Harley-Davidson ประกาศวันเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ 26 มกราคมปีหน้า
ประกาศอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกสัญชาติอเมริกันอย่าง Harley-Davidson ที่ได้ออกมาประกาศวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของปี 2022 ในวันที่ 26 มกราคมที่จะถึงนี้ โดยจะมีโมเดลใหม่อะไรบ้างเราจะขอลองพาเพื่อนๆไปทำการวิเคราะห์กัน
ในปี 2021 ที่ผ่านมานั้น Harley-Davidson ได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งระบบการจัดการภายในใหม่ อีกทั้งยังมีการโละผลิตภัณฑ์ที่มีความทับซ้อนกันออกไปเพื่อให้ผู้บริโภคไม่สับสนกับไลน์อัพทั้งหลาย รวมไปถึงการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Revolution Max ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1,250 ซีซี 2 ลูกสูบ V-Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ และยังมีการเปิดไลน์ใหม่อย่าง Pan America ที่กลายเป็นโมเดลในสาย Touring -ADV คันแรกของค่ายอีกด้วย
แพลตฟอร์มใหม่แต่ยังไม่ทิ้งแนวทางเดิม ที่เป็นจุดเด่นของทางค่ายด้วยการเปิดตัว H-D Sporster S ครุยเซอร์รูปแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งมันก็สร้างกระแสและความนิยมได้ทั้งลูกค้าหน้าใหม่และลูกค้าเดิม ซึ่งดูเหมือนว่า H-D จะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ถูกที่ถูกทางมากขึ้น
ภายใต้การนำทิศทางใหม่ของ CEO คนใหม่ ที่ชูความเป็นเอกลักษณ์ดั่งเดิมของทางค่าย ผสมผสานกับความทันสมัยด้วยแพลตฟอร์มใหม่ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Revolution Max จะกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในอนาคต แต่แพลตฟอร์มใหม่จะถูกย้ายไปใส่ในโมเดลไหนกันบ้าง อันนี้แหละที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเท่าที่ดูจากไลน์อัพทั้งหมดของทางค่ายแล้ว การปรับเปลี่ยนจากขุมกำลังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง Milwaukee-Eight ที่เป็นเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศพร้อมกับก้านกระทุ้งที่สร้างคาแรกเตอร์ให้กับเครื่องยนต์ อาจทำให้บรรดาสาวกนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์ก็เป็นไปได้
“แต่ถ้าไม่ก้าวข้าม ก็ไม่มีวันพัฒนา” น่าจะเป็นวลีที่เหมาะสมที่สุด ด้วยความที่เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight นั้นอาจจะมาถึงทางตันในการพัฒนา ทั้งในส่วนของค่ามลพิษที่นับวันข้อบังคับเข็มงวดขึ้นเรื่อยๆ การรักษาเอกลักษณ์แต่ต้องแลกมาด้วยการตัดทอนกำลังเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ดังนั้นในความคิดเห็นของพวกเราทีมงาน Greatbiker มองว่า ทางค่ายน่าจะมีการจัดการผลักดันแพลตฟอร์มใหม่ Revolution Max ไปยังไลน์อัพดั่งเดิมบนแนวทาง Cruiser อย่าง Fat Bob หรือ Forty-Eight สำหรับการเปิดตัวในครั้งต่อไป
ทำไมถึงเป็นสองโมเดลนี้ ก็ง่ายๆ เลยครับ “ชื่อมันขายได้” และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ก็น่าจะสร้างแรงผลักดันให้กับการพัฒนาและผลกำไรในเชิงบวก เอากันง่ายๆทำออกมาแล้วขายไม่ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผลิตออกมาทำไม การใช้ชื่อเสียงที่เคยสะสมมาตั้งแต่อดีต สำหรับสองโมเดลนี้ ก็น่าจะมีภาษีที่ดีพอกว่าการเปิดไลน์อัพใหม่ แต่การดึงเอาชื่อเสียงที่เคยสะสมมา สู่การเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ดีจริงก็อาจจะพับไปเลยก็ได้ แต่ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับ “แต่ถ้าไม่ก้าวข้าม ก็ไม่มีวันพัฒนา”
อีกมุมหนึ่งที่เราเองก็คิดเผื่อๆไว้ คือการที่ทาง H-D จะเปิดไลน์อัพใหม่ไปเลย เหมือนกับ Sportster S และ Pan America แต่จะยึดโยงอยู่บนแนวทางที่ตนเองถนัดที่สุด ก็คือ Cruiser และ American Grand Touring เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ บนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยที่ยังคงจำหน่ายโมเดลดั่งเดิมควบคู่กันไป ถ้าทำแบบนี้ทางค่ายเองก็จะไม่เสียทั้งกลุ่มสาวกดั่งเดิม และเพิ่มช่องทางให้การสร้างบรรดาแฟนบอยหน้าใหม่ จากที่ได้ทดลองขับขี่ทั้งสองรุ่นใหม่อย่าง Pan America และ Sportster S มาแล้วก็พบว่าตัวรถเองอาจจะเสียบุคลิกบางอย่างของรถ H-D ไปแต่ก็แลกมาด้วยการขับขี่ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า สนุกกว่า ซึ่งมันค่อนข้างจะตอบโจทย์เลยทีเดียว
อีกหนึ่งแนวทางที่เราเองก็ไม่อาจมองข้ามไปได้คือรถเล็กภายใต้แบรนด์ H-D อย่างที่เราทราบกันดีว่า ทางค่ายเองก็ไปสร้างสัมพันธ์กับทั้งผู้ผลิตจีนอย่าง Quanjiang และผู้ผลิตจากอินเดียอย่าง Bajaj ก็ไม่แน่ว่าในงานนี้อาจจะมีการเปิดตัวโมเดลแบบ Prototype สำหรับการเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ที่ต่ำกว่า 400 ซีซี ก็เป็นไปได้ จะเป็นโมเดลอะไรก็ยังไม่ทราบได้ แต่แนวทางนี้ก็ไม่น่าจะมองข้าม และมันอาจจะกลายเป็นบิ๊กเซอร์ไพร์สให้กับผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็เป็นไปได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของพวกเราทีมงาน Greatbiker เท่านั้น อาจจะตรงหรือไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเลยก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ดีเราคงต้องรอให้ถึงวันที่ 26 มกราคม 2022 จึงจะได้ทราบว่า ทั้งหมดที่เราวิเคราะห์กันมานั้นจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังหรือไม่ สาวก H-D ต้องติดตามกันครับ
[asense]
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.