Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

NEW Ducati Monster 1200R 2016 เปิดตัวกันแล้ว (Specs Review)

38MONSTER1200R

หลังจากที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้มาเรื่อยๆ กับเจ้าบิ๊กไบค์รุ่นใหญ่อย่าง Ducati Monster 1200R 2016 ที่ทางค่ายออกมาให้ข้อมูลว่า มันจะเป็นรถเนกเกตที่แรงที่สุดจากทางค่าย ก็ได้สร้างความฮือฮากันสำหรับเหล่าไบค์เกอร์ทั่วโลก เพราะซีรี่ยส์มอนสเตอร์นั้น ถือได้ว่าเป็นโกบอลโมเดลที่มีชื่อเสียงมากๆ

และในงาน Frankfurt Motor Show (IAA 2015) ที่ผ่านมา ทางค่าย Ducati ก็ได้ฤกษ์งามยามดี เปิดตัวเจ้า Monster 1200R 2016 กันแล้ว โดยมาพร้อมกับสโลแกนสุดเท่ว่า “more Monster than ever” หรือ Monster ที่ดีที่สุดนั่นเอง ซึ่งสองสีที่นำมาเปิดตัวก็หนีไม่พ้นสีเก่งของทางค่ายอย่าง สีแดง ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ แบบมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นเจ้า Monster และก็สีดำ ที่เริ่มจะมาแรงเหมือนกันในช่วงหลังๆ

The new 2016 Ducati 1200R unveiled at the 2015 Frankfurt Motor Show (IAA)
ภาพในวินาทีที่ทำการเปิดตัวเจ้า Ducati Monster 1200R 2016

โดยรายละเอียดของ Ducati Monster 1200R 2016 นั้นจะมีขุมกำลังเครืองยนต์ที่ขนาด 1198.4 cc ให้แรงม้ามาที่ 160 ตัว ที่ 9,250 รอบ และให้ทอร์คมาที่ 131.4 Nm ที่ 7,750 รอบ เรียกได้ว่าบิดทีนี่หน้าหงายเอาได้ง่ายๆ เหมือนกันหากเปิดคันเร่งไม่ระวัง เครื่องยนต์เป็นแบบ 2 สูบ L-Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ซึ่งตรงนี้เองมีข้อมูลด้านประสิทธิภาพเปิดเผยมาว่า มันจะไต่ความเร็วตั้งแต่ 0 ถึง 100 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้น และ TOP SPEED นั้นสามารถทำความเร็วทะลุหลัก 250 กม./ชม. ได้อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอบหรือเค้นอะไรให้มากนัก (ซึ่ง top speed สูงสุดจริงๆ จะรายงานกันอีกที หลังจากมีการเทสรถกันเกิดขึ้น)

ขยับมาดูในส่วนของเฟรมกันบ้าง สำหรับเฟรมของเจ้าปีศาจยักษ์ตัวนี้ เลือกใช้งานแบบ  tubular steel Trellis frame หรือเฟรมแบบท่อ และตัวล้อรถเป็นแบบ Tri-W แม็กส์หน้ามีขนาด 3.50″ x 17″ และแม็กส์หลังมีขนาด 6.00″ x 17″ สำหรับยางรถนั้นทางค่ายเลือกใช้ยางชอง Pirelli รุ่น Diablo Supercorsa SP (ยางหน้าเบอร์ 120/70 ZR17 และยางหลังเบอร์ 200/55 ZR17)

ในเรื่องของระบบกันสะเทือนนั้นเจ้า new Monster 1200R เลือกใช้โช๊คของ Ohlins แบบปรับระยะพรีโหลดได้ ขนาด 48 mm แบบหัวกลับ (USD) สำหรับด้านหน้า และด้านหลังเป็นของ Ohlins เช่นเดียวกัน ในแบบของ Progressive link ที่ทำงานร่วมกับ single-sided swingarm (โปร์อาร์ม) ดูจากสเปคของช่วงล่างแล้ว ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

สำหรับระบบเบรกนั้น ด้านหน้าใช้ดิสก์เบรกคู่แบบ semi-floating เรเดียล เมาท์ ขนาด 330 mm ของ Brembo รุ่น Monobloc evo M50 แบบคาลิปเปอร์ 4 จุด ส่วนเบรกหลังนั้นเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 245 mm แบบคาลิปเปอร์ 1 จุด และแน่นอนว่ามันเป็นระบบเบรกแบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง

โดยในตัวของ new Monster 1200R  นั้นได้ติดตั้งระบบ Ducati Traction Control (DTC) หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรีมาให้ด้วย โดยสามารถปรับได้ทั้งหมด 8 ระดับ และจะมีโหมดให้เลือกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 หมวดก็คือแบบ Urban ที่เน้นการขับขี่ในเมือง, แบบ Adventure ที่เอาไว้ใช้วิ่งออกทริปไกลๆ และสุดท้ายแบบ Sport ที่เอาไว้ซํดกันในสนาม หรือว่าทางโล่งๆ โดยแต่ละแบบนั้นจะมีการกำหนดแรงม้า และทอร์ค รวมไปถึงระดับในการทำงานของเบรก ABS ที่แตกต่างกันนั่นเอง

ในส่วนของกำหนดการวางจำหน่ายคร่าวๆ นั้นก็จะอยู่ในช่วงปลายปีนี้ แต่ราคายังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา ซึ่งทางเรากำลังติดตามข่าวตรงนี้อย่างใกล้ชิด หากว่ามีความคืบหน้าก็จะรายงานกันอย่างต่อเนื่อง แต่เรียกได้ว่ามันเป็นเจ้า Monster ที่น่าใช้งานมากๆ ที่สุด อาจจะเท่าที่มีมาเลยก็เป็นได้ ใครสนใจรอรุ่นนี้อยู่ก็เตรียมตัวเก็บตังค์กันไว้ได้เลย


CREDIT ขอบคุณภาพประกอบจาก motorcyclenews.com indianautosblog.com

ดูภาพหลุดบิ๊กไบค์ล่าสุดกันได้ คลิกที่นี่เลย