ทำความรู้จัก นวัตกรรม EPS จากแบรนด์หมวกกันน็อค Koroyd
หลายปีหลังจากการก่อตั้งแบรนด์ Koroyd ผู้ผลิตหมวกกันน็อดเฉพาะทางที่มีการพัฒนานวัตกรรมเป็นของตนเอง โดยมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอย่าง EPS ที่เหนือกว่าคู่แข่งในท้องตลาด ในด้านการรองรับแรงกระแทกที่เหนือกว่า และล่าสุดทางแบรนด์พร้อมสำหรับการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวงกว้างเสียที
วิดีโอแนะนำเทคโนโลยี Koroyd และ EPS
นวัตกรรม EPS นั้นเป็นนวัตกรรมการสร้างวัสดุที่เป็นวัสดุผนังบางที่เรียงต่อกันด้วยความร้อน มีลักษณะคล้ายๆ กับการเรียงต่อกันของหลอดดูดน้ำที่เราคุ้นเคย (แต่มีวัสดุที่แตกต่างกัน) โดยที่วัสดุ EPS นั้นจะถูกฉีดขึ้นรูปเพื่อครอบคลุมศีรษะที่เป็นส่วนที่เปราะบางที่สุด ทั้งด้านบนและด้านข้างของศรีษะ โดยที่ตัว EPS นั้นจะยุบตัวทันทีเมื่อเกิดแรงกระแทกและจะไม่มีการคืนตัว ซึ่งสามารถรับและกระจายแรงได้มากกว่า 80% จากแรงโดยรวม
ไม่เพียงแต่รับแรงได้มากแล้ว EPS ยังมีความสามารถในการระบายอากาศที่เหนือกว่า ด้วยลักษณะที่เป็นหลอดจึงทำให้อากาศไหลผ่านได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ไม่เกิดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ จึงทำให้ภายในหมวกนั้นแทบจะปลอดจากกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์เลยก็ว่าได้
หลังจากพัฒนาอยู่นาน Koroyd จึงได้นำเสนอนวัตกรรม EPS บนผลิตัณฑ์ของตนเองเป็นครั้งแรกในปี 2021 กับหมวกกันน๊อดวิบากรุ่น Klim F5 ซึ่งหมวกรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานสากลอย่าง DOT และ ECE ได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งยังมีขนาดให้เลือกใช้งานตามสรีระที่แตกต่างไล่เรียงไปตั้งแต่ขนาด XS ไปจนถึง 3XL เลยทีเดียว แต่ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง โดยเจ้า Klim F5 นั้นจะมีราคาเริ่มต้นที่ 520 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,620 บาท ในขนาด XS และมีราคาจำหน่ายในขนาดปกติที่ 650 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 19,525 บาท โดยประมาณ
ต่อมาในปี 2020 บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับรถวิบากชั้นนำอย่าง Thor ก็ได้จับมือกับทาง Koroyd ที่นำเอานวัตกรรม EPS ไปใส่ในหมวกกันน็อครุ่นใหม่อย่าง Thoe Reflex และมาพร้อมกับตัวเลือกที่คุณเลือกไม่ว่าจะเป็นเปลือกคอมโพสิตไฟเบอร์กลาสหรือคาร์บอนไฟเบอร์ รวมไปถึงขนาดที่ไล่เรียงจากเล็กไปจนถึงใหญ่ที่สุดที่ 4XL โดยที่มีราคาจำหน่ายที่เริ่มต้นที่ 395 ดอลล่าร์ (11,862 บาท) ซึ่งเห็นได้ว่าราคานั้นถูกลงค่อนข้างมากเลยทีเดียว
John Lloyd ผู้ก่อตั้ง Koroyd ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่า “เทคโนโลยี Koroyd ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในหลายๆ ส่วน โดย Koroyd สามารถปรับปรุงความสามารถของหมวกนิรภัยเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและให้ประโยชน์เชิงรับเช่นน้ำหนักที่ลดลงและการระบายอากาศที่ดีขึ้น ในการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยเฉพาะผู้ใช้ชื่นชอบการระบายอากาศที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยให้พวกเขายังคงสบายและมีสมาธิมากขึ้น”
“เราได้แสดงให้เห็นว่าในฐานะแบรนด์ส่วนผสมที่มีจริยธรรมสูงการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นโดยมีพันธมิตรที่เลือกเพียงไม่กี่รายจะมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค ขณะนี้เรากำลังดำเนินการพัฒนาเพิ่มเติมซึ่งจะช่วยให้สามารถนำเทคโนโลยีของเราไปใช้กับพันธมิตรที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในระยะยาวของเราได้”
เห็นได้ชัดว่า John Lloyd เองจะนำเอานวัตกรรมที่ตนเองพัฒนานั้น ส่งมอบให้กับแบรนด์พันธมิตร โดยมีจุดประสงค์เดียวคือเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งส่วนนี้ชี้ให้เห็นว่า ไม่เพียงแต่ต้องการสร้างผลกำไรที่จับต้องได้แล้ว การให้ความสำคัญกับผู้บริโภคนั้นก็ไม่ด้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย ส่วนเรื่องจะไปเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ผู้ผลิตรายไหนบ้าง และจะมีโอกาสหรือไม่ที่นวัตกรรมนี้จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ที่มีกำลังเป็นมาตรฐาน มอก. ที่หลายๆ ผู้ผลิตเองยังคงขยาดกับมาตรฐานความปลอดภัยที่ดูครึ่งๆ กลางๆ แบบไทย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.