เปิดตัว Harley-Davidson X350 และ X500 รุ่นปี 2025
Harley-Davidson Japan ได้ประกาศการอัปเดทผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับปี 2025 โดยมีสองโมเดลใหม่ ที่ได้รับการอัปเกรดในเรื่องของสีสันตัวถังใหม่ “Cosmic Blue”
Harley-Davidson X350 2025
สำหรับ Harley-Davidson X350 และ X500 นั้นถือว่าเป็นโมเดลขนาดเล็กรุ่นแรกของบริษัท ที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัทร่วมทุนจากประเทศจีน โดยตัวรถได้รับแรงบันดาลใจมาจาก XR750 รถสไตล์ Flat Tracker อันเป็นตำนานของบริษัท ตั้งแต่ต้นทศวรรษปี 1970 Harley-Davidson X350 เคยเปิดตัวในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เมื่อเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา และมียอดการจำหน่ายที่ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง จนทำให้ตัวรถมีรุ่นใหม่สำหรับปี 2025 ออกมาอย่างเป็นทางการ
Harley-Davidson X500 2025
โดยตัวรถ X350 และ X500 นั้นจะมีการผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Qianjiang ซึ่งมีแบรนด์มอเตอร์ไซค์ในมือมากมาย ทั้งในประเทศและที่ทำตลาดในระดับสากล อย่างที่เราทราบกันดี บริษัทนี้เป็นบริษัทแม่ของ Benelli ซึ่งก็เป็นรากฐานให้กับโมเดลขนาดเล็กของ Harley-Davidson ในปัจจุบัน
รถสองคันเหล่านี้คือรถโรดสเตอร์ โดยมีดีไซน์ที่ดึงมาจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาพจำของ Harley-Davidson แต่ตัวรถทั้งสองคันนั้นจะถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดิมที่มีอยู่แล้วจากแบรนด์ Benelli โดยเจ้า X500 จะใช้แพลตฟอร์มของ Leoncino 500 ด้วยองค์ประกอบของโมเดิร์นแทร๊กเกอร์ ที่ดูร่วมสมัย ไฟหน้าทรงกลม ถังน้ำมันทรงเหลี่ยมเบาะนั่งแบบตอนเดียวยาว และท่าทางการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ ส่วน X350 จะใช้แพลตฟอร์มที่ยกมาจาก benelli 302s โรดสเตอร์ขนาดเล็ก
เครื่องยนต์ของทั้งสองรุ่นจะมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน โดย X500 เครื่องยนต์สูบคู่ขนานแบบระบายความร้อนด้วยของเหลวขนาด 500 ซีซี ที่ให้กำลัง 47 แรงม้าและแรงบิด 33 ib-Ft ในขณะที่ X350 มาพร้อมกับเครื่องยนต์คู่ขนาน 335 ซีซี 36.5 แรงม้าและแรงบิด 22.8 Ib-Ft ซึ่งมีกำลังที่ใกล้เคียงกับรุ่นพื้นฐานอย่าง Leoncino 500 และ 302s ซึ่งจากข้อมูลที่เราได้มานั้นพบว่า การที่วางกำลังของเครื่องยนต์ในขีดจำกัดแบบนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าไปทำตลาดในโซนยุโรปสำหรับผู้ถือครองใบอนุญาตขับขี่แบบ A2 License นั่นเอง
ทั้ง X500 และ X350 มาพร้อมกับแผงหน้าปัดแบบกึ่งดิจิตอล โดยมีมาตรวัดแบบเดี่ยวที่ทำหน้าที่แสดงความเร็ว ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และมาตรวัดระยะทาง รวมถึงสิ่งอื่นๆ อีกเล็กน้อย ไฟ LED ใช้สำหรับไฟหน้าและไฟท้าย และเพื่อความปลอดภัยตัวรถจะมีระบบเบรกนิรภัย ABS ติดตั้งมาให้ใช้งาน และแน่นอนว่า เมื่อมองในภาพรวมแล้ว ตัวรถมีองค์ประกอบที่เป็นไปตามข้อกำหนดของรถที่จะใช้ในการจำหน่ายในโซนยุโรป จึงไม่น่าแปลกใจนัก หากตลาดต่อไปจากประเทศจีนที่จะมีสองโมเดลนี้วางจำหน่าย จะเป็นยุโรปก่อนที่จะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดในอเมริกา
สำหรับการอัปเดทสำหรับปี 2025 นั้น จะมีการเพิ่มสีใหม่ Cosmic Blue และมีการยกเลิกสี Supersonic Silver ซึ่งเป็นสีประจำปี 2024 ที่ผ่านมา แต่ยังคงรักษาสี Dynamic Orange, Dramatic Black และ White Pearl ที่เป็นสีเปิดตัวเมื่อปี 2023 วางจำหน่ายต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะเริ่มวางจำหน่ายตัวรถทั้งสองรุ่นในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา โดยวางราคาจำหน่ายอยู่ที่ 699,000 เยน หรือประมาณ 153,885 บาท สำหรับ X350 และราคา 839,800 เยน หรือราวๆ 184,670 บาทโดยประมาณ สำหรับ X500
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.