เปิดตัว Honda DUNK สกู๊ตเตอร์ไซส์เล็ก แต่ประหยัดเหลือเชื่อ
Honda ได้เปิดตัวสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือ DUNK สกู๊ตเตอร์ในคลาส 50 ซีซี ที่มาพร้อมกับขุมกำลัง eSP ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการประหยัดเชื้อเพลิงแบบน่าเหลือเชื่อ
Honda DUNK เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 ในญี่ปุ่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวพร้อมคุณสมบัติเพิ่มเติมที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งตัวรถก็ผ่านการพัฒนาทั้งในด้านการออกแบบและการปรับปรุงขุมกำลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณสมบัติที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของตลาด โดยทั่วไปแล้ว Honda Dunk มีดีไซน์ที่เรียบง่าย การออกแบบเป็นทรงกล่อง โดยเฉพาะบริเวณท้ายรถ ซึ่งทำขึ้นในลักษณะที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นรุ่นทรงกล่อง นอกจากนี้ตำแหน่งของไฟเลี้ยวที่เป็นแนวตั้งซ้ายและขวา ขณะที่ไฟเบรคทำเป็นแนวนอน ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจทีเดียว ไม่เพียงแต่ด้านหลังเท่านั้น เพราะด้านหน้าก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ไฟหน้าทำออกมาให้เรียบง่ายด้วยรูปทรงสามเหลี่ยม จากนั้นไฟเลี้ยวก็จะแยกเป็นรูปทรงแนวตั้ง ไฟทั้งหมดยังคงเป็นแบบหลอดไฟธรรมดา ยกเว้นไฟเบรกที่เป็น LED
สิ่งที่พิเศษของ Honda DUNK รุ่นใหม่ คือการติดตั้งถังเชื้อเพลิง ที่ไม่ได้อยู่ใต้เบาะนั่ง แต่ถูกวางไว้ใต้พื้นที่ผู้ขับขี่เหยียบ ทำให้ท้ายรถมีพื้นที่ใหญ่มาก นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของเพิ่มเติมที่ด้านหน้าสำหรับเก็บขวดน้ำ รวมถึงพอร์ตชาร์จไฟ 12V 1A บนคอนโซลแร็คด้านหน้า และจากข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากมายก็คือรถสกู๊ตเตอร์คันนี้มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียง 49 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลัง 4.5 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 4.1 นิวตันเมตร
ในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้น ทางผู้ผลิตได้เคลมว่า Honda DUNK มีอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 75.3 กิโลเมตร ต่อเชื้อเพลิง 1 ลิตร ปัจจัยหลักของการใช้อัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำขนาดนี้มาจากการเลือกใช้งานระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด PGM FI และยังมีการติดตั้งระบบ Idling Stop ที่เป็นตัวช่วยในการใช้เชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย โดยตัวรถมีความสามารถในการเร่งความเร็วสูงสุดที่ราวๆ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมายจารจรของประเทศญี่ปุ่น สำหรับผลิตภัณฑ์ยานยนต์สองล้อในคลาส 1
Honda DUNK รุ่นปี 2025 จะมีตัวเลือกสีตัวถัง 3 แบบ ประกอบด้วย Matte Ballistic Black Metallic, Pearl Deep Mud Gray และ Matte Jeans Blue Metallic โดยมีราคาจำหน่ายที่ 229,900 เยน หรือราวๆ 53,900 บาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก iwanbanaran.com

Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.