Harley-Davidson ประกาศแผนการตลาดใหม่ “The Rewire”
หลังจากการก้าวลงจากตำแหน่งของ Matt Levatich อดีตซีอีโอของ Harley-Davidson และการเข้ามาแทนที่ของ Jochen Zeitz อดีตหัวเรือใหญ่ของบริษัท Puma ก็ได้เริ่มแผนงานทางธุรกิจใหม่ ด้วยการกำหนดทิศทางของแบรนด์ในปี 2020 ด้วยแผนการใหม่ “The Rewire” ที่จะมาแทนที่แผนงาน “More Roads to Harley-Davidson”
Harley-Davidson “Breakout 114”
แผนงาน “More Roads to Harley-Davidson” เป็นการผลักดันของ Matt Levatich อดีตประธานของบริษัท H-D โดยมีแนวคิดในการสร้างกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ โดยใช้แนวทางที่แตกต่างออกไปจากผลิตภัณฑ์เดิมๆ ของ Harley-Davidson โดยสามารถเรียกระแสตอบรับได้เป็นอย่างดีในการเปิดตัวครั้งแรกของโมเดล Pan Amaerica และ Bronx ที่อยู่บนพื้นฐานของเครื่องยนต์บล็อกใหม่ Revolution Max ที่เป็นเครื่องยนต์แบบ V-Twin DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ และยังมีโมเดลที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอีกมากมาย
Haley-Davidson “Pan America”
นอกจากนี้ทาง Harley-Davidson ยังได้ร่วมมือกับบริษัท Qianjiang ในการผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 338 ซีซี แบบสองลูกสูบเรียง เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก โดยใช้พื้นฐานจาก Benelli 302S มาเป็นต้นแบบ แต่ก็มีกระแสต่อต้านท่านจากกลุ่มแฟนคลับเดนตายของ Harley-Davidson ไม่น้อย
ผ่านช่วงเวลาหลังจากการประกาศแผนมา 2 ปี More Road To Harley-Davidson เองมีโมเดลที่อยู่ในโครงการออกวางจำหน่ายแล้วหนึ่งโมเดล นั้นก็คือ H-D LiveWire รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า ที่ฮือฮาเป็นอย่างมากในช่วงของการเปิดตัว แต่ก็มาประสบปัญหาหลังจากขายที่จุกจิก และราคาจำหน่ายที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลแบบ 4 ล้อ ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
Harley-Davidson “LiveWire”
ล่าสุด หลังการเข้ามากุมบังเหียนของประธานคนใหม่ Jochen Zeitz ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทางทีมงานก็ได้ประกาศแผนการใหม่สำหรับแบรนด์ด้วยแผนงาน “The Rewire” ที่จะเป็นการนำเอานวัตกรรมที่มีอยู่เสริมสร้างผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงสุดของแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นก็หมายความว่าทางแบรนด์ได้ล้มเลิกแผนงาน More Road To Harley-Davidson ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่นวัตกรรมเครื่องยนต์ใหม่ Revolution Max นั้นจะถูกส่งต่อไปยังโมเดลต่างๆ ที่ทางแบรนด์เคยสร้างมาแล้ว และปรับให้เหมาะสมกับโมเดลอย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วเจ้า Pan America และ Bronx จะยังมีโอกาสได้แจ้งเกิดในตลาดหรือไม่ คำตอบคือยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยเป็นการแถลงการณ์โดยตรงจากแบรนด์เพื่อเป็นเครื่องยืนยัน “เราจะยังคงมุ่งมั่นที่ Adventure Touring, Streetfighter และการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า” ด้วยคำแถลงของ Jochen Zeitz ซีอีโอคนใหม่ของ Harley-Davidson
“COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของเราอย่างมากและเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องตอบสนองด้วยความว่องไวต่อความเป็นจริงใหม่นี้ วิกฤตได้ให้โอกาสในการประเมินธุรกิจและแผนกลยุทธ์ของเราอีกครั้ง เราได้พิจารณาแล้วว่าเราจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับ บริษัท ตามลำดับความสำคัญของเราต่อรูปแบบการดำเนินงานของเราและกลยุทธ์ของเราในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพที่สอดคล้องกันมากขึ้นเมื่อเราเกิดจากวิกฤตินี้ เราจะลดความซับซ้อนเพิ่มความคมชัดและเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ ความพยายามเหล่านี้จะปูทางสำหรับแผนกลยุทธ์ใหม่ที่รวมเอาผลิตภัณฑ์หลักและความคิดริเริ่มจากแผนปัจจุบัน แต่มุ่งเน้นไปที่ผลกำไรที่ดีขึ้นและการเติบโตระยะยาว เป็นผลให้เราจะกลายเป็น บริษัท ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นและครองราชย์วิญญาณ Harley-Davidson”
Harley-Davidson “Bronx”
จากประวัติของ Jochen Zeitz มีความน่าสนใจ และความชำนาญเป็นพิเศษในเรื่องของการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดย Jochen Zeitz เข้ารับงานซีอีโอที่บริษัท Puma ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาชื่อดัง ในปี 1993 ด้วยวัยเพียง 30 ปีและเจ้าตัวก็ค่อยๆ พลิกฟื้นสถานการณ์ของ Puma จากการเป็นหนี้จำนวนมหาศาล จนสามารถปลดหนี้ได้ และราคาหุ้นของบริษัทก็กลับแข็งตัวขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง ที่มีราคาถึง 4,000 ดอลล่าร์ต่อหน่วยเลยทีเดียว น่าสนใจว่า Jochen Zeitz จะสามารถกลับมาพลิกโอกาสให้กับ Harley-Davidson ได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
