เปิดตัวโมเดลสั่งลา Honda Super Cub 50 “Final Edition” โมเพดคลาสเล็กรุ่นสุดท้าย
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ในที่สุด ค่ายปีกนก Honda ก็ได้เปิดตัวโมเดลสั่งลาครั้งสุดท้ายของรถมอเตอร์ไซค์โมเพดระดับตำนาน Super Cub 50 “Final Edition” รุ่นพิเศษที่เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Honda Super Cub เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ยอดเยี่ยมที่มียอดจำหน่ายทั่วโลกที่สูงมาก และเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่นมาตลอดช่วงเวลากว่า 40 ปี น่าเสียดายที่การผลิต Super Cub 50 นั้นยุติลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น Final Edition ซึ่งจะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Super Cub 50 ที่ยังคงวางจำหน่ายในปัจจุบัน
Honda Super Cub 50 “Final Edition” มาพร้อมกับสี Bonnie Blue ที่คุ้นเคยซึ่งชวนให้นึกถึง Super Cub รุ่นคลาสสิก พร้อมด้วยการประดับตราพิเศษที่ด้านหน้าและด้านข้าง อีกทั้งยังมีกุญแจพิเศษ ที่ประดับตรา “Final Edition” ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อตัวรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านหลัง กล่องโซ่ และสวิงอาร์ม ซึ่งปกติแล้วจะทำเป็นสี Bonnie Blue เหมือนกับตัวรถ แสดงให้เห็นว่านี่คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการผลิตอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ขอบมาตรวัดและฝาครอบท่อไอเสียยังได้รับการชุบสี ส่วนเบาะหน้าและเบาะหลังเป็นสีเทาแบบทูโทน ให้ความรู้สึกพิเศษ
ตัวรถจะมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 49 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลังสูงสุด 3.7 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 3.8 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์แบบ 4 สปีด ระบบคลัตซ์อัตโนมัติแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ส่งกำลังสุดท้ายไปยังล้อหลังด้วยชุดโซ่ส่งกำลัง
ตัวรถจะมาพร้อมกับชุดโครงสร้างแบบ Underbone ที่เชื่อมต่อกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic และระบบกันสะเทือนหลังแบบคู่ ปรับระดับได้ 3 ระดับ ระบบเบรกหน้าและหลังจะเป็นแบบดรัมป์เบรก และขอบล้อแบบซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับบางแบบมียางในขนาด 60/100-17M/C (33P) และ 60/100-17M/C (33P)
ในส่วนอุปกรณ์บนตัวรถนั้น จะเน้นไปที่ความเรียบง่ายเป็นพิเศษ โดยมีไฟหน้าแบบฮาโลเจน และระบบไฟ LED ที่ด้านหลังและสัญญาณไฟเลี้ยว หน้าจอแสดงผลจะเป็นอะนาล็อกเข็มนาฬิกา และมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า และสตาร์ทด้วยเท้า
ด้วยความที่เป็นรุ่นพิเศษ และมีการจำกัดเวลาในการสั่งซื้อ ตัวรถจะมีการวางราคาอยู่ที่ 297,000 เยนหรือประมาณ 64,545 บาท และด้วยการจำกัดที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้ที่ตัวรถรุ่นพิเศษนี้ จะกลายเป็นของหายาก และจะกลายเป็นอีกหนึ่งแรร์ไอเทมสำหรับสายสะสมในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.autoby.jp
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.