รีวิว New Honda CT125 ทดสอบขับขี่จริง!
หลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวกันไปแล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทาง A.P. Honda ก็ได้จัดให้มีการ Test Ride New CT125 สำหรับสื่อมวลชน โดยจัดให้มีทั้งหมด 3 รอบ เพื่อป้องกันปัญหาการแออัดเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 โดยในแต่ละรอบ จะมีสื่อมวลชนเข้าร่วมประมาณ 30 คน สลับกันรอบละ 5 คน ซึ่งทาง GreatBiker เองก็ไม่รอช้า ขอเข้าร่วมการทดสอบขับขี่ในครั้งนี้ด้วย
สำหรับ New Honda CT125 นั้นเป็นรถในแนว Cross Over ซึ่งรถตระกูล CT ถือว่ามีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ซึ่งรุ่นใหม่ในคลาส 125 นั้นจะมาพร้อมกับดีไซน์ของท่อไอเสียแบบยกสูงจากพื้น ป้องกันการกระแทกกับอุปสรรคบนพื้นถนนแบบแนวออฟโร้ด ไฟหน้านั้นจะเป็นทรงกลมแบบ LED แฮนด์บาร์ยกสูงขึ้นมาเพื่อให้การขับขี่นั้นสามารถยืนระยะทางไกลๆ ได้อย่างไม่เมื่อยแขน ยางรถนั้นจะมาเป็นแบบวิบากเต็มตัว พร้อมกับล้อแบบซี่ลวดตามแนวทางของรถประเภทนี้โดยสเปคของเครื่องยนต์นั้นจะมาในขนาด 124.8 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ ให้แรงม้าสูงสุดที่ 9.5 แรงม้า (BHP) แรงบิดสูงสุด 10.4 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 4 สปีด
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นแบบเทเลสโคปิก ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบคอยล์สปริงคู่ โดยที่โครงสร้างหลักของตัวรถนั้นจะเป็นวัสดุ Pressed-Steel Chassis และเสริมความแข็งแรงด้วยชุด Cash Bar ในขณะที่ระบบเบรกนั้นจะเป็นดิสก์ทั้งหน้าและหลัง ทำงานร่วมกับ ABS สำหรับด้านหน้า เบาะนั่งจะมาเป็นแบบ 2 ตอน เบาะนั่งแยกกัน สามารถถอดเบาะคนซ้อนออกเพื่อทำเป็นแรคสำหรับขนสัมภาระได้ รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ในตัวรถ ที่จะเน้นการใช้งานสำหรับการขับขี่ที่ลุยทางฝุ่นทางดินได้เป็นอย่างดี ทำให้ดีไซน์ของตัวรถที่จะออกมานั้น ดูลงตัวและเป็นเอกลักษณ์เอามากๆ แนวทางของตัวรถนั้นจะเหมาะทั้งสำหรับการใช้งานในเมือง และสามารถเดินทางออกไปสัมผัสธรรมชาติต่างๆ ในเส้นทางที่แตกต่างออกไปจากถนนปกติ ด้วยคาแรกเตอร์ของตัวรถที่พร้อมรองรับกับการเดินทางไปทำกิจกรรมเอาท์ดอร์อย่างเต็มตัว
จากการพบเห็นตัวรถจริงๆ ในครัังแรกนั้น ค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว ตัวรถดูมีที่ขนาดใหญ่กว่าที่ดูในรูปหรือวิดีโอ วัสดุในการประกอบ และรายละเอียดต่างๆ ของตัวรถนั้น ทำได้แข็งแรงดี เหมาะต่อการนำไปลุยตามพื้นที่ต่างๆ ในเส้นทางแบบไม่ปกติตามคอนเซ็ปท์ของตัวรถ หลังจากนั้นได้มีโอกาสเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด เริ่มจากชุดไฟส่องสว่างที่เป็นแบบ Full LED รอบคัน ในส่วนของไฟหน้าและไฟหลังค่อนข้างเห็นได้อย่างเด่นชัดรวมทั้งเดย์ไลท์ด้วย และส่วนของเรือนไมล์เป็นแบบทรงกลม ดิจิตอลเต็มรูปแบบ หน้าจอส่วนบนสุดเป็นระดับน้ำมันตรงกลางเป็นมาตรวัดความเร็ว พร้อมมาตรวัด Trip A/B ส่วนล่างสุดก็เป็นสถานะต่างๆ เริ่มจากด้านซ้าย ไฟ ABS ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟสถานะเครื่องยนต์ ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ว่าง
ส่วนของท่อไอเสียและกรองอากาศนั้นจะเป็นแบบยกสูง ตามแบบฉบับของ CT SERIES ที่เน้นลุยได้ทุกที่แม้แต่ที่มีน้ำขังรอระบาย หรือแม้แต่ข้ามแอ่งน้ำหรือลำธารในการลุยป่า อีกจุดนึงที่เด่นชัดคือเบาะนั่งแบบตอนเดียวพร้อมแร็กวางของขนาดใหญ่ด้านหลัง ที่เป็นไปตามคอนเซ็บตั้งแต่เดิมเน้นเอกลักษณ์การขับขี่แบบ SINGLE RIDING “ขับคนละคันมันส์กว่า”
ในการทดสอบขับขี่จริง ส่วนของเครื่องยนต์ที่มีขนาด 125cc นั้น บางคนอาจจะดูว่าน้อย แต่จริงๆ แล้วเพียงพอสำหรับขนาดของรถ โดยในส่วนของอัตราเร่งที่ได้ปรับแต่งเข้ามาให้รอบจัดขึ้น การออกตัวทำได้ดุดันบิดเป็นมา และยังขับสบายในทางที่เป็นเนิน หรือขึ้นสะพาน แต่ในส่วนของท็อปสปีดนั้นยังไม่ได้ทดสอบ เนื่องจากสนามที่จัดเป็นรอบเล็กๆ ยังไม่มีโอกาสได้ทำความเร็วเท่าไหร่ ใช้ได้ประมาณเกียร์ 1 และเกียร์ 2 เป็นหลัก ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเกียร์วน 4 ระดับแบบไม่มีคลัทช์มือ ส่วนของระบบเบรกนั้นให้ดิกส์เบรกมาทั้งหน้าและหลัง โดยด้านหน้ายังมี ABS เพิ่มมาให้อีก กำลังเครื่องกับระบบเบรกขนาดนี้เหลือๆ แม้แต่การขับลงเขา
ส่วนของระบบกันสะเทือนหน้าที่ให้ช่วงยุบมาถึง 110 มม. พร้อมยางกันฝุ่นหุ้มโช้ค ทำให้สามารถลุยได้มากขึ้น เข้ากับสไตล์รถเป็นอย่างมาก และหลังช่วงยุบ 70 มม. โดยส่วนตัวหลังจากทดสอบแล้ว การรองรับแรงกระแทกทำได้ดีเลยทีเดียว ทำให้การขับขี่นั้นมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการ์ดกันกระแทกเครื่องยนต์ ที่ออกแบบเพื่อการลุยโดยเฉพาะ ซึ่งตรงนี้เองเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ในการขับขี่เส้นทางธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะพบเจอกับอะไรบ้าง ท่านั่งในการขับขี่ก็ออกแบบมาค่อนข้างสบาย จะนั่งขี่หรือว่ายืนขี่ก็วางท่าได้อย่างลงตัว
ภาพรวมของตัวรถนั้นก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับคนที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนที่ชอบขี่ไปยังเส้นนอกเส้นทางปกติ ทางฝุ่น ทางดิน แม้ว่ามันจะไม่ได้ถึงกับเป็นรถแบบวิบากอย่างเต็มตัว แต่ก็ถือว่าลุยได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และความเอนกประสงค์อีกอย่างของมันก็คือ ตัวรถนั้นยังสามารถใช้งานในเมืองได้แบบสบายๆ อีกด้วย จากความกระชับ ความคล่องตัว
สำหรับรุ่นมาตรฐาน มีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ สีแดงโกลวิงเร้ด และสีน้ำตาลแมทเฟรซโก้บราวน์ ราคาแนะนำเพียง 84,900 บาท ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังเพิ่มความพิเศษด้วยเวอร์ชั่นแต่งเต็มขั้น ด้วยชุดแต่ง H2C จากฮอนด้า มีให้เลือก 2 สไตล์ ได้แก่ City Trail สีแดงโกลวิงเร้ด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน ราคาแนะนำ 95,900 บาท และ Country Trekking สีน้ำตาลแมทเฟรซโก้บราวน์ มีจำนวนจำกัดเพียง 50 คัน ราคาแนะนำ 108,900 บาท วางจำหน่ายเฉพาะที่ CUB House ร้านไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ทุกสาขาทั่วประเทศ
พบกับข้อเสนอพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว
1. ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.59% เท่านั้น สำหรับ New Honda CT125 ทุกรุ่น
2. พิเศษเมื่อซื้อรุ่นแต่ง City Trail และ Country Trekking ที่ร้าน CUB House ทุกสาขา รับทันทีหมวกกันน็อก Bell Helmet Custom 500 Series พร้อมด้วยประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปี (เมื่อซื้อตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2563)
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience