เผยราคา Kawasaki Ninja ZX-25R 4 สูบ จากสรรพากรอินโดฯ คาดเริ่มต้นแค่ประมาณ 184,000 บาทเท่านั้น!!!
ทางเว็บไซต์ TMCBLOG.com จากประเทศอินโดนีเซียนั้น ได้ลงรายงานข่าวล่าสุดที่น่าสนใจเอามากๆ เกี่ยวกับราคาของ Kawasaki Ninja ZX-25R ที่กำลังจะมีการเปิดตัวในวันที่ 4 เดือน 4 ปี 2020 นี้ ในประเทศอินโดนีเซีย หลังจากพบข้อมูลของสำนักงานสรรพากรภูมิภาค DKI ในกรุงจาการ์ตา ที่ถูกเปิดเผยออกมา
โดยข้อมูลในส่วนนี้ สำนักงานสรรพากรภูมิภาค DKI นั้นได้แจ้งว่ามี 2 รหัสของสินค้าใหม่จากทาง Kawasaki ในชื่อรหัสสินค้า Kawasaki ZX250F และ Kawasaki ZX250G ที่อยู่ในรายการลงทะเบียนภาษี โดยราคาของรหัส ZX250F ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นท็อปนั้น จะมีราคาอยู่ที่ 73,200,000 รูเปีย หรือประมาณ 167,000 บาท และราคาของรหัส ZX250G ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นนั้น อยู่ที่ 64,800,000 รูเปีย หรือประมาณ 148,000 บาท ซึ่งราคาในส่วนนี้เป็นราคาก่อนคิดภาษีในการวางขายจริง แต่อย่างไรก็ตามมันก็ถือว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าที่ถูกคาดการณ์ไว้ทีแรกเอามากๆ !
เอาล่ะ เราลองมาคิดคำนวนอัตราภาษี (ของทางประเทศอินโดนีเซียกัน) ว่าหากวางขายจริงในแต่ละรุ่นนั้น จะมีราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ โดยอัตราภาษีของทางอินโดนีเซียนั้น จะมีภาษียานยนต์อยู่ที่ 1.5% ของราคาสินค้า, อัตราภาษีศุลกากรของยานยนต์ 10% ของราคาสินค้า, ภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% ของราคาสินค้า และภาษีเงินได้ 1.5% ของราคาสินค้า ดังนั้นเมื่อรวมเอาอัตราทั้งหมดมาคิดคำนวนดูแล้วจะพบว่า Kawasaki Ninja ZX-25R ในรหัสสินค้า ZX250G ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นนั้น จะตกอยู่ที่ 80,777,881 รูเปียหรือแปลงเป็นเงินไทยที่ประมาณ 184,000 บาทเท่านั้น ส่วนในรุ่นรหัสสินค้า ZX250F ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นท็อปนั้นจะอยู่ที่ 91,249,088 รูเปียหรือประมาณ 208,000 บาทเท่านั้น!
โดยเอาจริงๆ แล้วมันแพงกว่า Ninja 250 แบบ 2 สูบเรียงไปไม่เยอะเท่าไหร่เลย หรือถ้าเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ตัวรถของ Kawasaki Ninja ZX-25R นั้นก็น่าจะมีราคาแค่พอๆ กันกับ Ninja 400 แบบ 2 สูบนั่นเอง แต่เราลองมาทบทวนสเปคของ Kawasaki Ninja ZX-25R กันอีกครั้ง ว่ามันฟีเจอร์เทพๆ อะไรบ้าง โดยรายละเอียดของตัวรถจากที่เราทราบในตอนนี้นั้น ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ DOHC แบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์วขนาด 249cc โครงรถจะใช้เฟรมถักแบบ Trellis Frame มีระบบ Traction Control ป้องกันล้อหมุนฟรี และ Quick Shifter ทั้งการเพิ่มและลดเกียร์มาให้ ระบบคันเร่งจะเป็นแบบไฟฟ้า Throttle-by-wire ที่จะพ่วงกับโหมดในการขับขี่ Power Mode ปั้มเบรกด้านหน้าจะเป็นแบบ Radial Mount ระบบกันสะเทือนหน้าหัวกลับ Upside Down แบบ SFF-BP ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ Horizontal Backlink Suspension ที่สามารถปรับระยะพรีโหลดได้ หน้าจอแสดงผลใกล้เคียงกับ Ninja 250 โดยจะมีเรดไลน์อยู่ที่ 17,000 รอบต่อนาที ซึ่งถือว่าสามารถลากรอบได้ลึกมากๆ ในขณะที่ก้านเบรกและคลัทช์สามารถปรับได้ พร้อมกับมีช่องดักอากาศแรมแอร์ที่บริเวณแฟริ่งด้านหน้า ยางรถนั้นจะใช้ของ Dunlop รุ่น GPR300 ระบบไฟจะเป็นแบบ LED พร้อมไฟฉุกเฉิน แต่ในเรื่องของแรงม้าและแรงบิดนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้
อย่างไรก็ตามจะต้องบอกว่าตรงนี้ยังเป็นราคาที่ไม่เป็นทางการ แต่ก็มีการอ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานสรรพากรภูมิภาค ในประเทศอินโดนีเซียตามแหล่งข่าว ดังนั้นแล้วเชื่อว่ายามที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันจริงๆ ราคาขายจริงก็ไม่น่าจะหนีไปจากนี้สักเท่าไหร่นัก ส่วนประเทศไทยเราคาดว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน โดยอาจจะเป็นที่งาน Motor Show ปลายเดือนมีนาคม หรือไม่ก็อาจจะเป็นวันเดียวกับทางอินโดนีเซียเลย แต่โครงสร้างราคาในบ้านเราของรถรุ่นนี้ อาจจะมีความแตกต่างกับอินโดนีเซีย ซึ่งอาจจะสูงกว่านี้ไปประมาณหนึ่ง แต่ดูแล้วก็คงไม่ถึงกับแตกต่างมากมายนัก โดยอาจจะอยู่ในช่วงสองแสนต้นถึงสองแสนกลาง ดังนั้นแล้วใครที่อยากสัมผัสรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตแบบ 4 สูบเรียง ฟีเจอร์ยัดมาเต็มคัน ในราคาที่เอื้อมถึงกันได้ไม่ยาก ก็เตรียมเก็บเงินรอกันได้เลย!!!
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก tmcblog.com
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience