Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

Honda CB400SF Super 4 ทำไมหลายคนถึงหลงรัก และอยากให้มันวางขายในไทย?!

แม้ว่าไบค์เกอร์รุ่นใหม่ๆ ในตอนนี้บางคนอาจจะไม่รู้จัก หรือคุ้นเคยกับเจ้า Honda CB400SF หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า Super 4 (ซุปเปอร์โฟร์) แต่ถ้าเป็นไบค์เกอร์รุ่นประมาณ 30 อัพ ก็ย่อมที่จะรู้จักมักจี่กับมันเป็นอย่างดี หรือบางคนก็ได้มีโอกาสครอบครอง ลองขี่ เป็นเจ้าของกันมาแล้ว ด้วยความที่มันเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบ 4 สูบเรียงในสมัยรถอินวอยส์ครองเมืองเมื่ออดีตที่ผ่านมา และก็มีหลายต่อหลายคนเรียกร้องให้มันมาวางขายกันในประเทศไทยแบบเป็นทางการเสียที เพราะทุกวันนี้ทางญี่ปุ่นก็ยังมีโมเดลใหม่ๆ ของเจ้า CB400SF ทำตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง

มารู้จักกันกับ Honda Super 4 เวอร์ชั่นล่าสุดกัน

fI2PAl.png

สำหรับ Honda Super 4 หรือ CB400SF เวอร์ชั่นล่าสุดนั้น มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของไฟหน้าแบบ LED นั้นจะเป็น LED แบบ 4 x 4 EYES (4 ดวงแบบแยก 2 ดวงด้านบนและ 2 ดวงด้านล่าง) ซึ่งจะเป็นการแยกตำแหน่งไฟสูงและไฟต่ำนั่นเอง โดยแน่นอนว่าระบบไฟแบบนี้นั้นจะถนอมอายุการใช้งานของไฟ LED ได้มากกว่าแบบปกติ รวมไปถึงสร้างรูปแบบการดีไซน์ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย ซึ่งถือว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ก็ต้องย้อนกลับไปถึงปี 2014 กันเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็ยืนระยะด้วยสเปกแบบเดิมมาทุกปี

fI2A1e.png

โดยพื้นฐานของสเปคเครื่องยนต์แล้ว New Honda CB400SF 2018 คันนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 399.00 cc 4 สูบเรียง 4 จังหวะ ให้แรงม้าอยู่ที่ 52 ตัว ที่ 10,500 รอบ ทอร์ค 38 Nm ที่ 9,500 รอบ กำลังอัดนั้นอยู่ที่ 11.3:1 ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 55.0 x 42.0 mm จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI อันเป็นเอกลักษณ์ของทางฮอนด้านั่นเอง ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด คลัทช์เปียก ระบายความร้อนด้วยน้ำ ท่อแบบสเตเลส สตีล ในส่วนของช่วงล่างนั้นใช้โช๊คอัพหน้าของ Showa ขนาด 41 mm แบบ เทเลสโคปิก สามารถปรับระยะพรีโหลดได้ ส่วนโช๊คอัพหลังนั้นเป็นแบบ twin remote ของ Showa ที่สามารถปรับระยะพรีโหลดได้เช่นกัน ยางหน้ามีขนาดอยู่ที่ 120/60 และยางหลัง 160/60 ส่วนระบบเบรกนั้นเป็นแบบดิสก์หน้าคู่ของขนาด 285 mm Nissin แบบ ไฮโดรลิกคาลิปเปอร์ 4 ลูก เบรกหลังเป้นแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 235 mm แบบไฮโดรลิกคาลิปเปอร์ 1 ลูก ของ Nissin เช่นเดียวกันนั่นเอง ถังน้ำมันจุ 18 ลิตร และน้ำหนักตัวแบบไม่รวมของเหลวจะอยู่ที่ 195 กก.

โอกาสในการทำตลาดในประเทศไทย

fI2DWt.png

อย่างที่เกริ่นไปว่าไบค์เกอร์ชาวไทยที่ค่อนข้างจะมีอายุ หรือว่าวัย 30 ขึ้นไปนั้นจะมีความผูกพันหรือว่าคุ้นเคยกันกับเจ้ารถในตระกูล Super 4 รถในแนวเนกเกตคลาสสิกมาตั้งแต่ในสมัยก่อน เพราะว่ามันมีการนำชิ้นส่วนอะไหล่แต่ละชิ้นจากประเทศญี่ปุ่น มาประกอบเป็นคัน หรือที่เราเรียกว่ารถอินวอย, สพม. นั่นเอง ซึ่งบางคันก็สามารถจดทะเบียนกันได้ถูกต้อง ในสมัยนั้นตัวรถมันมีคาแรกเตอร์ที่เท่ที่หล่อกว่ารถตลาดทั่วไปเอามากๆ ประกอบกับเสียงเพราะๆ ของตัวเครื่องยนต์ 4 สูบที่ลากปลายได้ไหลๆ นุ่มๆ เครื่องยนต์ไม่สะท้าน และก็ยังคงมีความเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ตามสไตล์ของ Honda ดังนั้นแล้วมันจึงป็อปปูล่าร์ในท้องตลาดเอามากๆ และเมื่อมาถึงในยุคที่มีการนำเข้ารถจากประเทศญี่ปุ่นมากมายหลายรุ่นเข้ามาขายกันในไทย โดยเฉพาะกับทาง Honda ก็เลยเกิดคำถามอย่างมากมายว่าเจ้า Super 4 นั้นจะมีโอกาสนำเข้ามาขายหรือไม่?

ประเด็นแรกเลยนั้นก็คือ แรกเริ่มเดิมที Honda CB400 Super Four นั้นเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อวางขายในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยเป็นผลงานของทางโรงงาน Honda ที่เมืองคุมาโมโตะ ที่เริ่มเปิดตัวโมเดลแรกออกวางจำหน่ายตั้งแต่ในปี 1992 ซึ่งในเรื่องของการทำ CC ที่ไม่เกิน 400 นั้นก็ถือว่าทำมาเพื่อรองรับเรื่องกฏหมายใบขับขี่ของประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่อย่างไรก็ตามจากที่มันเคยเป็นโมเดลที่ขายกันในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ในช่วงหลังๆ ก็มีการวางขายกันใน South East Asia บางประเทศ และข้ามไปขายกันในประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2008

fI2l6P.png

ทีประเด็นต่อมาที่ว่ามันจะมีโอกาสเข้ามาขายกันในประเทศไทยหรือเปล่านั้น คำตอบก็คือยังมีโอกาสเป็นไปได้ แต่ก็ไม่มากนัก เพราะเหตุผลที่สำคัญมากที่สุดก็คือในเรื่องของการทำราคา จริงอยู่ที่ว่าในปัจจุบันนั้นภาษีนำเข้ารถจากประเทศญี่ปุ่นมาไทยนั้นเป็น 0% แล้ว แต่ราคาของ Honda CB400SF ที่ขายกันในญี่ปุ่นนั้นเริ่มต้นอยู่ที่ 815,400 เยน (สำหรับรุ่นไม่มี ABS) แปลงเป็นเงินไทยก็ประมาณ 233,940 บาท และ 861,660 เยน (สำหรับรุ่นมี ABS) แปลงเป็นเงินไทยก็ประมาณ 247,213 บาท แน่นอนว่าราคามันแพงกว่าตระกูล 500 ของทาง Honda ไปเสียอีก (แม้จะมีจำนวนสูบที่มากกว่า) ซึ่งเกือบจะไปใกล้ๆ กับตระกูล 650 ของทาง Honda แล้ว นี่ยังไม่รวมค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายในการเปิดบริการในส่วนหลังการขายอีก ตรงนี้เชื่อว่าไม่ง่ายเลยที่จะทำราคาในไทย

อย่างไรก็ตามโมเดลรถบิ๊กไบค์บางรุ่นที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเอาเข้ามาทำตลาดในไทยนั้น ก็ทำมาแล้ว อย่าง W800 ของทาง Kawasaki ที่เป็นรถในแนวคลาสสิกเหมือนกัน แต่ยอดขายก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างมากนัก รวมไปถึง SR400 จากทาง Yamaha ก็มีการนำเข้ามาขายแล้ว ดังนั้นแล้วหากว่าทาง Honda ประเทศไทยเองนั้นไม่ได้คาดหวังในเรื่องของยอดขายมาก คืออาจจะเป็นการนำเข้ามาขายเพื่อในเรื่อง image ของทางค่ายกับรถแนวคลาสสิกแบบเต็มตัว เหมือนที่นำเข้า CB1100EX มาขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็อาจจะได้เห็น CB400SF วางขายกันในราคาเริ่มต้นประมาณ 240,000 – 250,000 บาท แต่ถ้าหากมองในแง่ของธุรกิจแล้ว ต้องถามว่าราคานี้จะมีคนซื้อมากน้อยขนาดไหน? แม้แต่กับกลุ่มแฟนๆ ที่เคยเรียกร้องให้มีการนำเข้ามาขายกันก็ตาม ดังนั้นแล้วถ้าหากว่า Honda ประเทศไทยจะนำ CB400SF เข้ามาขายนั้นก็เป็นไปได้ ในแง่ที่ไม่คาดหวังเรื่องจำนวนยอดขายมากมายนัก หรือมีวาะระโอกาสพิเศษอะไรในการนำเข้ามาขายกันแบบจำนวนจำกัด ตามออเดอร์ แต่ความเป็นจริงแล้วคงไม่ง่ายเท่าไหร่ที่จะเป็นแบบนั้นกับโมเดลนี้ โดยเฉพาะกับการวางขายกันในรูปแบบของแมสโมเดล แต่ถ้าใครอดใจรอไม่ไหวแล้ว ก็ต้องพึ่งพาตลาด Grey Market กันไปก่อนล่ะครับ

ขอบคุณภาพประกอบจาก honda.co.jp bikebros.co.jp