รีวิว GPX Legend 250 Twin II กับทริปขับขี่ยาวๆ ไปแก่งกระจาน
จะมีสิ่งใดที่ทำแล้วมีความสุขของชาวสองล้อมากไปกว่าการหาเวลา พารถคู่ใจเดินทางไปในที่ต่างๆ ได้อย่างสนุกและปลอดภัย ให้ได้เขียนบันทึก จดเรื่องราวมากมายไว้เล่าสู่ลูกหลานฟัง กับการเดินทางที่ทุกคนก็สามารถทำได้
ช่วงสายของวันพุธกลางสัปดาห์ การเดินทางของเราในครั้งนี้ก็เริ่มขึ้นที่ศูนย์ GPX พระราม 5 จุดหมายปลายทางของทริปอยู่ที่แก่งกระจานจังหวัดเพชรบุรี เป็นทริปสบายๆ ขี่ชิลๆ ท่องเที่ยวกับพี่ๆ น้องๆ ทำกิจกรรมมีตติ้งแฮงค์เอ้าท์กันตามประสาชาวสองล้อ ผมได้พาหาหนะคู่ใจเป็นเจ้า GPX Legend 250 Twin II สี Silver Space หรือเทาประกายสีรุ้ง จากแร่ไมก้า พิกเม้น กับคอนเซ็ป The Original
ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ SOHC 4วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศและ Oil Cooler ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด GPX-Fi แบรนด์ Delphi จากอเมริกา ระบบเกียร์ 6 สปีด สตาร์ทไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนเป็นโซ่รหัส RK 520 แบบโอริง มาพร้อมกับล้อแม็กหน้าหลัง ยาง Veerubber แบบทูปเลส ขนาดยางหน้า 110/90 ยางหลัง 130/90 โครงสร้างรถเป็นแบบ Backbone Frame มีความกว้าง 785 มิลลิเมตร ยาว2040 มิลลิเมตร สูงจากพื้นถึงเบาะ 790 มิลลิเมตร น้ำหนัก156 กิโลกรัม ระบบไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED เรือนไมล์เป็น Full DIGITAL LCD METER โช้คอัพหน้าเป็น Upside Down โช้คอัพหลังเป็น โช้คคู่แบบแก๊สมีซับแท้งค์ แบรนด์ YSS รุ่น G-Series ปรับพรีโหลดแบบเกลียว ดิสก์เบรคคู่หน้าขนาดใหญ่ 276 มม. ดิสก์เบรคหลัง ขนาด 220 มม.
ต้องบอกเลยว่าสัมผัสแรกที่ต่างจากตัวก่อนหน้านี้คือแฮนด์บาร์ที่สูงขึ้นและกว้างขึ้น ขี่สบายในทางไกลแต่ถ้าต้องมุดตัวไปตอนรถติดก็ต้องใช้ความคุ้นชินอยู่พอสมควร ท่าทางการนั่งถือว่านั่งสบายกว่าตัวก่อนหน้านี้มาก ปลอกแฮนด์ทรงอ้วนทำให้จับกระชับมือ ที่สำคัญโช๊คอัพคู่หลังที่ใส่มาเป็นแบบมีซับแท้งค์ ของ YSS G-Series ก็ถือว่านุ่มนวลเลยทีเดียว
จุดหมายแรกที่เราต้องไปแวะทานอาหารเที่ยงคือร้านอาหารครัวย่าโรม ต้อนรับทริปกันด้วยอาหารทะเลสดสะอาดกันแบบนี้สมาชิกผู้ร่วมทริปถึงขั้นตาโตกันไป บอกเลยว่าช่วงขับผ่านสมุทรสาครได้กลิ่นปลาทูลอยมายิ่งทำให้หิวข้าวไปใหญ่เลย บนโต๊ะถูกเสิร์ฟด้วยกุ้งเผาเกลือ หอยหลอดผัดฉ่า แต่ที่เด็ดที่สุดคือเจ้าปูไข่ที่แน่นไปด้วยไข่ปูสีแดงสด หวานมันอร่อยจนลืมน้ำจิ้มกันไปเลย
หลังจากที่พักทานอาหารเที่ยงกันเต็มอิ่มเราก็พร้อมจะออกเดินทางกันต่อ ซึ่งเราก็ได้ใช้เส้นทางถนนเลียบทะเลตะวันตก ตลอดเส้นทางที่ขับผ่าน มีทั้งทางโค้ง ทางเนิน ทางขรุขระแทบจะทุกรูปแบบ แต่เจ้าพาหนะคู่ใจก็ขับขี่ได้สบายๆ การเข้าโค้งที่หน้ายางค่อนข้างใหญ่ช่วงแรกก็ยังไม่คุ้นชิน อาจจะมีสะดุ้งโค้งอยู่บ้าง แต่เมื่อปรับท่าทางการขับขี่ ก็ขี่ได้แบบไม่ติดขัด การควบคุมรถทำได้ง่ายถึงแม้รถค่อนข้างจะมีน้ำหนัก มือใหม่ก็น่าจะเหมาะเป็นอย่างมาก แถมเครื่องสองสูบที่ให้กำลังในช่วงกลางเป็นพิเศษ ทำให้การขี่แบบยืนระยะออกทริปทำได้แบบสบายๆ การออกตัวจะไม่แรงแบบกระชาก แต่ออกแนวนิ่มนวลและสุภาพมากกว่า หรือแม้แต่การเร่งแซง ก็อาจจะใช้เวลาอยู่บ้าง แต่โดยส่วนตัวแล้วถือว่าไม่ได้ขี้เหร่เลย อีกอย่างนึงที่อยากจะพูดถึงเวลาขับรถทางไกล เจอสภาพถนนที่หลากหลาย ปกติแล้วเวลาออกทริปทั่วไปอาการของโซ่ดังก็จะได้ยินอย่างชัดเจน แต่สำหรับคันนี้ที่ใช้โซ่แบบโอริง ถือว่าเงียบมาก
ก่อนถึงแก่งกระจานสัก 30 กิโล เราได้แวะเติมพลัง และเปลี่ยนอิริยาบทการขับขี่ที่ร้านกาแฟที่ littel forest house cafe จากข้างนอกอากาศประมาณ 36 องศา เจอแอร์เย็นๆ ก็แทบจะหลับเสียให้ได้ และเมื่อพักเติมพลังคนแล้วเราก็เติมน้ำมันกันจุดแรก หลังจากน้ำมันเต็มถังและไมล์ศูนย์กิโลจากศูนย์พระราม 5 ด้วยถังน้ำมัน 14.5 ลิตร กับการขับขี่กว่า 200 กิโลเมตร น้ำมันยังเหลือตั้ง 2 ขีด ถือว่าประหยัดน้ำมันมาก
ขับต่อมาอีก 30 นาทีเราก็ถึงแก่งกระจานจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ ได้รับอากาศดีๆ ลมโชยเย็นๆ พร้อมกลิ่นไอฝนมาแต่ไกลทำให้หายเมื่อยล้าจากการขับขี่มาหลายชั่วโมง เรามาถึงกันช่วง 4 โมงก็ถือได้ว่าทำเวลาได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ มีเวลาเดินถ่ายรูป เก็บภาพบรรยากาศกลับไปอย่างเต็มที่
หลังจากนั้นเราก็เดินทางมาถึง ‘เดอะกระโจม @ แก่งกระจาน’ ที่พักของเราในคืนนี้ บรรยากาศที่พักเหมาะกับการมาแฮ้งค์เอ๊าท์กับเพื่อนๆ มาก มีกระโจมแยกส่วนตัวเป็นหลัง มีแม่น้ำไหลผ่าน สามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้ แต่ช่วงที่เราไปฝนตกน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนค่อนข้างสูง เราก็ได้แต่แคมป์ปิ้งรอบกองไฟแลกเปลี่ยนมุมมองประสบการณ์การขับขี่ในทริปอย่างออกรสออกชาดกันไปกันไป
เช้าวันที่ 2 หลังจากที่เมื่อคืนฝนตกปรอยๆ ทำให้หลับสบายทั้งคืน อากาศค่อนข้างเย็นสบาย วันนี้เราก็จะต้องกลับ แต่ก่อนกลับเราก็ขี่รถขึ้นไปกินกาแฟกันก่อนที่ต้นไม้ใบหญ้าคาเฟ่ เป็นร้านที่ตั้งอยู่บนเขาไม่ไกลจากที่พัก บนนั้นสามารถมองเห็นวิวรอบได้แบบพาโนราม่า ถือเป็นจุดเช็คอินอีกจุดในทริปนี้
หลังจากถูกปลุกด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ เราก็มุ่งหน้ากลับเข้ามากรุงเทพ ผ่านนาเกลือซึ่งเป็นทางที่เราขับขี่ผ่านเมื่อวาน น่าเสียดายที่ช่วงที่เราไปเขากำลังเอาน้ำทะเลเข้านาเกลือ เลยไม่ได้เห็นทุ่งเกลือที่เต็มไปด้วยสีขาว
ช่วงขับขี่บนถนนพระราม 2 ซึ่งก็ขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว การใช้ทักษะทั้งหมดที่มีผ่านอุปสรรครถติดตรงนี้ถือว่าเหงื่อตกพอสมควร แต่การที่รถสามารถผ่านการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพได้ถือเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะในชีวิตประจำวันเราต้องได้เจอการจราจรที่คับคั่งอยู่แล้ว ดิสก์เบรคหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มความมั่นใจในการเบรคที่ควบคุมได้ง่าย เบรคทั้งหน้าและหลังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แม้จะใช้ในย่านความเร็วสูงก็ตาม แต่รถก็ไม่ได้เสียอาการ ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งจุดก็ว่าได้
เราได้ขับขี่ลัดเลาะตามทางจากสมุทรสาครเข้าบางขุนเทียน จนไปถึงศูนย์ GPX ประชาอุทิศส่งมอบรถกันเสร็จสรรพ ผมถึงขั้นยกมือขอบคุณ พี่ชิดและพี่จอร์จ ผู้นำทางในทริปนี้กลับมาอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ อีก 1 ทริปกับ GPX THAILAND ที่ได้ให้ทางทีมงาน GreatBiker ได้ทดสอบและรีวิวรถในทริปนี้ ต้องขอขอบคุณทาง GPX เป็นอย่างมากครับ
หากสนใจรถ GPX Legend 250 Twin II มีราคาแนะนำอยู่ที่ 81,900 บาท สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gpxthailand.com/GPX-Legend-250TwinII และทำการจองออนไลน์ก่อนวันที่ 9 ต.ค. นี้ เพื่อรับ Gift Voucher มูลค่า 2,000 บาท สำหรับเป็นส่วนลดในการซื้อรถ (จะเหลือเพียง 79,900 บาทเท่านั้น) พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 1.39%
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience