระชับมากขึ้นไม่ว่าจะยืนหรือนั่งขี่ โดยที่ความจุยังคงอยู่ที่ 7.8 ลิตรเหมือนรุ่นก่อนหน้า
ตัวรถยังมาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนอะไหล่หลายๆ อย่าง ทั้งการย้ายตำแหน่งของหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ สลับฝั่งจากเดิมหม้อน้ำจะอยู่ฝั่งซ้ายก็ย้ายไปอยู่ด้านขวา โดยตรงจุดนี้ ทางทีมงานได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่แล้ว พบว่านอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างสมดุลของตัวรถแล้ว เป็นการเก็บรวมบรวมข้อมูลจากโมเดลเดิมที่ได้มาจากการส่งซ่อม เนื่องจากผู้ขับขี่ส่วนมากจะล้มกันในฝั่งซ้ายทำให้ หม้อระบายความร้อนของรถเกิดความเสียหายเป็นส่วนมาก ทางผู้ผลิตจึงได้ย้ายมาติดตั้งฝั่งขวาแทน ซึ่งนั้นคือความใส่ใจที่ผู้ผลิตมีให้กับผู้บริโภคอย่างเราๆ ไม่เพียงแต่การย้ายตำแหน่งของระบบระบายความร้อน Honda CRF300L ยังมีการเปลี่ยนในเรื่องมิติของสวิงอาร์มใหม่ให้มีมิติในความลึกที่มากขึ้นทำให้ตัวรถมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก รองรับการกระโดดที่สูงขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถช่วยเหลือระบบกันสะเทือนหลังแบบโช้คอัพเดี่ยว Prolink ได้อีกด้วย อีกทั้งการย้ายตำแหน่งของปั้มบนเบรกหลัง มาติดตั้งบริเวณ ติดกับสวิงอาร์มก็ส่งให้การเบรกที่ด้านหลังมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น
นอกจากนี้ตัวรถยังมีการปรับระบบไฟใหม่ทั้งคันให้เป็นไปตามสมัยนิยม โดยได้เลือกใช้ระบบไฟแบบ LED เต็มรูปแบบ หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลมิเตอร์ พร้อมไปบอกตำแหน่งเกียร์ และไฟ Shift up light ช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมกับรอบของเครื่องยนต์ โดยสามารถปรับตั้งค่าได้ตามรูปแบบการขับขี่ของแต่ล่ะบุคคล ทั้งหมดทั้งมวลนี้จะเห็นได้ว่าตัวรถมีการพัฒนาไปแบบก้าวกระโดดทั้งในเรื่องของเครื่องยนต์และฟีเจอร์บนตัวรถ แต่ทั้งนี้ตัวรถถึงแม้ว่าจะมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น กำลังที่มากกว่าเดิม แต่น้ำหนักตัวของมันกลับลดลงจากโมเดล CRF350L ถึง 5 กิโลกรัมด้วยกัน
สัมผัสแรกของ 2021 All-New Honda CRF300L
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า รูปลักษณ์ภายนอกของมันเมื่อสังเกตด้วยตาเปล่านั้น แทบจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปจากโมเดลเดิมสักเท่าไหร่ แต่พอได้ลองขับขี่เท่านั้นแหละ ก็รูปเลยว่ามันเปลี่ยนไปอย่างมาก ถังน้ำมันใหม่ที่ให้มานั้นจะออกไปในทางแนวตั้ง ไม่ป้านออกเหมือนโมเดลก่อน ทำให้การขับขี่นั้นตำแหน่งของเข่า หน้าขา มีความเป็นธรรมชาติกว่าเดิม ไม่ว่าจะนั่งขี่หรือยืนขี่ เราก็สามารถหนีบถังได้อย่างถนัด ทำให้การขับขี่นั้นมั่นใจมากขึ้น ตัวรถมีน้ำหนักที่เบากว่าเดิม ทำให้สามารถควบคุมตัวรถได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการยืนขี่ที่เป็นเหมือนท่าบังคับในการขับขี่ทางวิบาก ทำให้เราใช้แรงไม่มากในการสู้กับตัวรถในการวิ่งบนเส้นทางที่ไม่เรียบ สร้างความประทับใจให้กับผู้ทดสอบเป็นอย่างมาก โดยส่วนตัวคิดว่ามันเหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะเปลี่ยนจากสายทางเรียบ ไปสู่การขับขี่แบบ Off-Road เป็นอย่างมาก
เครื่องยนต์และฟีเจอร์
ขุมกำลังใหม่ขนาด 286.01 ซีซี ใน CRF300L นั้นมีความกระชับเป็นอย่างมาก เดินคันเร่งเพียงเล็กน้อยตัวรถก็พร้อมออกตัว แรงบิดมาไวทำให้สามารถกระแทกคันเร่งเพื่อผ่านอุปสรรคได้อย่างไม่ยากเย็น โดยที่การทดสอบของพวกเรานั้น ขับขี่ทั้งบนทางฝุ่น ทราย โคลน พื้นเปียก และกรวดเม็ดเล็กๆ แต่ตัวรถนั้นมีกำลังเพียงพอสำหรับการขับขี่ในหลายๆ สภาพพื้นผิว โดยส่วนของฟีเจอร์ใหม่อย่างระบบ Assist and Slipper Clutch นั้นในครั้งแรกที่ทราบว่าทางผู้ผลิตใส่มาให้จะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไรกับการขับขี่ในทางวิบากแบบนี้ แต่เมื่อได้ทดลองขับขี่จริงแล้ว มันมีประโยชน์อย่างมาก การลดเกียร์ลงอย่างรวดเร็วมากกว่าสองเกียร์ ล้อหลังมีการอาการสับที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้น การสาดในโค้งทรายทำได้อย่างสมดุล เนียนแบบไม่รู้สึกถึงอาการของล้อหลัง และที่สำคัญ ช่วยเซฟแรงของผู้ขับขี่ที่ต้องต่อสู้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี อีกทั้งหน้าจอแสดงผลใหม่ที่มีไฟบอกตำแหน่งเกียร์และไฟ Shift up Light นั้น ก็ช่วยให้เราไม่สับสนในการจำเกียร์และยังช่วยให้เราสามารถเลือกรอบเครื่อยนต์ที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนเกียร์และมันค่อนข้างตอบโจทย์กับการขับขี่ที่ต้องใช้สมาธิเป็นอย่างการขับขี่ Off-Road ทำให้เราไม่ต้องมานั่งจำว่าตอนนี้เราใช้เกียร์อะไร และตอนไหนที่ควรเปลี่ยนเกียร์ มันค่อนข้างจะใช้ได้จริงอย่างไม่ต้องสงสัย
ระบบช่วงล่างและเบรก
2021 All-New Honda CRF300L นั้นยังคงเลือกใช้งานระบบกันสะเทือนหน้าจากแบรนด์ Showa ในรูปแบบของ Upside-Down ขนาด 43 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Mono Shock ปรับระดับได้จากแบรนด์เดียวกัน ทำงานรวมกับสวิงอาร์มแบบ Prolink ซึ่งทั้งสองนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง ในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้ทดสอบ โช้คหลังค่อนข้างนิ่มไปสักหน่อยถึงแม้ว่าจะปรับให้แข็งที่สุดแล้วก็ตาม แต่มันก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในรูปแบบของ Off-Road ที่มากกว่าทั่วๆ ไป แต่ถ้าหากใครจะใช้งานแบบ Hard Core แล้วล่ะก็คงต้องเปลี่ยนไปใช้ในรุ่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่โดยภาพรวมแล้วจัดว่ายังโอเค หากเรายังใช้งานทั้งสองรูปแบบทั้งบนทางเรียบและทางวิบากที่ไม่กันดารมากมายนัก มันก็เพียงพอและทำให้เราสนุกกับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ส่วนระบบเบรกนั้น ด้านหน้าจะเป็นระบบดิสก์เดี่ยวคาลิปเปอร์เบรก 2 พ็อต ด้านหลังดิสก์เบรกเดี่ยว คาลิปเปอร์เบรก 1 พ็อต โดยที่ด้านหลังมีการย้ายตำแหน่งของปั้มบนเบรกใหม่มาใกล้กว่าเดิม และเปลี่ยนวัสดุและขนาดใหม่เสริมให้ภาพลักษณ์ดูดีกว่าเดิม และยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกมากขึ้น (บนทางเรียบ) โดยที่เบรกหน้ายังคงเป็นจุดเด่นของรถในตระกูล CRF ที่มีการวางตำแหน่งของก้านมือเบรกแบบปรับระดับได้ ทำให้เข้ากับทุกขนาดมือของผู้ขับขี่ กำลังในการเบรกที่มีเกินพอสำหรับการขับขี่ Off-Road ที่เน้นใช้ความเร็วต่ำถึงกลางเป็นหลัก ภาพรวมแล้วประทับใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ภาพรวมในการขับขี่ 2021 All-New Honda CRF300L โดยทีมงาน GreatBiker.com
ภาพรวมแล้ว 2021 All-New Honda CRF300L นั้นเป็นรถ Dual Propose ที่เน้นหนักไปที่การขับขี่บนทางวิบาก สามารถตะลุยไปได้ในทุกๆ เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางฝุ่น ทราย ดิน โคลน พื้นแห้ง พื้นเปียก มันคือตัวรถที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นจากโมเดลก่อนหน้าอย่างชัดเจน น้ำหนักตัวรถเบา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมตัวรถได้ง่ายกว่าเดิม แถมยังสนุกมากขึ้นกับขุมกำลังชุดใหม่ที่จัดเต็มทั้งเรื่องแรงบิดและพละกำลังในการขับขี่ผ่านอุปสรรคต่างๆ อีกทั้งฟีเจอร์ที่ทันสมัยช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี เหมาะสมกับผู้ขับขี่หน้าใหม่และมือเก๋า จะชายหรือหญิงก็สามารถขับขี่มันได้อย่างง่ายดาย ตัวรถมีราคาแนะนำอยู่ที่ 145,800 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ทีเดียวครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ AP.Honda ที่ชวนพวกเราทีมงาน GreatBiker.com ในการทดสอบเจ้า 2021 All-New Honda CRF300L ในครั้งนี้ และในโอกาสหน้าเราจะมีการทดสอบการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นไหนกันอีก ต้องติดตามกันต่อไปครับ
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.