เปิดตัว KTM 250 Adventure 2025 รุ่นปรับปรุงใหม่
ดูเหมือนว่า KTM กำลังจะมีทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคในกลุ่มแอดแวนเจอร์คลาสเริ่มต้น หลังจากเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ของ 250 Adventure ที่พัฒนาอยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ จะเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ไม่น้อย และเราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนมาให้เพื่อนๆ ได้รับทราบกัน
อาจจะดูไม่ค่อนประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ กับการเปิดตัว KTM 390 Adventure โดยตัวรถมักจะถูกค่อนแคะว่าเป็นลูกครึ่งที่อยู่ระหว่างเครื่องยนต์ความจุเล็กก็ไม่ใช่ ใหญ่ก็ไม่เชิง และยังถูกปรามาทว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูไม่ค่อยจริงจังกับการทำตลาดในกลุ่มผู้ใช้งานเริ่มต้นสักเท่าไหร่ และทาง KTM ก็เปิดตัว 250 Adventure ในตลาดสากล แต่ก็ไม่วายโดยปรามาทหนักกว่าเดิม เพราะเหมือนเป็นการลดสเปก และตัดทอนบางส่วนของ 390 Adventure เพื่อให้มีจำหน่ายเท่านั้น และตัวรถเองก็มีมาตรฐานที่อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้งานมากเท่าไหร่ ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในวงกว้างเท่าที่ควร
แต่ล่าสุด KTM ก็เปิดตัว 250 Adventure รุ่นปรับปรุงใหม่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของตัวรถใหม่ ให้มีความใกล้เคียงกับ 390 Adventure มากขึ้น โดยมาพร้อมกับโครงสร้างแบบ Split-Trellis และซับเฟรมแบบแยกส่วนที่ตรงกัน อีกทั้งตัวถังทั้งหมดยังคล้ายกับรุ่นพี่เป็นอย่างมาก ที่ดูจะต่างออกไป คือการออกแบบชุดไฟหน้า ที่จะวางโคมไฟแบบคู่เหมือนกัน แต่จะวางในลักษณะเรียงกันเป็นแนวตั้ง ซึ่งต่างจาก 390 Adventure อยู่พอสมควร
ในด้านขุมกำลังนั้น จะเป็นเครื่องยนต์สูบเดียว DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว ความจุ 249.07 ซีซี ซึ่งเป็นขุมกำลังที่ยกมาจาก KTM 250 Duke รุ่นล่าสุด ที่มีรากฐานมาจากเครื่องยนต์ชุดเดิมของตัวรถ เครื่องยนต์ชุดนี้ จะสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ 30.6 แรงม้า (bhp) พร้อมกับแรงบิด 25 นิวตันเมตร ซึ่งจะมีกำลังที่สูงกว่าคู่แข่งอย่าง Honda CRF300L Rally ที่มีกำลังสูงสุด 26.6 แรงม้า (bhp)
ระบบช่วงล่างของ 250 Adventure จะเลือกใช้งานโช้คอัพจากแบรนด์ WP ที่เป็นบริษัทในเครือ จะเป็นโช้ครุ่น Apex ที่ด้านหน้าจะเป็นแบบหัวกลับขนาด 43 มิลลิเมตร โดยที่จะมีจุดเด่นที่โช้คอัพเดี่ยวด้านหลัง ที่สามารถปรับระดับได้ถึง 10 ระดับ พร้อมกับระยะยุบตัว 250 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบเบรกนั้นจะเลือกใช้งานระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 320 มิลลิเมตร ด้านหลังขนาด 240 มิลลิเมตร พร้อมรับ ABS แบบ Dual-Channel อีกทั้งยังมาพร้อมกับขอบล้อขนาดไม่เท่ากัน โดยที่ด้านหน้าจะมีขอบล้อขนาด 19 นิ้ว ส่วนด้านหลังขนาด 17 นิ้ว
ในส่วนของอุปกรณ์บนตัวรถนั้น จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ที่มีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และยังสามารถเข้าถึงการนำทางได้ผ่านแอปพลิเคชั่น ระบบคันเร่งไฟฟ้าที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่แบบ Off-Raod ที่สามารถปิดการทำงานระบบ ABS ที่ล้อหลังได้
ยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนี้ คาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในเดือนมีนาคม โดยจะเปิดจำหน่ายในประเทศอินเดีย เป็นที่แรก ก่อนจะขยายไปยังตลาดในภูมิภาคต่างๆทั่วโลกภายในปีนี้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rushlane.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.