สิทธิบัตรใหม่ของ Honda เล็งนำเอาระบบหัวเทียนคู่มาใส่ในเครื่องยนต์ใหม่ของตระกูล CRF
การมาของมาตรฐาน EURO5 นั้นเรียกได้ว่าเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของค่ายผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ นอกจากจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปแล้ว ยังต้องรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้คงความเสถียรและให้พละกำลังสูงสุดที่เทียบเท่าได้กับของเวอร์ชั่นที่ผ่านๆ มา และล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลสิทธิบัตรใหม่จากค่ายปีกนก ที่จะมีการติดตั้งระบบหัวเทียนคู่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานเครื่องยนต์ใหม่จากโมเดลตระกูล CRF
2018 Honda CRF250L
เรื่องของระบบสองหัวเทียนนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรในวงการมอเตอร์ไซค์ เพราะก่อนหน้านี้ Ducati ได้ใช้วิธีนี้ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ L-Twin ใน Multistrada 1260 มาแล้ว ซึ่งผลตอบรับนั้นนอกจากจะช่วยในเรื่องของการเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์แล้ว ยังช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษได้ดีมากขึ้น ซึ่งเจ้าระบบ Dual Spark นั้นก็ถูกใช้งานเรื่อยมาในรถมอเตอร์ไซค์ของ Ducati ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
จากข้อมูลสิทธิบัตรล่าสุดของ Honda ได้เปิดเผยความเป็นไปได้ที่ทางผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นเองจะลองหันมาใช้ระบบ Dual Spark กับเค้าบ้าง ซึ่งโมเดลนำร่องในครั้งนี้จะมาในรูปแบบของรถ Dual Propose อย่าง Honda CRF250L ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งต่อไปยัง CRF250 Rally อีกด้วย จากภาพที่เราได้เห็นกันอยู่นี้ เห็นได้ชัดเจนว่ามีการวางตำแหน่งของหัวเทียนแบบคู่ในองศาที่ไม่เท่ากัน โดยจะมีหนึ่งตัวที่วางบนหัวลูกสูบโดยตรง และอีกหนึ่งตัวที่วางทำมุมประมาณ 30 องศากับหัวลูกสูบ ซึ่งการวางตำแหน่งหัวเทียนแบบนี้จะเป็นการทำให้เกิดการจุดระเบิดแบบสองครั้ง ซึ่งจะส่งให้ตัวเครื่องยนต์นั้นมีประสิทธิภาพและความเสถียรที่มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการเผาไหม้ที่หมดจดมากขึ้นซึ่งส่งผลโดยตรงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำงานของเครื่องยนต์อีกด้วย
นอกจากจะมีการวางระบบหัวเทียนใหม่แล้ว หากเราสังเกตให้ดีๆ จะพบว่า หัวฉีดที่ใช้ในสิทธิบัตรนี้เป็นหัวฉีดแบบใหม่ และปั้มเชื้อเพลิงตัวใหม่เข้ามา เพื่อเอื้อประโยชน์ในการทำงานของเจ้าระบบหัวเทียนคู่ อีกทั้งยังจะช่วยในการลดปัญหาการจ่ายน้ำมันที่ติดขัดในจังหวะจุดระเบิด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับอัตราของพละกำลังสูงสุด ที่น่าจะมีการขยับตัวสูงขึ้นกว่ารูปแบบของเครื่องยนต์ชุดเดิมอีกด้วย
2019 Honda CRF250 Rally
มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าเครื่องยนต์หัวเทียนคู่นี้ จะเริ่มขึ้นผลิตกันอย่างจริงจังในช่วงกลางปี 2020 ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะไม่ทันกับการประกาศใช้งาน EURO5 ที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคมปีหน้า แต่หากมองในภาพรวมแล้วก็ยังพอมีเวลาอีกถึง 5-6 เดือนสำหรับการเตรียมที่จะเปิดโมเดลใหม่สำหรับการขายในปี 2021 และแน่นอนว่าเจ้าเครื่องยนต์บล็อกนี้ หากมีการผลิตขึ้นมาจริงๆ แล้วล่ะก็ ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งฐานการผลิตที่สำคัญ เช่นเดียวกับที่เป็นอยู่ในทุกๆ วันนี้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.