Jorge Lorenzo อนาคตดับลงกับ Repsol Honda จริงหรือ
กลายเป็นคนที่ช้าที่สุดในสนามแข่งไปเสียแล้วสำหรับ “เจ้าอมยิ้ม” Jorge Lorenzo นักบิดสเปนของ Repsol Honda ที่จบการแข่งขันที่สนาม Phillip Island ประเทศออสเตรเลียด้วยอันดับที่ 16 แบบไร้แต้มและมีระยะห่างจากผู้ชนะการแข่งขัน Marc Marquez เพื่อนร่วมทีมอยู่เกือบๆ 1 รอบสนาม ทำให้บรรดาสื่อสายมอเตอร์สปอร์ตเริ่มมองเห็นอนาคตของเจ้าตัวที่ใกล้จะจบลงกับทีมงานก่อนเวลาอันควร
Jorge Lorenzo อดีตแชมป์โลก 5 สมัยมีฤดูกาลการแข่งขันที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เป็นนักแข่งในระดับสูงสุด โดยฤดูกาล 2019 นั้น เรียกได้ว่าดำดิ่งอยู่กับความพังพินาศ เจ้าตัวประสบปัญกาในการปรับตัวให้เข้ากับรถแข่ง Honda RC213V อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งเจ้าตัวยังวนเวียนอยู่กับอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายขาด ทำให้ทำผลงานได้ไม่เฉียดกับคำว่าเสมอตัวเลยสักนิด อีกทั้งในสนามที่ 17 Phillip Island นั้น ทีม LCR Honda ได้ให้โอกาส Johan Zarco ลงทำการแข่งขันทดแทน Takaaki Nakagami นักแข่งญี่ปุ่นที่พึ่งได้รับสัญญาจากทีมไปอีกหนึ่งปี เพื่อให้ไปพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ โดย Johan Zarco เองก็ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง ถ้าเทียบกับการได้ขับขี่ RC213V เป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าผลงานนั้นค่อนข้างจะเห็นได้ชัดกว่า Lorenzo อยู่พอสมควร
หลังจบการแข่งขันสนามที่ 17 Phillip Island “เจ้าอมยิ้ม” Jorge Lorenzo ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันที่สนามแห่งนี้ไว้ว่า “ผมรู้ได้ทันทีตั้งแต่ช่วงซ้อมครั้งแรก ผมคงไม่มีทางที่จะเป็นคนที่เร็วที่สุดในสนาม มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผมรู้สึกได้ ทั้งลม อากาศที่หนาวเย็น สถานการณ์ดูย่ำแย่เอามากๆ อากาศที่เย็นผสมกับลมที่พัดแรกทำให้อาการบาดเจ็บที่หลังของผมกำเริบตลอดเวลาที่ขับขี่ ผมรู้สึกได้ทุกทิศทาง ผมไปได้ไม่เร็ว Syahrin ทำผลงานได้ดีกว่าผม รวมภึง Karel ด้วย”
“ในช่วงรอบการ Warm up ผมรู้สึกได้ถึงยางด้านซ้าย ไม่มีการยึดเกาะเลย แต่ผมก็พยายามอย่างหนักที่จะรักษาอาการของตัวรถในตอนออกโค้ง ผมเปิดคันเร่งแล้วมันรู้สึกได้เลยว่าพร้อมจะบินตลอดเวลา ยางหลังก็หมุน หมุน และหมุนแบบไร้ทิศทาง ผมรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย และไร้การควบคุมเป็นอย่างมาก การเบรกก็เป็นปัญหาของผมเหมือนกัน มันสะท้านทุกครั้งที่เบรก ผมอยากไปให้ไวกว่านี้แต่ผมไม่สามารถ ผมได้แต่หวังและคาดเดาว่าความผิดพลาดทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นที่สนามนี้เพียงสนามเดียวเท่านั้น ผมรู้สึกตอนนี้มันแย่มากๆ สำหรับผม”
Jorge Lorenzo ออกสตาร์ทการแข่งขันจากอันดับที่สามจากท้ายแถว ในอันดับที่ 19 จาก 21 คัน จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 16 แต่เมื่อเรามองไปที่สถิติเวลา Lorenzo มีระยะห่างจาก Hafizh Syahrin นักบิดมาเลเชียของ Tech3 KTM อยู่ 22 วินาที และห่างจากผู้ชนะ Marc Marquez อยู่ 1’06.045 นาที และก็ต้องนับเอา รถ 5 คันที่ไม่สามารถจบการแข่งขันได้ ทำให้ Jorge Lorenzo เป็นรถคันสุดท้ายที่เข้าเส้นชัยในการแข่งขัน และเมื่อเอาผลงานโดยรวมไปเทียบกับ Johan Zarco นักแข่งฝรั่งเศสที่เข้ามาขี่แทนที่ Takaaki Nakagami บนรถแข่ง RC213V รุ่นเก่า ผลงานกลับชัดเจนกว่า ด้วยการออกสตาร์ทในลำดับที่ 14 แต่สามารถจบการแข่งขันด้วยลำดับที่ 13 ระยะห่างจากผู้ชนะ 26.756 วินาที ทำให้บรรดาสื่อมวลชน ต่างคาดเดาว่า ในฤดูกาลหน้าตำแหน่งของนักแข่งโรงงาน Repsol Honda อาจจะมีการเปลี่ยนมือก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ดี Jorge Lorenzo ยังเหลือสัญญากับทีม Repsol Honda อีกหนึ่งปีฤดูกาล จนจบฤดูกาล 2020 ถ้าหากทีมต้องการที่จะเก็บ Johan Zarco ไว้ก็อาจจะต้องมีการฉีกสัญญากับ Lorenzo แต่ถ้าในทางที่ดูนุ่มนวลมากที่สุดคือให้ Johan Zarco รับตำแหน่งนักแข่งทดสอบของทีมไปพร้อมพ่วงด้วยตำแหน่งนักแข่งแสตนบาย เพื่อทดแทนนักแข่งของทีม Honda ที่อาจจะบาดเจ็บจากการแข่งขันในฤดูกาลหน้า และเมื่อหมดสัญญากับ Lorenzo แล้วค่อยมาว่ากันว่าจะเอายังไง เพราะในปี 2020 นั้น นักแข่ง Honda ทั้ง 4 คน Marc Marquez, Jorge Lorenzo, Cal Crutchlow และ Takaaki Nakagami เองก็พร้อมใจกันหมดสัญญาในสิ้นฤดูกาลนั้นพอดี น่าจะมีที่ว่างให้สำหรับทั้งสองคนในฤดูกาล 2021 ก็เป็นไปได้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com www.motogp.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.