Honda เดินหน้าพัฒนาเครื่องยนต์ Supercharger ใน Africa Twin
เปิดเผยอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเอกสารในการยื่นขอจดสิทธิบัตรใหม่จากผู้ผลิต Honda กับการพัฒนาเครื่องยนต์ Supercharger ที่จะนำเอาอากาศเข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องของการเพิ่มกำลัง โดยเจ้าเครื่องยนต์ใหม่นี้มีระบบอัดอากาศที่แตกต่างกับ Kawasaki Ninja H2 อย่างสิ้นเชิง
การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยสำนักงานสิทธิบัตรของประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดเผยเอกสารสามรายการของผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Honda ในการขอครอบครองสิทธิ์ในการออกแบบเครื่องยนต์ซุปเปอร์ชาร์จตัวใหม่ ที่มาพร้อมกับตัวฉีดเชื้อเพลิงแบบคู่ที่ใช้การฉีดเชื้อเพลิงทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความประหยัดสูงสุดในขณะที่ลดการปล่อยมลพิษลงเป็นอย่างมาก
จากภาพประกอบในเอกสารเห็นได้ชัดว่าเครื่องยนต์นั้น เป็นเครื่องยนต์ 1,084 ซีซี ที่ติดตั้งใน Honda CRF1100L Africa Twin รุ่นปัจจุบัน โดยเครื่องยนต์นั้นมีการติดตั้งระบบใหม่เข้ามาช่วย เพื่อการเพิ่มแรงบิดและลดทอนน้ำหนัก แทนที่จะนำเอาระบบอัดอากาศมาใช้เพื่อเพิ่มกำลังแต่ในทางกลับกัน ระบบอัดอากาศนี้จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มแรงบิดให้สูงขึ้นแทน
อธิบายเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เครื่องยนต์ Supercharger ของ Kawasaki Ninja H2 นั้นจะเป็นจะเป็นเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์แบบแรงเหวี่ยงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพลาข้อเหวี่ยงได้รับการออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนใบพัดที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวระบบอัดอากาศเพื่อบังคับให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ ซึ่งมันจะไม่ทำงานจนกว่าเราจะเร่งรอบเครื่องยนต์และความเร็วให้สูงตามกำหนด ดังนั้นมันจะส่งผลอย่างมากเมื่อเราเร่งความเร็วเฉพาะในย่านความเร็วสูงเท่านั้น ซึ่งมันแตกต่างจากเครื่องยนต์ระบบอัดอากาศของ Honda ตามสิทธิบัตรชุดนี้อย่างสิ้นเชิง
เครื่องยนต์อัดอากาศของ Honda นั้นใช้หลักการ twin-screw design ซึ่งเป็นซูเปอร์ชาร์จเจอร์ชนิดขั้วบวก ซึ่งแตกต่างจากซูเปอร์ชาร์จแบบแรงเหวี่ยงของ H2 ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ที่มีการเคลื่อนที่ในเชิงบวกจะเคลื่อนที่ปริมาณอากาศคงที่ในแต่ละการหมุน และเนื่องจากมันถูกส่งจากเพลาข้อเหวี่ยงนั่นหมายความว่าโดยทั่วไปการทำงานของเครื่องยนต์จะได้รับแรงดันบูสต์ในปริมาณเท่ากันที่ส่งไปยังกระบอกสูบตลอดทางตั้งแต่ไม่ได้ใช้งานไปจนถึงขีดสูงสุดของรอบเครื่องยนต์ ซึ่งหมายความว่าระบบอัดอากาศของ Honda นั้นทำงานอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์เลยทีเดียว
ตามหลักการแล้วระบบอีดอากาศแบบที่ Honda เลือกใช้นั้น เป็นที่นิยมอย่างมากในบรรดา Drag Racer หรือนักแข่งทางตรง เนื่องจากมันให้การเร่งที่ใกล้เคียงกับค่าสูงสุดตลอดช่วงความเร็วรอบ ซึ่งมันค่อนข้างตอบโจทย์ในแนวทางของรถสาย ADV ที่ต้องการแรงบิดมหาศาลในย่านความเร็วต่ำ เพื่อกระชากตัวออกจากอุปสรรคที่ตนเองเผชิญอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ
นอกจากเอกสารชุดนี้จะเปิดเผยเรื่องของระบบอัดอากาศแล้ว ยังมีการขยายส่วนของเรื่องช่อง Airbox ที่เป็นการออกแบบใหม่ซึ่งมีความแตกต่างออกไปจากรุ่นปกติ โดยที่ช่องแอร์และตัวกรองอากาศจะแบ่งออกเป็นสองส่วน อย่างไรก็ตามแทนที่จะป้อนอากาศตรงไปยังตัว throttle bodies รุ่นซูเปอร์ชาร์จจะมีท่อที่วิ่งจากด้านซ้ายมือของ Airbox ไปยังตัวอัดบรรจุอากาศซึ่งจะบีบอัดอากาศก่อนที่จะป้อนเข้าสู่ท่อไอดีที่วิ่งตรงก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อนำอากาศเข้าไปในตัว throttle bodies และจากที่นั่นก็จะมุ่งตรงเข้าสู่เครื่องยนต์ในที่สุด
ในขณะที่ยังคงมีหัวฉีดเชื้อเพลิงหนึ่งหัวสำหรับแต่ละลูกสูบที่ติดตั้งอยู่ใต้วาล์วปีกผีเสื้อ Honda ยังได้เพิ่มวินาทีที่ยิงตรงเข้าไปในห้องเผาไหม้โดยใช้ปั๊มเชื้อเพลิงเสริมที่ขับเคลื่อนโดยเพลาลูกเบี้ยวเพื่อให้แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมาก เพื่อให้น้ำมันเข้าไปผสมกับอากาศในทันทีหลังจากเดินทางผ่านท่อไอดี ก่อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่เรียกว่า “tumble” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันเชื้อเพลิงติดกับผนังกระบอกสูบ ด้วยการปรับเปลี่ยนหัวฉีดที่ใช้ขึ้นอยู่กับรอบการหมุนโหลดและการเปิดคันเร่ง การทำงานตามกระบวนการนี้จะสามารถปรับปรุงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประสิทธิภาพและการปล่อยมลพิษได้อย่างมาก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้เห็น Honda ทดลองใช้เทคโนโลยีนี้ ย้อนกลับไปในปี 2017 การออกแบบที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของผู้ผลิต สำหรับเครื่องยนต์แบบ V-Twin แบบซูเปอร์ชาร์จโดยใช้โบลเวอร์ที่มีการแทนที่เชิงบวกที่คล้ายกัน ภาพวาดโดยละเอียดของสิทธิบัตรและข้อเท็จจริงที่ว่า Honda ได้ร่างสิทธิบัตรแยกกันอย่างน้อยสามรายการที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของการออกแบบเดียวกันชี้ให้เห็นว่านี่เป็นโครงการที่ค่อนข้างจริงจัง ด้วยทรัพยากรที่มากมายของ Honda จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่า Africa Twins ที่จะมาพร้อมระบบอัดอากาศนั้นได้รับการทดสอบแล้วที่แผนก R&D ของบริษัท ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว Honda ได้เปิดเผยสิทธิบัตร ระบบ Direct Injection ในรถมอเตอร์ไซค์สำหรับ Africa Twin อยู่แล้วดังนั้นโครงการนี้จึงดูเหมือนจะดำเนินการมายาวนาน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.