Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

KTM ท้าชนค่ายญี่ปุ่น ปรับราคา DUKE 390 และ RC 390 มาแบบล่อตาล่อใจสุดๆ

2014-ktm-390-duke-abs-in-black-trim-price-announced_1

หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับค่าย KTM ในบ้านเรา ดูเหมือนกับว่านโยบายใหม่ของทางค่ายนั้นจะเน้นทำราคามาสู้กับรถจากค่ายญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว หลังจากที่เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ไปอย่าง DUKE 250 และ RC 250 แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ รุ่นก่อนที่เคยทำตลาดในบ้านเรามานานอย่าง DUKE 390 และ RC 390 ก็ได้ปรับลดราคาลงมาแบบน่าสนใจสุดๆ ด้วย เราไปดูรายละเอียดตรงนี้ด้วยกันเลย

สำหรับ DUKE 390 และ RC 390 นั้นถือว่าเป็นรถทรงสปอร์ต-เนกเกต และสปอร์ต-แฟร์ริ่ง ที่มีความแรงจัดจ้านเป็นเอกลักษณ์เอามากๆ แม้ว่าจะมีจำนวนสูบแค่ 1 สูบ แต่ว่าก็เป็น 1 กระบูกสูบที่มีขนาดโตมากๆ บิดทีมีหน้าหงายกันเลยทีเดียว KTM Duke 390 ได้เลือกใช้เครื่องยนต์ที่มี 1 สูบ ขนาด 373.2 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยมีความกว้างของกระบอกสูบอยู่ที่ 89 และมีขนาดช่วงชักอยู่ที่ 60 (89 x 60 มม.) แต่ถ้าเทียบกับเจ้า KTM Duke 200 จะอยู่ที่ 72 x 49 มม. และยังช่วยในการสร้างพละกำลังแรงม้ารีดได้สูงสุดอยู่ที่ 43 แรม้า ที่ รอบ 9,500 รอบ/นามี และ แรงบิด 35 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบ/นาที ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วนั้น เสียงที่เกิดขึ้นไม่ค่อยจะสร้างความเร้าใจให้กับอารมณ์ในการขับขี่มากเท่าไรนัก เพราะดูไม่น่าเกรงขามสักเท่าไร จากนั้น เราได้ทำการเริ่มทดสอบกัน โดยเริ่มออกตัว ก้านคลัชที่ให้มากับตัวรถ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ามันสั้นไปหน่อย ส่วนน้ำหนักของคลัชนั้นอยู่ในระดับกลางๆ ไม่หนักไป ไม่เบาไป และพอได้เข้าเกียร์ ก็พบว่าเกียร์นั้นนิ่มจนแทบไม่รู้สึกถึงการเข้าเกียร์ แต่พอสักพัก รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ขาซ้าย จากการเดินคอท่อผ่านโครงถัก ทำให้อาจจะต้องดับเครื่องหากต้องติดไฟแดงเป็นเวลานานๆ แต่ก็พร้อมจะกำคลัชและออกตัวได้ทันทีที่ติดเครื่องยนต์ สำหรับ เจ้า KTM Duke 390 คันนี้นั้น ดูจะเป็นรถที่ต้องเค้นกำลังในช่วงรอบสูงๆ เพราะรู้สึกว่าการขับขี่ในรอบความเร็วต่ำๆ โดยทั่วๆ ไปรู้ถึงเหมือนการขับขี่รถบ้าน อาจจะเป็นเพราะเครื่องยนต์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ในช่วงที่ผ่อนคันเร่งแล้วรอบเครื่องต่ำที่ระดับ 2,500 รอบตัวรถจะออกอาการกระตุกเล็กน้อย หากอยู่ในช่วงของเกียร์ที่รอบไม่มีความสัมพันธ์กัน หากใครที่ชอบรถที่มีสมรรถนะจัดจ้านที่แท้จริงของเครื่องยนต์ตัวนี้ อาจจะต้องเปิดคันเร่งกระแทกออกหนักๆ อาจจะต้องลากรอบเครื่องไปให้เกินกว่า 5000 รอบ จึงจะเริ่มสัมผัสได้ถึงสมรรถนะที่แตกต่างและเริ่มสนุกสนานกับกำลังของเครื่องยนต์ที่มีขนาด 373 ซีซีสำหรับเครื่องบล็อคนี้นี่เอง และเมื่อลากไปจนถึงประมาณรอบ 7,000 รอบ ซึ่งเป็นช่วงที่ Peak สุดของแรงบิด และจะเริ่มรู้สึกว่ารถมีอาการเริ่มตื้อนิดๆ จาก Torque ที่ดูจะเริ่มไต่ลง แต่ยังเป็นช่วงที่ทำให้เราสามารถฟินได้ เพราะในช่วงนี้รอบเครื่องจะตวัดขึ้นต่อเนื่อง จากแรงม้าที่มาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงรอบที่เป็นช่วงที่กำลังสูงสุดออกที่ราว 10,000 รอบ ซึ่งหากลากไปเกินกว่านี้ รถจะถูกทำการตัดรอบป้องกันการลากรอบสูงเกินไปทันที

KTMduke390-03

และจากการขับขี่ทดสอบโดยไล่มาตั้งแต่เกียร์ 1 และเปลี่ยนเกียร์ไปจนถึงช่วง Max สุดๆ ที่ราวๆ  9,500 รอบ สังเกตเห็นว่า อัตราเร่งในช่วย 0-100 กิโลเมตร/ชั่วดมง  พบว่าทำระยะเวลาอยู่ที่ราวๆ  6 วินาที ซึ่งดูแล้วน่าจะออกมาใกล้เคียงกับเจ้าค่ายยักษ์เขียว นั่นก็คือ เจ้า Kawasaki Ninja 300  แต่ในช่วยความเร็วที่ 130 กิโลเมตร / ชั่วโมง  หลังจากความเร็วที่ 130 แล้วรู้สึกว่าจะขยับขึ้นช้าลง  ไม่จัดจ้านเหมือนช่วงต้นๆ สำหรับ Top Seed นั้น เจ้า KTM Duke 390 น่าจะอยู่ที่ 170 กิโลเมตร / ชั่วโมง แต่การทดสอบเราพอถึงช่วง 166 กิโลเมตร / ชั่วโมง รอบเครื่องจะอยู่ที่ราวๆ  9,000 รอบนิดๆ สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่แสดงอยู่ที่หน้าจอ พบว่า ผลอยู่ที่ 22 กิโลเมตร / ชั่วโมงสำหรับการวิ่งระยะทางไกลๆ ก็จะทำระยะอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 30.3 กิโลเมตร

สรุปแล้ว กำลังของเครื่องยนต์และการใช้งาน ถือว่าจัดจ้านพอตัวถ้ามีการขับขี่และเล่นรอบเครื่องยนต์เป็น การขับขี่ในตัวเมืองนั้นก้พอมีช่อให้มุดได้เพราะตัวรถนั้นไม่ใหญ่มากนัก ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะขับขี่ไปไหนต่อไหน หลบหลีกได้ง่าย เนื่องจากน้ำหนักตัวเบาและตัวถังน้ำมันที่กระชับเข้ากับต้นขา  แต่สำหรับเครื่องยนต์สูบเดียวถ้าขับขี่ในรอบเครื่องสูงๆ แล้วอาจจะมีอาการสั่นๆ ให้เห็นกันบ้าง อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการขับขี่รถที่มีความเร็วสูงเกินไป

KTMduke390-04

Duke 390 นั่น ถือว่า เป็นรถมอเตอร์ไซค์ BigBike ที่มีเครื่องยนต์แรงที่สุดในรุ่นของ Duke ที่จัดอยู่ในบอดี้ไซส์เล็กๆ นี้ โดยเจ้าคันนี้มีน้ำหนักเบาแค่เพียง 139 กิโลกรัม แบบ Dry Weight  ซึ่งถ้าเทียบกับ เจ้า KTM Duke 200 แล้ว มีน้ำหนักเพียง  10 กิโลกรัมเท่านั้น สำหรับความสูงของเบาะนั่งนั้น มีขนาดความสูงเท่ากับ เจ้า KTM Duke 200 ที่ 800 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยมีสิ่งที่แตกต่างกัน ก็คือลายของสติกเกอร์ที่ออกแบบมาใหม่ ให้ดูเข้ากับสีล้ออัลลอยสีส้ม และตัวบล็อคเครื่องยนต์ที่ดูจะเต็มเฟรมกว่าตัว KTM Duke 200  และด้วยการที่มันจัดมาเข้ารูปแบบเต็มตานี่เอง ทำให้บริเวณคอท่อ ด้านซ้ายจึงต้องทำให้ดูหลบๆ เข้าไปนิดหน่อย เพื่อให้พ้นจากตัวเฟรมถักสีส้ม ที่เข้ากันอย่างลงตัวนั่นเอง

ต่อกันเลยกับสวิทช์แฮนด์ฝั่งซ้ายที่มีไฟ Pass ให้ได้ใช้ ด้านขวามีเพียง Switch Off-Run และสตาร์ทเครื่องยนต์ มามองกันต่อที่หน้าปัด  ให้เรือนไมล์มาแบบดิจิตอล  ที่มาตรวัตความเร็วเป็นตัวเลข และรอบเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้เป็นแถบวิ่งอยู่ระดับแนวนอนด้านบน  ซึ่งลักษณะและจุดเด่นตรงไฟบอกตำแหน่งของเกียร์นี่แหละ ที่เป็นตัวเลขบอกตำแหน่ง ตั้งแต่ 0-6 นับจากด้านซ้ายบน ถัดลงมานั้น ก็จะบอกรอบเครื่องยนต์ นอกนั้นก็จะเป็น การวัดสำหรับการออกทริป  A,B เพื่อบอกถึงอัตราระยะทางการสิ้นเปลือง นอกจากนี้แล้ว ยังมีเซ็นเซอร์สำหรับบอกตำแหน่งของขาตั้งด้วยว่า Side Stand Down เมื่อตั้งขาตั้ง ต่อมาสำหรับปุ่มกด ด้านซ้าย Mode และ Set นั้นจะค่อนข้างแข็ง ดูแล้วถ้าจะกดลำบากไปสักนิด  เจ้า Duke 390 ที่ใช้สำหรับการกดเปิดและปิดระบบ ABS

เรามาต่อกันที่ระบบกันสะเทือนของเจ้า KTM DUKE 390 นั้น ได้เลือกใช้แกนโช๊คหน้าแบบ UpSideDown หรือว่าโช๊คหน้าแบบหัวกลับ ขนาด 43 มม. และโช๊คกันสะเทือนหลังเป็นแบบ Monoshock จาก WP สำหรับยางนั้น เลือกใช้ยางเป็นของ Metzeler Sportec M5 ล้อหลังให้มาขนาดใหญ่เต็มซุ้มขนาด 150 มม. และด้านหน้าขนาด 110 มม. ซึ่งด้วยขนาดของมันทำให้มันดูเป็นรถที่แรงเกินกว่ารถบ้านๆ ทั่วไป จากขนาดล้อที่ใหญ่ๆ ไม่ค่อยจะสมส่วนกับตัวรถสไตล์ Motard และไม่ย้วยจนเกินไปแบบรถ Enduro สามารถขี่ผ่านถนนขรุขระ หรือทางที่ไม่ดีดจนเกินไป แต่ในความเร็วสูงจะรู้สึกว่ารถยังไม่เกาะถนนดีพอ มีอาการหน้าไวและส่าย ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากตัวรถที่ค่อนข้างสูง ทำให้น่านั่งมีลมปะทะค่อนข้างมาก

สุดท้ายคือระบบเบรก ที่ใช้ดิสก์เบรกหน้าแบบเดี่ยวขนาด 300 มม. พร้อมคาลิปเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ และด้านหลังขนาด 230 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ จาก Bybre ซึ่งเป็นเบรกคุณภาพสำหรับรถเล็กที่ผลิตโดยแบรนด์ดังอย่าง Brembo ซึ่งการตอบสนองตอนเบรก โดยเฉพาะเบรกหลังที่ทำได้เร็วและฉับไว จนรู้สึกว่าไวไปนิด และลงน้ำหนักได้หนักแน่น แต่ดูจะไม่คม เหมือนเบรก Brembo ตัวจริงเสียงจริงที่เคยสัมผัสนัก ถ้าหากเล่นเบรกหนักๆ หรือ ขี่แบบเน้นสมรรถนะ มันจะออกแนว ด้านๆ ทื่อๆ ในจังหวะสุดท้าย และมีอาการไถลออกให้เห็นบ้างในจังหวะที่ ABS ทำงาน

สำหรับ RC 390 นั้นก็มีสเปคที่เหมือนกับ DUKE เลยเพราะใช้โครงและพื้นฐานเครือ่งแบบเดียวกัน แต่แตกต่างตรงที่มีแฟร์ริ่งและฉอนด์นั้นเป็นแบบก้มต่ำจับโช๊คตามสไตล์เรซซิ่งนั่นเอง ซึ่งราคาในตอนนี้นั้นปรับมาอยู่ที่ DUKE 390 เพียง 199,900 บาท และ RC 390 เพียง 209,900 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าชนกับพวกคู่แข่งในค่ายญี่ปุ่นอย่าง Z300, MT-03, CB300F รวมไปถึง Ninja300, R3 และ CBR300R แบบเต็มๆ เพราะราคานั้นสูสีกันมากๆ แต่ว่า KTM นั้นให้เครือ่งยนต์ที่ขนาดใหญ่โตกว่าอยู๋เยอะเลยทีเดียวและยังมีดีกรีความเป็นรถยุโรปพ่วงติดตัวมาแต่กำเนิด อย่างนี้ถือว่าน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วงชิงพื้นที่ตลาดไปได้ขนาดไหนกัน

ขอบคุณภาพจาก ktmduke390forum.com asphaltandrubber.com motorcycle.com autohug.com maxabout.com