Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

ย้อนรอยอดีตตัวแรงกับ Honda NSR 150SP (โปรอาร์ม)

ครั้งนี้ทางเราจะนำเสนอเกี่ยวกับรถ Honda NSR 150SP Pro Arm ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดรถในตำนานคันหนึ่งของบ้านเราที่โด่งดังเอามากๆ จนแม้กระทั่งทุกวันนี้ยังมีการหาซื้อกันในท้องตลาดรถมือสองอยู่ แม้ว่าหลายๆ คนที่เกิดในยุคนี้อาจจะไม่ค่อยรู้จักว่ามันเป็นมาอย่างไร แต่เชื่อว่าก็จะต้องเคยเห็นหรือคุ้นตากันบ้างแน่ๆ เราลองไปรู้จักกับตัวรถคันนี้ให้ลึกซึ้งกันดีกว่า

9FUegn.jpg

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยก่อนที่รถ 2 จังหวะเฟื่องฟูกันอย่างแพร่หลายทั้งในตลาดโลกและตลาดประเทศไทยเรา รถสปอร์ตแฟริ่งจากทาง Honda ที่วางขายในตอนนั้นก็คือตระกูล “NSR” ซึ่งรุ่นแรกนั้นเปิดตัวออกมาเป็นแบบไฟหน้าเดี่ยว ส่วนรุ่นสองนั้นมาเป็นแบบไฟหน้ากลมคู่ และพัฒนามาถึง 150SP Pro Arm รุ่นที่เราเขียนถึงกันอยู่นี้ ซึ่งถือว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ทาง Honda ได้จัดหนักจัดเต็ม โดยยัดเทคโนโลยีจากในสนามแข่งลงมาที่ตัวนี้อย่างครบครัน สิ่งที่เด่นสุดๆ ก็คือเจ้าโปร์อาร์มนั่นเอง (สวิงอาร์มเดี่ยว) ซึ่งในสนามแข่งก็ทำขึ้นเพื่อเอาไว้ให้สามารถเปลี่ยนล้อหลังได้อย่างรวดเร็วเพื่อทำเวลาสำหรับการแข่งขัน ซึ่งต้นทุนในการผลิตก็แน่นอนว่าจะต้องสูงกว่าสวิงอาร์มแบบปกติทั่วไป และในขณะเดียวกันก็ถือว่ามันทำให้ตัวรถนั้นหล่อขึ้นกว่าเดิมในสายตาผู้พบเห็นอีกด้วย

nsr

เราลองมาดูที่สเปกของตัวรถกันบ้าง สำหรับ Honda NSR 150SP Pro Arm นั้นให้ขุมกำลังมาในพิกัด 150cc 2 จังหวะ 1 สูบ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ โดยความแรงก็เทียบได้ประมาณรถ 300cc 4 จังหวะในสมัยนี้ ที่ได้รับการการันตีจากเหล่าไบค์เกอร์ในสมัยก่อนว่าแรงและเร็วจริง (มักจะถูกนำเอาไปแข่งกับตระกูล KR ของทาง Kawasaki กัน) มีขนาดช่วงชักของเครื่องยนต์อยู่ที่ 59 x 54.5mm แรงม้ามากถึง 39.5 ตัวที่ 10,500 รอบ ส่วรทอร์คหรือว่าแรงบิดนั้นอยู่ที่ 27.5 NM ที่ 10,000 รอบ ระบบเกียร์เป็นแบบ 6 สปีด ความยาว : 1,970 mm ความกว้าง : 685 mm ความสูง : 1,060 mm ฐานล้อ : 1,355 mm น้ำหนักตัวเท่ากับ : 122.4 kg ขนาดของยางอยู่ที่ (หน้า) 90/80-17, (หลัง) 120/80-17 or 130/80-17 จ่ายน้ำมันด้วยคาบูเรเตอร์ การเผาไหม้เป็นแบบ Electronic CDI unit และ RC Valve เป็นแบบดิจิตอลที่ทำงานได้ละเอียด ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิกขนาด 35 mm และด้านหลังเป็นแบบโมโนโช้กของ Showa ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเดี่ยว (โปร์อาร์ม)

ด้วยภาพลักษณ์การดีไซน์และสเปกของเครื่องยนต์ที่ถือว่าสุดทางในสมัยนั้นสำหรับรถในคลาสนี้ ก็ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมมันถึงได้รับความนิยมเอามากๆ แม้ว่ามันจะมีราคามากถึงประมาณ 85,000 บาท (ซึ่งถือว่าราคาสูงเอามากๆ ในสมัยประมาณยี่สิบปีก่อน) เรียกได้ว่าเป็นรถไฮเอนด์แบบเต็มตัว แต่ถ้าใครได้ครอบครองมันก็ถือว่าหล่อและเท่ที่สุดแล้ว ซึ่งราคานี้ถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว ก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับของแต่ละอย่างที่ให้มากับตัวรถ แน่นอนว่าสีที่โดดเด่นที่สุดของมันก็หนีไม่พ้นลาย Repsol สีเขียวส้มลายแข่งของทางค่าย Honda นั่นเอง โดยเอกลักษณ์ของมันก็คือเรื่องของเสียงที่จะกังวาลแสบแก้วหูมากกว่ารถ 4 จังหวะในปัจจุบัน และการที่เป็นรถ 2 จังหวะที่ซดออโตลูป นั้นทำให้การจุดระเบิดของเครื่องค่อนข้างถี่ซึ่งทำให้อัตราเร่งนั้นดีมากทีเดียว แต่ก็แลกมาด้วยการสึกหรอของเครื่องยนต์ที่จะสูงกว่ารถ 4 จังหวะ ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับนักบิดที่เสพติดความเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเวลาซัดไปจนถึงอาร์ซีวาล์วเปิดแล้วด้วยนี่ฟินกันสุดๆ ไปเลย (วาล์วเปิด โลกเปลี่ยน!)

ขอบคุณภาพประกอบจาก Toey horror ( TH )