พา GPX MAD 300 ลัดเลาะเขา ไปเสพบรรยากาศ สุดประจิมที่ริมเมย แม่สอด
หลังจากบทความก่อนหน้านี้แอดได้พาเจ้า GPX MAD 300 เดินทางยาวๆข้ามจังหวัด จากเชียงใหม่ ลัดเลาะเขา ไปแม่สะเรียง จบทริปที่ แม่สอด จ.ตาก ระยะทาง 400 กว่ากิโลเมตรก็ถือว่าไม่น้อย วันนี้แอดจะพามาท่องเที่ยงเมืองแม่สอด ที่เค้าบอกว่า “สุดประจิมที่ริมเมย” เป็นประตูการค้าไปสู่พม่านั่นเอง ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ก็จะมีกลิ่นไอของศิลปะแบบพม่ามากทีเดียว
แน่อนว่าถ้ามาถึงแม่สอดสิ่งแรกที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้นั่นก็คือ ตลาดริมเมย ซึ่งเป็นย่านการค้าชายแดนที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง ตั้งอยู่แถวสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่1 และไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่มากที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย นอกจากกุ้งแล้วยังมีพวกปูเนื้อ ปูไข่ หอยแครง ซึ่งสัตว์พวกนี้อาศัยอยู่ตามชายเลนในละแวกทะเลพม่า เคยแปลกใจเหมือนกันว่าทำไม ของทะเลที่นี่ถึงถูก ก็มีผู้รู้บอกมาว่า ฝั่งติดกับแม่สอดไปทางพม่าเดินทางไม่ไกลก็จะเจอทะเลแล้ว คนพม่าไม่ค่อยนิยมบริโภค อาหารประเภทนี้มากนักแถมยังหาได้ง่าย เลยเอามาขายฝั่งไทย ได้ราคาดีกว่า แต่ตลาดแห่งนี้พักหลังเริ่มซบเซาด้วยที่ว่าฝั่งพม่าได้เปิดเป็นเมืองคาสิโนที่ครบวงจร ทั้งที่พัก อาหาร และการท่องเที่ยวและเป็นเขตปลอดภาษี คนจะข้ามไปไม่ต้องยื่นเรื่องผ่านตม.แค่เสียค่าเรือคนละ 20 บาทก็เข้าได้แล้ว ฝั่งไทยคนเลยบางตาไปเยอะ
ถัดมาอีกไม่ไกลจากสะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่1 เป็นที่ตั้งของวัดไทยวัฒนาราม เดิมชื่อ วัดแม่ตาวเงี้ยว หรือ วัดไทยใหญ่ เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายานของชาวไทยใหญ่ ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม พิธีกรรมต่าง ๆ ได้รับอิทธิพลมาจากสหภาพพม่า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2400 โดยนายมุ้ง เป็นชาวพม่ารัฐฉาน ที่อพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่ที่อำเภอแม่สอด และได้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้านแม่ตาว ต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า หมื่นอาจคำแหงหาญ ในปี พ.ศ. 2500 ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้เป็นวัดพระพุทธศาสนาในสังกัดกรมศาสนา ในวัดมีพระพุทธมหามุณี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่จำลองมาจากพระพุทธมหามุณีอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองมัณฑเลย์ สหภาพพม่า เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดตากศรัทธาเลื่อมใสกันมาก
หลังจากไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้วแอดก็เดินทางไปยังบ้านแม่กาษา ซึ่งห่างจากแม่สอดเพียง 20 กิโลเมตร ซึ่งหมู่บ้านแม่กาษานี้เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ บริเวณโดยรอบบ่อน้ำพุร้อนมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีการปรับปรุงตกแต่งสนามหญ้าและสวนหย่อม มีน้ำพุร้อนให้สำหรับต้มไข่ มีบ่อน้ำแร่ให้แช่เท้า และมีห้องอาบน้ำแร่ น้ำพุร้อนแม่ภาษา เป็นน้ำพุขนาดเล็กที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและไร่นาของชาวบ้าน ผุดขึ้นมาจากดิน มีความร้อนประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ธารน้ำร้อนที่พุ่งออกมาผสมกับน้ำจากผิวดินที่เป็นน้ำเย็น เกิดเป็นธารน้ำอุ่น มีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ และไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมา
อีกสถานที่นึงที่แม่กาษาซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนที่ให้บริการแบบออนเซ็นญี่ปุ่น คือบ่อน้ำร้อนโป่งคำราม ซึ่งเป็นของเอกชน อยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำร้อนแม่กาษา เพียง 10 นาที ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตาก เป็นการแช่ออนเซ็นในถังไม้โอ๊คแบบญี่ปุ่นแบบเก๋ๆ โดยใช้สายธารน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาปรับปรุงเสริมแต่งเพื่อความเหมาะสม ใช้เป็นสถานที่บำบัดรักษาโรค สำหรับการแช่น้ำร้อน และพอกบ่อโคลนเพื่อสุขภาพ เพื่อช่วยผ่อนคลายและเพื่อการท่องเที่ยว เป็นบ่อน้ำแร่ที่มีคุณภาพที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่มีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และอาการเมื่อยล้าต่างๆได้ ที่นี่ไม่ได้คิดค่าบริการในการแช่น้ำร้อน สามารถหยอดตู้ตามจิตศรัทธา แต่จะมีค่าบริการนวด เสื้อผ้าที่จะลงแช่ อุณหภูมิของน้ำก็จะอยู่ที่ประมาณ 43.9 องศาเซลเซียส แอดเป็นคนชอบอาบน้ำร้อนเลยต้องเปิดน้ำเก่าทิ้งก็ถือว่าร้อนใช้ได้เลยทีเดียว ถึงแม้จะไม่ร้อนมากแต่แอดขอแนะนำว่าอย่าแช่นาน เพราะจะทำให้อ่อนล้าได้ ควรแช่ไม่เกิน 10-15 นาที แล้วขึ้นมาอาบน้ำเย็นพักซักครู่ แล้วค่อยลงไปแช่ใหม่
ติดกับบ่อน้ำร้อนโป่งคำรามก็จะมองเห็นทุ่งทานตะวันที่ไร่ดอยเคียงดาว มีสะพานไม้ไผ่ให้เดินลงไปถ่ายรูปได้ มีค่าเข้านิดหน่อยและมีที่พักเป็นกระต๊อบเล็กๆให้ได้พักแรม แดดร้อนเหลือเกินแอดแค่ขอชะโงกหน้าเข้าไปพร้อมยกมือถือถ่ายมาฝากเผื่อใครได้ผ่านไปผ่านมาลองแวะไปถ่ายรูปกัน
ถนนหน้าทางเข้าบ่อน้ำร้อนโป่งคำราม เลยขึ้นไปประมาณ 500 เมตร ก็จะมีจุดถ่ายรูปที่สวยมากๆ แลกกับอากาศร้อนกว่า 34 องศา บวกกับเพิ่งแช่น้ำร้อนและนวดมา จะเป็นลมเอาให้ได้
ละแวกนี้มีร้านกาแฟที่เป็นจุดชมวิวมุมสูงต้องที่นี่เลย วิวดอยค๊อฟฟี่โฮม นอกจากจะได้นั่งชิวชมวิวที่ปกคลุมด้วย PM.2.5แล้ว กาแฟและเค้กที่นี่อร่อยเลย หรือใครจะมากางเต้นท์นอนเค้าก็มีจุดกางเต้นท์ให้ด้วย
ตัดภาพมาตอนหัวค่ำแอดได้ขี่รถชมเมืองตอนเย็นๆ เห็นว่าใกล้ที่พักมีถนนคนเดินแอดก็ขอลองไปเดินเล่นหาอะไรกินเพลินๆ ก็ไปสะดุดร้านๆนึงเห็นคนรุมล้อมนั่งกินกัน เดินวนอยู่ 3 รอบจึงตัดสินใจเข้าไปถามว่ามันคืออะไร สรุปมันคือหมูจุ่มตลาดนัดจ้า เสียบเป็นไม้มีน้ำซุปและน้ำจิ้มแยกมาให้ ไม้นึง 2 บาท แอดซัดไป 25 ไม้ ยังไม่รู้สึกว่าอะไรตกถึงท้องเลย
ก็เลยไปร้านประจำที่มาแม่สอดต้องไปกินร้านนี้ ร้านโจ๊กแม่สอด ที่มาอลังการงานช้าง ชามเดียวอิ่มแน่นอน แอดชอบตรงที่เราจะใส่เส้นกรอบ ผัก ขิงเท่าไหร่ก็ได้ตามใจ ที่สำคัญรสชาติอร่อยด้วย
ปิดท้ายด้วยค่ำคืนนี้ด้วยแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่ซิดตองหยี่ บาร์ซ่าร์แหล่งรวมร้านอาหาร ของกิน ของวัยรุ่นชาวแม่สอดที่มีมากมายกว่า 20 ร้านที่นี่ ก็ถือว่าปิดทริป เชียงใหม่ แม่สะเรียง แม่สอด ในทริปนี้กันไปกับ GPX MAD 300 พาหนะคู่กายที่พาแอดมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ ในการเดินทางครั้งหน้า แอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนติดตามชมกันต่อไปในโอกาสหน้าครับ ส่วนใครที่สนใจเจ้า GPX MAD 300 คันนี้สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.gpxthailand.com/ นะครับ
เรื่องและภาพ แอดมินทศ
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience