Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

Honda Monkey 125 การกลับมาของรถระดับตำนาน กับสเปกที่มากกว่าเดิม

หลังจากที่เราได้ยลโฉม Honda Monkey 125 รถมินิไบค์สุดแนวกันไปเป็นครั้งแรกในโลกเมื่องาน Tokyo Motor Show ในปี 2017 ที่ผ่านมา (ในรูปแบบของรถคอนเซ็ปท์) จนมาถึงตอนนี้เพื่อนๆ น่าจะทราบกันดีแล้วว่าประเทศไทยเราเองก็กำลังจะเปิดตัวเจ้าลิงน้อยคันนี้ในงาน Thailand Motor Show 2018 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 28 มีนาคม นี้ ซึ่งมันก็กลายเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์กันในหมู่ไบค์เกอร์ชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสเปกที่แตกต่างไปจาก Monkey สมัยก่อน และไลฟ์สไตล์ของตัวรถ รวมไปถึงในเรื่องของการกะเก็ง “ราคา” ที่จะเปิดตัวกันด้วย

Honda Monkey คืออะไร

ความเป็นตำนานของเจ้า Honda Monkey นั้นจะต้องย้อนกันไปถึงสมัยค.ศ. 1960 – 1961 กันเลยทีเดียว ซึ่งเชื่อว่าหลายต่อหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้ยังไม่เกิดกันด้วยซ้ำ โดยจุดกำเนิดของมันมาจากไอเดียของพนักงานฮอนด้าที่ญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้อยากจะลองทำอะไรเล่นๆ สนุกๆ ขึ้นมา โดยการหยิบเอาเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ ของทางรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นอื่นๆ ที่กำลังผลิตอยู่ในขณะนั้น มายัดใส่ในตัวถังที่มีขนาดเล็กซึ่งทำขึ้นมาใหม่ มันจึงกลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบย่อส่วนไปซะอย่างนั้น ซึ่งการที่เค้าทำแบบนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลนะครับ เพราะว่าแนวคิดนั้นคือต้องการสร้างรถมอเตอร์ไซค์แบบมินิ ที่สามารถพกพาติดรถยนต์ไปขี่เล่นสนุกๆ ในวันหยุดตามสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายๆ หรือแม้แต่จะเป็นรถที่ให้เด็กๆ เริ่มฝึกขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรกกับรถคันนี้ โดยครั้งแรกที่มันถือกำเนิดมานั้นมันมีชื่อว่า Honda Z100 โดยมีเครื่องยนต์ขนาด 50cc แบบ 4 จังหวะจากรถมอเตอร์ไซค์ไซส์ปกติของฮอนด้าในขณะนั้นนำมาสวมใส่ในรถคันนี้ และมันเป็นเพียงรถที่ใช้กันภายในพนักงานของฮอนด้าเท่านั้น ไม่ได้วางขายจริงแต่อย่างใด

จนถึงจุดที่มันจะเริ่มจำหน่ายกันจริงๆ ก็ต้องนับมาถึงรุ่น CZ100 และเริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างด้วยชื่อ Honda Monkey ที่มาจากรูปลักษณ์ของตัวรถที่มันดูคันเล็กๆ ซนๆ นั่นเอง คล้ายๆ ว่าเป็นชื่อเล่นของรถรุ่นนี้ หลังจากนั้นมันก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตากันไปบ้างตามกาลเวลา แต่คอนเซ็ปท์หลักของมันก็ยังคงเป็นรถคันเล็กแบบมินิไบค์อยู่ ซึ่งมาจนถึงในช่วงยุคหลังๆ ที่ทางค่ายไม่ได้ผลิตแล้วมันก็เลยกลายเป็นของสะสมอันมีค่าไปโดยปริยาย หรืออย่างที่เห็นๆ กันในประเทศไทยเรายุคก่อนกับตัว 50cc นั้นก็ยังตีทะเบียนไม่ได้แต่อย่างใด

Monkey 125 vs Monkey 50 กับสเปกที่เพิ่มเติมเข้ามา

และแน่นอนว่าการกลับมาของตำนานในครั้งนี้ไม่ได้มาแบบธรรมดา นอกจากจะเป็นรถที่สามารถตีทะเบียนและวิ่งกันบนท้องถนนได้จริงๆ แล้ว เพราะแม้ว่าจะยังคงคอนเซ็ปท์เป็นรถมินิไบค์คันเล็กเหมือนเดิม แต่ว่าความจุของเครื่องยนต์นั้นมาในขนาด 125cc ซึ่งเหมาะสมและเพียงพอกับการใช้งานในท้องถนนจริงๆ รวมถึงยังพอที่จะนำไปออกทริปกันได้ในระดับหนึ่งด้วย มาพร้อมกับระบบโช้กอัพหน้าแบบอัพไซส์ดาวน์สีทองขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงคู่ และระบบไฟแบบ LED รอบคัน และการบรรจงออกแบบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ มาอย่างปราณีต ซึ่งทุกอย่างนั้นบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่มาเติมเต็มเจ้าลิงน้อยคันนี้ให้มันมาผงาดอย่างสมศักดิ์ศรีของคำว่า “ตำนาน” ในยุคนี้อย่างเต็มตัวอีกครั้ง

แล้วราคาของ Monkey 125 มันควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ ?

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครล่วงรู้ถึงราคาของ Monkey 125 ที่จะเปิดตัวกันออกมา แต่จากล่าสุดที่เราได้เห็นๆ ข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัว CUB House ของทาง Honda ในประเทศไทยและหนึ่งในรถที่วางจำหน่ายกันที่ CUB House นั้นก็คือเจ้าลิงน้อยคันนี้ มันจึงดูจะเป็นรถที่แตกต่างจากรถคลาสเล็กปกติของทาง Honda ทั่วๆ ไป หรือจะมองอีกนัยหนึ่งมันก็มีความเป็นพรีเมี่ยมในตัวสูงของเจ้า Monley 125 คันนี้ ดังนั้นกับกระแสข่าวของราคาที่มีออกมาว่ามันอาจจะเปิดตัวกันที่ช่วงราคาประมาณ 100,000 – 120,000 บาทนั้นก็ดูจะเป็นไปได้และสมเหตุสมผลกับรถคันนี้ (เป็นการอ้างอิงจากราคาที่ขายกันที่ทางประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งก็อยู่ในช่วงราคาประมาณนี้) หากจะคิดถึงความเป็นตำนานของมันและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ แต่ละอย่างที่ให้มากับตัวรถนั้น ก็ไม่ได้น่าแปลกใจแต่อย่างไร และเจ้า Monkey 125 นั้นถูกวางตำแหน่งไว้ว่า “ไม่ใช่รถตลาดๆ ทั่วไปอย่างแน่นอน” ซึ่งทำให้เราไม่สามารถที่จะเอาแค่ในเรื่องของจำนวน cc มาเป็นที่ตั้งอย่างเดียวในเรื่องของราคา

ทั้งนี้จะต้องรอดูการเปิดตัวกันจริงๆ อีกครั้งว่าทาง A.P. Honda จะเคาะราคามาที่เท่าไหร่กันแน่ ซึ่งในงาน Motor Show 2018 ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้เราก็จะได้ทราบกันแล้ว นับว่าเจ้า Monkey 125 นั้นเป็นรถจากทางฮอนด้าอีกหนึ่งรุ่นที่ทางทีมงาน GreatBiker นั้นตื่นเต้นกับการกลับมาครั้งนี้ของมันมากเป็นพิเศษ ซึ่งทางเราเองก็จะเกาะติดสถานการณ์และนำข้อมูลมาอัพเดทกันแบบสดๆ สุดท้ายนี้จะต้องขอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ยินดีต้อนรับการกลับมาของเจ้าลิงน้อยอีกครั้ง  ^_^ “