Kymco ประกาศไลน์อัพใหม่เตรียมเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
ในปี 2021 Kymco แบรนด์ผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์สัญชาติไต้หวัน เตรียมยกทัพรถสกู๊ตเตอร์หลากหลายรุ่นสำหรับการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งสิ้นถึง 10 โมเดลทั้งเก่าและใหม่ โดยมีโมเดลใหม่เอี่ยมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโมเดลพลังงานไฟฟ้า 100% ที่กำลังจะนำเข้าไปทำตลาดนอกไต้หวันเป็นครั้งแรกอีกด้วย
2021 Kymco F9
มาดูโมเดลแรกก็น่าสนใจแล้วเพราะมันคือโมเดลพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีการออกแบบที่เฉียบคม ออกไปทางสปอร์ต ที่ไม่ใช่จะสวยงามแต่เพียงรูปร่างหน้าตาของมัน แต่ตัวรถยังมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 12.7 แรงม้า (PS) เทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปขนาด 150 ซีซี โดยมีความสามารถเร่งความเร็วสูงสุด ได้ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่งจาก 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3 วินาที คล่องแคล่วด้วยน้ำหนักตัวเพียง 107 กิโลกรัม ด้วยแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ สามารถวิ่งทำระยะได้สูงสุด 120 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งรอบ และมีความสามารถในการประจุไฟจาก 0-100% ในเวลา 2 ชั่วโมงบนสถานีที่รองรับระบบ Fast Charge
2021 Kymco CV3
มาถึงโมเดลสามล้อคันแรกของทางค่ายกันบ้าง สำหรับเจ้า CV3 ที่เคยเป็นรถแนวคิดในปี 2017 จนล่าสุดเข้าสู่รถ Production พร้อมจำหน่ายแล้ว โดยจุดเด่นของโมเดลจะอยู่ที่ล้อหน้าแบบคู่ขนาด 13 นิ้ว พร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบหัวกลับคู่ ที่สามารถปรับเอียงแบบขนานกันไปมาได้ เหมือนกับ Yamaha Niken แต่เจ้า CV3 นั้นจะเป็นสกู๊ตเตอร์ ที่มาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 550.4 ซีซี 2 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 51.7 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 5.4 Kg-M โดยที่เจ้า CV3 ยังไม่มีการกำหนดวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น
2021 Kymco DT X360
มาถึงรถในแนว Crossover กับเจ้า DT X360 ที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบ SUV พร้อมลุยทางฝุ่น ด้วยวงล้อหน้าขนาด 14 นิ้ว ด้านหลัง 13 นิ้ว ใต้เบาะนั่งมีช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่สามารถใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ครั้งล่ะสองใบ ช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB-A ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบไม่ใช้กุญแจ พร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 320.64 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 28.8 แรงม้า (PS) ที่ 7,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 5.4 Kg-M ถังน้ำมันจุได้ 12.5 ลิตร พร้อมน้ำหนักตัวแบบพร้อมขี่ที่ 194 กิโลกรัม และมีระบบช่วยเหลืออย่าง Traction Control ที่สามารถเปิดหรือปิดการทำงานได้อย่างอิสระ
2021 Kymco KRV
โมเดลสกู๊ตเตอร์ในคลาส 175 ซีซี รุ่นเรือธงของทางค่าย หลังจากการพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ ด้วยขุมกำลังขนาด 175.1 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่สามารถให้กำลังสูงสุด 16.7 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 1.5 Kg-M ถังน้ำมัน 7.2 ลิตร น้ำหนักตัวพร้อมขี่ 133.5 กิโลกรัม โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ระบบไฟ LED รอบคัน หน้าจอแสดงผล LCD สี พร้อมช่องชาร์จไฟแบบ USB-A กล่องเก็บสัมภาระใต้เบาะนั่งขนาดใหญ่ และระบบสวิงอาร์มแบบ independent swing arm ที่สามารถปรับความสมดุลย์ระหว่างส่วนหน้าและส่วนหลังของตัวรถได้
2021 Kymco AK550
โมเดลยอดนิยมของทางค่าย ที่เป็นโมเดลสปอร์ตทัวร์ริ่งที่ชัดเจนในเรื่องของขุมกำลัง ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 550.4 ซีซี 2 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 53.5 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 5.6 Kg-M ถังน้ำมันขนาด 15 ลิตร น้ำหนักตัวพร้อมขี่ที่ 226 กิโลกรัม โดยโฉมสำหรับปี 2021 นั้นมีการปรับปรุงเรื่องของระบบไฟใหม่ ให้เป็นแบบ LED พร้อมด้วยระบบเบรกหน้าแบบดิสก์คู่และระบบ ABS ตัวรถยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ LCD สีใหม่ และช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB-C และ USB-A อย่างล่ะช่อง ที่ช่องเก็บของด้านหน้า และกล่องสัมภาระใต้เบาะนั่ง สนนราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นที่ 1.1 ล้านเยน หรือประมาณ 311,433 บาท
2021 Kymco G Dink 250i
อีกหนึ่งโมเดลยอดนิยมในคลาส 250 ซีซี กับเจ้า G Dink 250i ที่พัฒนาใหม่ด้วยขุมกำลังขนาด 249 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 19.9 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 2.1 Kg-M ถังน้ำมันจุได้ 9 ลิตร น้ำหนักตัว 182 กิโลกรัมแบบพร้อมขี่ โดยที่ตัวรถจะเน้นการนั่งที่สบายด้วยความสูงของเบาะนั่งที่สูงเพียง 770 มิลลิเมตร พร้อมด้วยพื้นที่วางเท้าที่กว้างเป็นพิเศษ รองรับการวางตำแหน่งเท้าที่หลากหลาย และสะดวกสบายด้วยช่องเสียบชาร์จไฟแบบ Socket 12V ที่ใต้เบาะนั่งและ USB-A ที่ช่องเก็บของด้านหน้ารถ
2021 Kymco Racing S
โมเดลในคลาสเริ่มต้นที่มีให้เลือกกันถึง 2 ขนาดเครื่องยนต์ ทั้งขนาด 125 ซีซี และ 150 ซีซี โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบ Underbone น้ำหนักเบา พร้อมด้วยจุดเด่นของเครื่องยนต์ที่มีการติดตั้งระบบวาล์วแปรผันที่จะเริ่มต้นการทำงานในย่านความเร็ว 6,500 รอบต่อนาทีขึ้นไป โดยที่ราคาจำหน่ายในรุ่น 125 ซีซี นั้นจะอยู่ที่ 304,700 เยน (86,265 บาท) และรุ่น 150 ซีซี ราคา 341,000 เยน (96,543 บาท)
2021 Kymco Tarserie S
ยังคงอยู่กับสกู๊ตเตอร์ในคลาสเริ่มต้นของทางค่าย โดยเจ้า Tarserie S จะมีขนาดเครื่องยนต์ให้เลือกใช้งานกันสองขนาดประกอบไปด้วย 125 ซีซี และ 150 ซีซี โดยที่จะเป็นเครื่องยนต์ SOHC 4 วาล์ว 1 ลูกสูบคนล่ะชุดกับเจ้า Racing S โดยที่ตัวรถ Tarserie S นั้นจะมีการติดตั้งชิลด์หน้าขนาดใหญ่พร้อมกับกล่องสัมภาระท้ายมาให้ และวงล้อหน้าจะมีขนาด 16 นิ้ว ด้านหลัง 14 นิ้ว ทำให้ความสูงของเบาะนั่งจะสูง 790 มิลลิเมตร และมีราคาจำหน่ายสำหรับรุ่น 150 ซีซี ในราคา 297,000 เยน (84,054 บาท) และรุ่น 125 ซีซี ราคา 275,000 เยน (77,836 บาท)
2021 Kymco Downtown 125i ABS
รุ่นอัพเกรดใหม่ที่มีการปรับเครื่องยนต์ 124.8 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงม้าสูงสุด 14.3 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 1.1 Kg-M ถังน้ำมัน 12.5 ลิตร น้ำหนักตัว 178 กิโลกรัม ความสูงเบาะนั่ง 810 มิลลิเมตร ตัวรถนั้นจะใช้โครงสร้างชุดเดียวกับทาง DT X360 แต่จะมีการปรับระยะฐานล้อที่ยาวกว่า ทำให้ได้พื้นที่ในช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะนั่งที่มากกว่า และมีความสามารถในการทรงตัวที่มากกว่า ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน และช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB-C อีก 2 ช่อง ราคาจำหน่ายที่ 528,000 เยน (149,432 บาท)
2021 Kymco GP125i
โมเดลสุดท้ายในพิกัด 125 ซีซี กับเจ้า GP125i ที่มาพร้อมกับขุมกำลัง 124.8 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะแบบ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศที่แสนเรียบง่าย ตัวรถให้กำลังสูงสุด 8.8 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 0.9 Kg-M น้ำหนักตัวพร้อมขี่เพียง 106 กิโลกรัม วงล้อหน้าหลังขนาด 10 นิ้ว พร้อมช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะนั่งที่มีช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB-A อีก 1 ช่อง ราคาจำหน่าย 187,000 เยน (52,956 บาท)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.