เปิดตัว New Honda CRF1100L Africa Twin รุ่น 2024 เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ อย่างเป็นทางการ
เป็นการอัปเดทอีกครั้งของพี่ใหญ่สายลุย สำหรับ Honda CRF1100L Africa Twin ปี 2024 ที่มีการอัพเดทใหม่ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงการเพิ่มเติมสีสันใหม่เท่านั้น แต่มีการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม
แม้ว่าตัวรถ Honda CRF1100L Africa Twin ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา จะถึงว่าเป็นโมเดลที่ยังคงมีความสดใหม่อย่างมาก แต่ในเวอร์ชั่นสำหรับปี 2024 ก็มีการอัปเดทครั้งใหม่ ที่เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ให้ก้าวไปสู่อีกระดับ โดยหัวใจหลักของการอัปเดทในปีนี้คือการปรับปรุงเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น เพื่อลดภาระในการขับขี่และให้สมรรถนะในการขับขี่ที่เพิ่มมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการแยกรุ่นให้สอดคล้องกับการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
Honda CRF1100L Africa Twin Adventure Sports ES 2024
สิ่งแรกที่เราจะนำเสนอก็คือการแบ่งรุ่นใหม่ โดยในปี 2024 จะมีการแยกรุ่นออนโรด และออฟโรด ออกจากกันอย่างชัดเจน โดยรุ่นใหม่ในปีนี้ ก็คือ CRF1100L Africa Twin Adventure Sports ES ที่จะมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เน้นการใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก โดยจะมาพร้อมกับขอบล้อแบบซี่ลวดขนาด 19 นิ้วที่ด้านหน้า และขอบล้อขนาด 18 นิ้วที่ด้านหลัง พร้อมกับการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์โดยการเปลี่ยนรูปร่างของฝาครอบกลางด้านบน เบาะนั่งปรับได้ 2 ระดับ โดยจะมีความสูง 820 มิลลิเมตร และ 840 มิลลิเมตร เป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากขึ้น
ในขณะที่การอัปเดทใหม่นอกเหนือจากการแบ่งแยกรุ่นที่ชัดเจนกว่าเดิม หัวใจของตัวรถก็คือขุมกำลังนั้น ก็มีการอัปเดทใหม่ โดยมีการปรับอัตราส่วนกำลังอัดใหม่ โดยเปลี่ยนจาก 10.1 เป็น 10.5 ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการปรับจังหวะวาล์วใหม่ และการขยายท่อไอดีจากเดิมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ 29 มิลลิเมตร เป็น 35 มิลลิเมตร รวมไปถึงการปรับจูนค่า ECU ใหม่ ทำให้ได้แรงบิดที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 10.7kg-m ไปเป็น 11.4kg-m.มีอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น 6.5% และยังมีการใช้รอบเครื่องยนต์ที่ลดลงจากเดิม 6,250 รอบต่อนาทีเป็น 5,500 รอบต่อนาที ทำให้ได้อัตราแรงบิดที่รวดเร็วและทรงพลังกว่าเดิม
ในขณะที่ระบบเกียร์ DCT ที่เป็นจุดขายของโมเดลนั้น จะยังคงอยู่ต่อไป อีกทั้งรุ่นมาตรฐาน และรุ่น Adventure Sports ES จะมีตัวเลือกทั้งระบบเกียร์แบบ DCT และ MT โดยที่ชุดเกียร์ แบบ DCT นั้นจะมีการใช้การอัปเดตการควบคุมเพื่อปรับปรุงคุณลักษณะการออกตัวและความสามารถในการควบคุมในช่วงความเร็วที่ต่ำมาก ดูเหมือนว่าจะช่วยแก้ปัญหาการออกตัวให้เป็นธรรมชาติมากขึ้นและลดการสวิงของคันเร่งในจังหวะที่เลี้ยวในความเร็วต่ำ
นอกจากนี้ตัวแฟร์ริ่งของรถนั้น จะมีการปรับวัสดุใหม่ โดยใช้วัสดุ DURABIO ซึ่งเป็นพลาสติกชีวภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชิลด์หน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ อีกทั้งยังมีการอัปเกรดหน้าจอสี TFT ใหม่ให้มีความสามารถในการปรับค่าความสว่างได้ 5 ระดับ ไฟเลี้ยวอัตโนมัติ 3 จังหวะ และมีแผ่นกันกระแทกใหม่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม อีกทั้งยังมีการเพิ่มอุปกรณ์ออนบอร์ด ETC2.0 ที่ทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่สะดวกสบายกว่าเดิม
ในขณะที่ตัวเลือกสีนั้น จะยังคงใช้ 2 สีเดิมจากรุ่นก่อนหน้า แต่มีการปรับปรุงในส่วนของลวดลายกราฟฟิกบนตัวถังใหม่ โดยจะมีตัวเลือกสีที่ประกอบไปด้วยสี Grand Prix Red และสี Pearl Glare White โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,749,000 เยน หรือประมาณ 421,790 บาท สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และราคา 1,947,000 เยนหรือประมาณ 469,560 บาท สำหรับรุ่นเกียร์ DCT
ในส่วนของตลาดประเทศไทยนั้นคาดว่า จะมีการนำเอา New Honda CRF1100L Africa Twin รุ่น 2024 เข้ามาจำหน่ายอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าการจำหน่ายนั้น จะมีตัวเลือกเพียง 2 รุ่นคือ CRF1100L Africa Twin รุ่น มาตรฐาน ที่จะมาพร้อมกับชุดเกียร์แบบ MT และรุ่น Adventure Sports ที่มีการติดตั้งชุดเกียร์ DCT ซึ่งการอัปเดทจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดนั้น ต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.