Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

เปิดตัว Honda CB1000 Hornet 2025 ซุปเปอร์เนกเกตรุ่นใหม่

Honda CB1000 Hornet เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดยุโรปมาได้พักใหญ่ๆ แล้ว และล่าสุดดูเหมือนว่าจะถึงคราวของประเทศต้นทางของแบรนด์อย่างญี่ปุ่น ที่จะได้รับเอาโมเดลซุปเปอร์เนกเกต เข้าไปทำตลาดอย่างเป็นทางการเสียที

i9XIU3.jpeg
Honda CB1000 Hornet 2025 รุ่นมาตรฐาน

โดยการนำไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ Honda CB1000 Hornet จะมีทั้งรุ่นมาตรฐานและรุ่น SP ซึ่งทั้งสองรุ่นจะเปิดตัวพร้อมกันในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีหัวใจหลักเป็นเครื่องยนต์ DOHC สี่ลูกสูบ สี่วาล์วต่อสูบ ขนาด 999 ซีซี ที่ใช้รากฐานมาจากเครื่องยนต์ของ CBR1000RR จากปี 2017 โดยปรับมาใช้งานลูกสูบหล่อขึ้นรูปที่พัฒนาขึ้นใหม่จังหวะวาล์วและการยกวาล์วได้รับการปรับให้เหมาะสม อัตราทดเกียร์และเกียร์สุดท้ายได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ชุดกำลังที่มีความสมดุลในทุกย่านความเร็ว

i9Xhsa.png

ข้อแตกต่างของรุ่น SP จะได้รับวาล์วไอเสียแบบแปรผันภายในท่อไอเสีย การเปิดวาล์วถูกควบคุมโดย ECU ตามความเร็วของรอบเครื่องยนต์ทำให้แรงดันไอเสียเหมาะสมเพื่อให้ได้ลักษณะแรงบิดที่แข็งแกร่งขึ้นที่ความเร็วต่ำและกำลังขับเคลื่อนที่ดีขึ้นที่ความเร็วสูง

i9XbSu.jpeg
Honda CB1000 Hornet 2025 รุ่น SP

ส่งผลให้เกิดความแตกต่างกันในแง่ของกำลัง โดยรุ่นมาตรฐานจะมีกำลังสูงสุดที่ 152 แรงม้า (PS) ที่ 11,000 รอบต่อนาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 10.6 kgf・m ในขณะที่รุ่น SP จะมีกำลังสูงสุดที่ 158 แรงม้า (PS) ที่ 11,000 รอบต่อนาทีเท่ากับรุ่นมาตรฐาน และแรงบิดสูงสุดที่เพิ่มขึ้นเป็น 10.9 kgf-m ที่รอบเครื่องยนต์เท่ากัน

i9Xe1N.jpeg

อุปกรณ์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็มีมากมายเช่นกัน ใช้ระบบคันเร่งไฟฟ้า และนอกจากโหมดการขับขี่สามโหมด ได้แก่ “Standard”, “Sport” และ “Rain” แล้ว ยังมีโหมด “User” สองโหมดที่สามารถตั้งค่าตามต้องการได้ ไม่เพียงแต่กำลังเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับระบบควบคุมการยึดเกาะถนนและ engine brake ได้อีกด้วย โดยรุ่น SP มาพร้อมกับระบบ quick shifter เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

i9XvtX.jpeg

ระบบกันสะเทือนของรุ่นมาตรฐาน ที่ด้านหน้าจะใช้โช้คอัพหัวกลับจากแบรนด์ Showa รุ่น SFF-BP ส่วนระบบกันสะเทือนหลังติดตั้งโช้คอัพเดี่ยวแบบมีแรงดันแยกต่างหาก ในส่วนของรุ่น SP จะเปลี่ยนมาใช้โช้คอัพจากแบรนด์ Ohlins ทั้งหน้าและหลัง และคาลิปเปอร์เบรกหน้า Brembo

i9XDrS.jpeg

ในส่วนของอุปกรณ์ จะมีการติดตั้งหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้วเป็นมาตรฐาน ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีฟังก์ชันเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน “Honda RoadSync” เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สีตัวถังที่มีให้เลือกคือ “Pearl Glare White” สำหรับรุ่นมาตรฐานและ “Matte Ballistic Black Metallic” สำหรับรุ่น SP

i9X51Z.png

ในส่วนของราคาจำหน่าย Honda CB1000 Hornet 2025 รุ่นมาตรฐาน จะอยู่ที่ 1,342,000 เยน หรือประมาณ 298,420 บาท ส่วนรุ่นท๊อปจะอยู่ที่ 1,584,000 เยน หรือราวๆ 352,300 บาทโดยประมาณ ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับ CB1000R ที่วางจำหน่ายในปี 2024 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,679,000 เยนหรือประมาณ 373,400 บาท

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.autoby.jp