Honda ประกาศแผนงานผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า 11 รุ่น ภายในปี 2025
กลายเป็นข่าวใหญ่สำหรับการขยายแผนงานผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์จากผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น Honda ที่ล่าสุดประกาศเตรียมเปิดตัว 11 โมเดลที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ภายในปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากแผนการเดิมเกือบ 3 เท่าตัวจากแผนงานเมื่อกลางปี 2022 ที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปในในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Honda ได้ประกาศแผนการเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4 รุ่นภายในปี 2024 แต่เมื่อเวลาผ่านมาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น Honda ก็พลิกแผนครั้งใหญ่ด้วยการเสริมทัพโมเดลพลังงานไฟฟ้าเพิ่มอีก 7 รุ่น อีกทั้งยังประกาศว่าจะเริ่มปล่อยโมเดลพลังงานไฟฟ้าระหว่างปี 2024-2025 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระยะยาวในการเปลี่ยนจากผู้ผลิตยานพาหนะที่ใช้งานเครื่องยนต์ ICE (สันดาปภายใน) ไปสู่ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่ในปี 2050
แผนงานเมื่อเดือนเมษายน 2022
ไม่เพียงเท่านั้น Honda ยังประกาศเพิ่มเป้าหมายในการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้นอีก 15% โดยตั้งเป้าในการผลิตทั้งหมดของผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้าที่ 3.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030 ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระยะยาวของบริษัท และยังมีการวางแผนระยะสั้นเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายให้กับผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้า เพื่อสร้างยอดจำหน่ายให้ได้มากกว่า 3 ล้านคันทั่วโลกภายในปี 2027 อีกด้วย
แบบนำเสนอแผนงานพลังงานไฟฟ้าใหม่ 2024-2025
แผนระยะสั้นของทาง Honda คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด 11 รุ่นภายในปี 2025 โดยจะแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ ประกอบด้วยสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็ก 5 รุ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้งานในประเทศจีน ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป สกู๊ตเตอร์ขนาดกลาง 2 รุ่น ตั้งเป้าไปที่กลุ่มผู้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่น และยุโรป สกู๊ตเตอร์และมอเตอร์ไซค์แบบ Full-Size 3 รุ่น สำหรับตลาดญี่ปุ่น อเมริกาและยุโรป ปิดท้ายด้วยรถมินิไบค์สไตล์ Off-Road สำหรับเด็กอีกหนึ่งรุ่น
โดยทั้ง 11 โมเดลนั้นจะใช้พื้นฐานจากแพลตฟอร์ม “Fun EV” ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แน่นอนว่าโมเดลที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คงไม่พ้นรถมอเตอร์ไซค์แบบ Full-Size 2 รุ่นและสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ ที่ถึงแม้ว่าแผนงานจะยังไม่ครอบคลุมตลาดเอเชีย แต่ในอนาคตก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยโมเดลแรกนั้น จากภาพเงาที่ปรากฎบนแบบนำเสนอจะมีรูปลักษณ์ของรถ Roadster ที่มีความใกล้เคียงกับ CB650R ของบริษัท ส่วนอีกคันจะเป็นรถในแนวทาง Cruiser ที่น่าจะใช้รูปแบบของ Honda Rebel มาเป็นแนวทาง ส่วนบิ๊กสกู๊ตเตอร์นั้น จากภาพเงาเราเห็นได้เลยว่าทางบริษัทได้ใช้ Forza มาเป็นแบบ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น ตัวจริงของผลิตภัณฑ์อาจจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนกับแบบในการนำเสนอก็เป็นไปได้
สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดของการนำเสนอในครั้งนี้ คือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้แบตเตอรี่ทั้ง 11 คันนั้น จะเลือกใช้งานแบตเตอรี่แบบ Solid-Stage ที่จะมีน้ำหนักที่เบากว่า เล็กกว่า และให้กำลังไฟที่มากกว่า รวมไปถึงประสิทธิภาพในการชาร์จไฟที่รวดเร็วกว่า แต่ ณ ตอนนี้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา โดยเสร็จสิ้นกระบวนการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย และจะเริ่มผลิตเพื่อทำการทดสอบการใช้งานจริงในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 แต่จนกว่าเราจะเอามาใช้ได้ คือช่วงเวลาไหน นั่นแหละคือคำถาม
ตอนนี้บริษัทเป็นส่วนหนึ่งของผู้สนับสนุนชั้นนำของแนวคิดเรื่องแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้มาตรฐาน ซึ่งทางบริษัทจะเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Honda Mobile Power Pack (MPP) ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มใช้งานจริงแล้วในรถ PCX EV รวมไปถึง Gyro-e และ Benly-e ในตลาดญี่ปุ่น โดยแบตเตอรี่ของทั้งสามรุ่นจะสามารถสลับกันได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีอแดปเตอร์หรือการดัดแปลงใดๆ เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์จากญี่ปุ่นอีก 3 เจ้า ที่จะใช้มาตราฐานเดียวกัน ทำให้การหมุนเวียนของแบตเตอรี่มีวงจรที่ครบถ้วน ซึ่งเทคโนโลยีนี้ มีโอกาสที่จะได้พัฒนาไปสู่การใช้งานในยานยนต์ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าอีกด้วย
นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ดูเหมือนจะไม่ไกลเกินกว่าคาด ทั้งหมดนี้เราคงต้องมารอดูกันว่า Honda จะสามารถทำได้อย่างที่วางแผนไว้หรือไม่ และจะมีกี่โมเดลจาก 11 โมเดลที่ได้เข้ามามีโอกาสทำตลาดในประเทศไทยกันบ้าง แฟนๆ สองล้อคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.