Harley-Davisdon ปรับแปนใหม่ Hardwire พร้อมรับมือตลาดปี 2021-2025
พึ่งจะผ่านพ้นไตรมาสที่สองของปี 2020 ไปได้ไม่นาน ล่าสุด Harley-Davidson ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่จากอเมริกาก็ได้มีการประกาศการขาดทุนในไตรมาสที่สองที่มากถึง 25 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 786 ล้านบาท จนทำให้คณะผู้บริหารต้องผุดไอเดียในการรับมือใหม่สำหรับตลาดปีต่อไปภายใต้ชื่อแผนงาน Hardwire ที่จะเริ่มใช้งานกันในปี 2021-2025 นี้
Harley-Davidson Pan America 1250
จากการขาดทุนในไตรมาสที่สองของปี ทำให้ตอนนี้ H-D มีการขาดทุนสะสมอยู่ที่ราวๆ 92 ล้านดอลล่าร์ (2,892,940,000 บาท) ซึ่งแน่นอนว่าผลการขาดทุนโดยรวมเกิดจากการระบาดของเชื่อ COVID-19 ที่ส่งผลให้ทุกๆบริษัทนั้นทำผลกำไรได้น้อยลง แต่ส่วนหนึ่งของการขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจของ H-D ก็เกิดจากการปรับโครงสร้างจาก “More Road” มาเป็น “Rewire” ซึ่งผลกระทบจากไตรมาสแรกนั้นทำให้ H-D มีความจำเป็นที่ต้องปลดพนักงานเป็นจำนวนถึง 700 คน รวมไปถึงชะลอการเปิดตัวใหม่ของ Pan America 1250 และ Bronx 950 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
Harley-Davidson กล่าวว่าการปลดพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพของบริษัทในการกำจัดความซ้ำซ้อน ความไร้ประสิทธิภาพและความซับซ้อนของค่าใช้จ่าย ซึ่งการกระทำแบบนี้ทำให้ H-D ต้องมีค่าใช้ง่ายที่มากถึง 42 ล้านดอลล่าร์ (1,321 ล้านบาท) โดยที่พนักงานส่วนใหญ่ที่ถูกปลดไปนั้นจะอยู่ในส่วนของการผลิต ขณะนี้ Harley-Davidson อธิบายว่า บริษัท จะมุ่งเน้นธุรกิจของตนในตลาดประมาณ 50 แห่งทั่วโลกจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 100 แห่งทั่วโลก ตลาดที่ถูกเก็บรักษาส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาเหนือยุโรปและบางส่วนของเอเชียซึ่งเป็นตัวแทนที่มียอดการจำหน่ายตามเกณฑ์ที่วางไว้ รวมไปถึงศักยภาพในการเติบโตของตัวแทนในแต่ล่ะพื้นที่ ซึ่งถ้ามองตรงจุดนี้ แฟนๆ ชาวไทยหายห่วงได้เลยเพราะยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ H-D ในบ้านเรานั้นเทียบกับทั้งเอเชีย จัดอยู่ในอันดับ Top เลยก็ว่าได้อีกทั้งโรงงานผลิตเองก็ยังคงตั้งอยู่ในประเทศไทย คงไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าจะล่ะทิ้งฐานที่สำคัญแบบนี้ไป
จากการระบาดของ COVID-19 ทำให้บริษัทต้องหยุดการผลิต ชั่วคราวเป็นเวลาหลายสัปดาห์ส่งผลให้มีการจัดส่งน้อยลง 40,388 รายการในไตรมาสนี้และสินค้าคงคลังของตัวแทนจำหน่ายลดลง 32% แต่แผนงาน Rewire เองก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป โดยมีการประกาศแผนงานในไตรมาสที่สามซึ่งสรุปเป็นไฮไลท์ได้ดังนี้
– ปรับปรุงโมเดลที่วางแผนไว้ประมาณ 30% ปรับสมดุลการลงทุนระหว่างฐานที่มั่นปัจจุบันและกลุ่มที่มีศักยภาพสูงใหม่
– ขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของโมเดลที่มียอดขายและเป็นสัญลักษณ์ของบริษัท
– เตรียมจัดส่งโมเดล Pan America โมเดลสาย ADV คันแรกให้ได้ก่อนปี 2021
– เลื่อนเวลาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประจำปีตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงไตรมาสแรกของปี 2021
– การส่งเสริมความพยายามในการเปิดตัวรวมถึงการร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลหลักในการนำแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่มาขับเคลื่อนความต้องการแบรนด์
จากแผนงานดังกล่าวจะทำให้ปัจจุบันโมเดลของ Harley-Davidson ที่มีจำหน่ายในอเมริกาจากเดิมที่มีอยู่ 34 โมเดล จะลดลงเหลือเพียง 24 โมเดล อาจจะดูน่าใจหายจากจำนวนที่ลดลง แต่โดยรวมมันกลับเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะโมเดลของ Harley ส่วนใหญ่แบ่งปันองค์ประกอบหลายอย่างทำให้เกิดการทับซ้อนกันระหว่างโมเดล แม้แต่ทาง Jochen Zeitz ซีอีโอคนใหม่ที่พึ่งมารับตำแหน่งเอง ออกมายอมรับว่า โมเดลต่างๆ ของบริษัทใช้องค์ประกอบที่คล้ายคลึงกันมากเกินไป จนทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนได้ 34 รุ่นเหล่านั้นรวมถึง CVO, รุ่นพิเศษและรุ่น S อื่น ๆ เพียงแค่วางรุ่น 107ci และทำให้ 114ci ใช้กับรุ่นพิเศษและรุ่น S ในรุ่นฐานจะกำจัดครอสโอเวอร์ของผลิตภัณฑ์บางอย่าง ในหมายเหตุนั้นคงไม่น่าแปลกใจถ้า Harley-Davidson วางเครื่องยนต์ขนาดเล็กลงเพื่อให้เห็น Milwaukee-Eight ที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพที่สมบูรณ์มากขึ้น
ในกรณีของกลุ่มโมเดลที่ใช้เครื่องยนต์ Evolution นั้นเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่สุด เพราะเครื่องยนต์นั้นไม่ผ่านมาตรฐาน EURO5 ซึ่งหมายความว่าหลังจากสิ้นปี 2020 นี้ H-D ต้องเก็บโมเดลทั้งหมดที่ใช้เครื่องยนต์บล็อกนี้ที่วางจำหน่ายในพื้นที่ยุโรปออกจากตลาด ซึ่งเราอาจจะได้เห็นการลดราคาที่เท่าทุนของบริษัทในการจัดการกับโมเดลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในตลาดยุโรป ซึ่งมันค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าเศร้านิดๆ เพราะหนึ่งในกลุ่มเครื่องยนต์ Evolution นั้นก็มีซีรี่ยส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง Sportster ที่นับว่าเป็นใบเบิกทางให้กับคนรุ่นใหม่ให้ได้รู้จักกับความสุดยอดของรถมอเตอร์ไซค์จากค่าย H-D ที่ในปี 2020 นี้ ตัวโมเดลถูกลดจำนวนการผลิตและตักรุ่นย่อยๆออกไป 4 รุ่นจากทั้งหมด 7 รุ่น ทำให้เหลือเพียง 3 รุ่นที่วางจำหน่ายในปีนี้เท่านั้น
แผนงาน Rewire นั้นจะถูกใช้แทนที่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยทางผู้บริหารกำลังระดมความคิดใหม่ๆในการดำเนินตลาดในปี 2021-2025 ด้วยการผุดแผนงาน Hardwire ที่กำลังอยู่ในกระบวนการตกผลึก ซึ่งทางผู้บริหารได้กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า แผนงาน Hardwire นั้นจะมีการชี้แจงใช่วงไตรมาสที่สี่หรือช่วงปลายปี 2020 นี้ ทำให้บรรดาสื่อยานยนต์ต่างคาดเดาว่าทางผู้ผลิตเองจะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของการเปิดตัว Harley-Davidson HD338 เป็นพื้นที่ในการชี้แจงข้อมูลของแผนงานใหม่ แต่เมื่อไม่มีงาน EICMA Show ที่ประกาศเลื่อนการจัดไปเป็นปีหน้าแล้ว H-D จะเอายังไงกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รวมไปถึงการชี้แจงข้อสงสัยของนักข่าว จะใช้แนวทางจากผู้ผลิตอื่นๆในการเปิดตัวหรือไม่ยังคงเป็นคำถามที่เราต้องรอคำตอบกันต่อไป
อย่างไรก็ดีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น ทางบริษัทยังคงเตรียมการนำเสนอ Pan America 1250 โมเดลสายลุยคันแรกของค่าย รวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์ในแนว Streetfighter อย่างเจ้า Bronx 950 และยังมีโมเดลที่ทาง H-d ได้ไปร่วมทุนกับ Qianjiang ผู้ผลิตจากประเทศจีนในการทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดที่ล็กลง ที่กำลังจะเปิดเผยข้อมูลสำคัญและรายละเอียดต่างๆ ของโมเดลในช่วงปลายปีนี้ ยังไงแฟน Harley-Davidson ในประเทศไทยคงต้องเอาใจช่วย ให้บริษัทผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorcycle.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.