Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

Marc Marquez ทดสอบ All New Honda CBR250RR แบบเต็มรูปแบบด้วยตัวเอง

marc-marquez-cbr250rr-1

ทางยอดนักบิดมากฝีมือที่เพิ่งจะคว้าแชมป์โลกในการแข่งขัน MotoGP คนล่าสุดอย่าง มาร์ก มาเกวซ ก็ได้เดินทางจาก Philip Island ประเทศออสเตรเลีย มาแวะที่ประเทศอินโดนีเซียเพื่อทำกิจกรรมกับทาง Honda โดยที่ไฮไลท์ในงานนี้ก็คือการได้ทดสอบการขับขี่ของเจ้า All New CBR250RR เป็นครั้งแรกในสนามแข่ง Sentul International Circuit อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทางสื่ออินโดนีเซีย อย่าง tmcblog.com มา ณ ที่นี้ด้วยสำหรับข้อมูลข่าวและภาพประกอบ เราลองไปดูบรรยากาศและผลการทดสอบด้วยกันเลยดีกว่าครับ

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/Coaching-clinic3.jpg

โดยที่วันแรกของมาเกวซกับที่อินโดนีเซียนั้นเป็นกิจกรรมต่างๆ ที่ทำร่วมกับทาง Astra Honda racing team หรือทีมแข่งขันจากค่ายฮอนด้าในประเทศอินโดนีเซียนั่นเอง ซึ่งมาเกวซเองนั้นได้ทำการโค้ชและมาแนะนำเทคนิคในการขับขี่ต่างๆ ให้กับทางเยาวชนดาวรุ่งของทีม ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการวิ่งในทางตรง การเข้าโค้ง หรือแม้แต่การวางตำแหน่งของร่างกายที่ดีที่สุดสำหรับการขับขี่ในแต่ละสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่แนะนำอย่างเดียวเท่านั้น แต่มาเกวซเองก็ได้สาธิตการขับขี่ พร้อมกับเปิดโอกาสให้กับบรรดานักบิดเยาวชนได้ขี่ตามไลน์กันในสนามเป็นการเรียนรู้แบบใกล้ชิดที่สุดด้วย ที่สนาม Iternational Track Sentul Circuit ใน โบกอร์ โดยรถที่ใช้นั้นเป็น CBR150R คันใหม่

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/Coaching-clinic7.jpg

และในวันต่อมาก็เป็นการทดสอบของมาเกวซกับเจ้า CBR250RR กันแบบเต็มๆ แล้ว ซึ่งวิ่งกันที่สนาม Sentul International Circuit ซึ่งจะวิ่งกันสองรอบสนามเต็มๆ ด้วยกัน และในงานนี้ก็ได้เปิดโอกาสให้กับทางสื่อท้องถิ่นของประเทศอินโดนีเซียได้เข้าร่วมทดสอบกันด้วย โดยผลการทดสอบที่ออกมาก็เป็นที่น่าพึงพอใจสมกับที่รอคอยโมเดลนี้กันมานานมากๆ เราเลยมีผลการทดสอบและสเปคที่น่าสนใจของโมเดลรุ่นนี้มาฝากกัน

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/Marc-Marquez-CBR250RR-3.jpg

ซึ่งสเปคอย่างเป็นทางการของ Honda CBR250RR นั้นมีเครื่องยนต์ขนาด 249.7cc DOHC แบบ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 36.8 ตัว ที่ 12,500 รอบต่อนาที ซึ่งถือว่ามากทีเดียวสำหรับรถใน cc ขนาดนี้ และทอร์คสูงสุดที่ 22.5 นิวตันเมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที ตรงนี้ชัดเจนว่าเป็นรถที่เน้นความแรงในช่วงความเร็วกลางถึงปลายแบบเต็มๆ ส่วนน้ำหนักสำหรับเวอน์ชั่นที่ไม่มี ABS นั้นจะอยู่ที่ 165 กก. ส่วนมี ABS จะอยู่ที่ 168 กก. มาพร้อมกับคันเร่งไฟฟ้าและโหมดในการขับขี่ที่เลือกได้ 3 โหมดด้วยกันคือ Comfort, Sport และ โหมด Sport +  โดยที่โหมด Comfort นั้นกำลังของตัวรถจะถูกดรอปลงมา ในขณะที่โหมด Sport และ Sport + จะเปิดกำลังให้มากที่สุดตามประสิทธิภาพของตัวรถเลย เพียงแต่ว่าโหมด Sport นั้นจะมีการไต่ความเร็วที่ราบลื่นนุ่มนวลกว่า แต่ Sport + จะอัดกันเต็มกำลังในแต่ละเกียร์เลย ซึ่งมันอาจจะไม่นุ่มนวลเท่าไหร่ แต่รับรองว่าฟีลลิ่งแบบรถที่แข่งกันในสนามมาเต็มอย่างแน่นอน สำหรับผลการทดสอบนั้น การเข้าโค้ง แบนโค้งทำได้อย่างมั่นใจ และศูนย์ถ่วงน้ำหนักรถนั้นวางมาได้ดี การคอนโทรลทำได้คล่องแคล่ว พลิกโค้งไว ช่วงล่างมีคาแรกเตอร์แบบรถสปอร์ตเต็มตัว ส่วนท็อปสปีดของ CBR250RR จะอยู่ที่ 170 กม./ชม. การไต่ความเร็วทำได้เป็นที่น่าพอใจมากๆ  และแน่นอนว่าหากเปิดตัวเวอร์ชั่น 300RR กันมา ท็อปสปีดจะมากกว่านี้อีกอย่างแน่นอน รอลุ้น CBR300R กันทั้งทางฝั่งยุโรปและเอเชียประเทศอื่นๆ รวมไปถึงประเทศไทยเรากันได้ในช่วงประมาณปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/Marc-Marquez-CBR250RR-2.jpg

http://i0.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/Marc-Marquez-CBR250RR-10.jpg

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก tmcblog.com