รีวิว New Honda Forza 350 RoadSync เต็มรูปแบบ วัดกันไปเลย ว่าน่าซื้อไหม?!
เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวนะครับ สำหรับการเปิดตัว New Honda Forza 350 RoadSync รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะว่าสงครามรถสกู๊ตเตอร์ในบ้านเรานั้น ถือว่าร้อนแรงและดุเดือดเอามากๆ และขึ้นชื่อว่า Honda ก็ย่อมที่จะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ในตัว ครั้งนี้ทางทีมงาน GreatBiker จะพาเพื่อนๆ ไปชมการรีวิวทดสอบตัวรถรุ่นนี้ แบบจัดหนักจัดเต็มด้วยกันเลย ว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้าง น่าซื้อไหม?
New Honda Forza 350 RoadSync นั้น มาพร้อมกับสโลแกน “ONLY FOR THE GREATEST” หรือในเวอร์ชั่นภาษาไทยว่า “เพราะที่สุด มีเพียงหนึ่งเดียว” ทำไมทางค่ายปีกนก ถึงมั่นใจและกล้าใช้สโลแกนนี้ เราลองไปดูกัน
New Honda Forza 350 RoadSync มีสีสันใหม่ ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ให้อารมณ์ของบิ๊กสกู๊ตเตอรแนวสปอร์ต มาพร้อมกับล้อแม็กสีทอง และ Emblem สีทองที่โดดเด่น สร้างความพรีเมี่ยมให้กับตัวรถเอามากๆ ครับ ส่วนทางด้านขุมกำลังนั้น จะใช้เครื่องยนต์ที่มีชื่อว่า eSP+ ในพิกัด 330 ซีซี 4 วาล์ว ให้การเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงเสียดทานต่ำลง ให้แรงส่งที่ต่อเนื่อง พร้อมกระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม ส่งผลต่ออัตราเร่งที่ดีขึ้นโดยตรง เพิ่มเพลาบาลานเซอร์เพื่อสร้างสมดุลให้เพลาข้อเหวี่ยง หม้อกรองอากาศมีขนาดใหญ่ถึง 5.5 ลิตร เพิ่มประสิทธิภาพในการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์
และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเครื่องยนต์ลูกนี้ก็คือ ระบบ Piston Oil Jet หัวฉีดพิเศษ โดยจะทำการฉีดน้ำมันหล่อลื่นไปบริเวณใต้ลูกสูบ เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานให้ลูกสูบในทุกๆ จังหวะของการทำงาน เพื่อรักษากำลังของเครื่องยนต์ได้เต็มพิกัด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม
และก็ตามชื่อรุ่นเลยครับ New Honda Forza 350 RoadSync จะมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่าง ระบบ HSVCs (Honda Smartphone Voice Control system) ที่จะเชื่อมต่อการทำงานของตัวรถ เข้ากับสมาร์ทโฟนของเรา (โดยในปัจจุบัน ระบบนี้รองรับกับสมาร์ทโฟนแบบ Andriod) เพื่อสั่งการด้วยเสียง หรือปุ่มกดที่แฮนด์ด้านซ้าย สำหรับการใช้ฟังก์ชั่น นำทาง โทรศัพท์ ข้อความ และฟังเพลง ทำให้สะดวกสบายในการใช้งานจริงเอามากๆ และยังคงความปลอดภัยในขณะขับขี่ เพราะว่าระบบนี้จะเน้นการทำงานด้วยเสียง ทำให้เราไม่ต้องละสายตาไปจากการขับขี่นั่นเอง
ในส่วนของกระจกบังลมหรือวินด์สกรีนด้านหน้าแบบปรับไฟฟ้า ที่ปรับระดับได้สูงมากถึง 150 มม. ช่วยลดแรงลมปะทะขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการเดินทางออกทริปในระยะไกล
ตัวรถยังมีการติดตั้งระบบไฟฉุกเฉิน ESS (อีเอสเอส) ที่จะกระพริบถี่ๆ เพื่อแจ้งเตือนรถที่ตามมาด้านหลัง ในเวลาที่เราเบรกแบบกะทันหัน พร้อมกับเสริมความสะดวกสบายด้วย In-Console USB Charger & Bottle Holder ช่องชาร์จไฟผ่าน USB Port Type C ที่อยู่ภายในช่องเก็บของด้านหน้ารถขนาดใหญ่ แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลผสมอนาล็อกสไตล์ Cockpit Area แสดงค่าต่างๆ อย่างครบครัน และออกแบบให้ดูง่ายๆ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีรีโมทอัจฉริยะฮอนด้าสมาร์ทคีย์ สำหรับการสตาร์ทรถโดยไม่ต้องเสียบกุญแจ พร้อมกับระบุตำแหน่งตัวรถ และสัญญาณกันขโมย
ระบบเบรกจะเป็น ABS แบบ Dual Channel ทั้งด้านหน้าและหลัง ส่วนกล่องเก็บของใต้เบาะจะมีขนาดใหญ่ สามารถใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้ถึง 2 ใบ และจุดขายที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ New Honda Forza 350 RoadSync นั้นก็คือ ระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) (ฮอนด้า เซเล็กเอเบิ้ล ทอร์ค คอนโทรล) ป้องกันล้อหมุนฟรี ช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยในกรณีที่ขี่ไปเจอกับทางลื่น หรือพื้นทรายพื้นกรวด ซึ่งระบบนี้สามารถเลือกเปิดหรือปิดได้
เอาล่ะครับทีนี้เรามาทดสอบขับขี่ New Honda Forza 350 RoadSync กันเลย โดยจะเริ่มทดสอบขับขี่กันในเมืองก่อน สำหรับท่านั่งและการวางเท้านั้น สามารถปรับได้หลากหลาย ตามความถนัดหรือสถานการณ์ต่างๆ อัตราเร่งของตัวรถในการออกตัวนั้น ทำได้น่าประทับใจเอามากๆ บิดสนุกติดมือ ด้วยขุมกำลังขนาดใหญ่ถึง 330cc การส่งกำลังทำได้อย่างไหลลื่นต่อเนื่อง โดยไม่มีอาการรอรอบหรือว่าต้องเค้นช่วยแต่อย่างใด ทำให้จังหวะจะเร่งจะแซงแบบกระทันหันในการเปลี่ยนจากความเร็วต่ำเป็นความเร็วตามต้องการนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ
สำหรับในเรื่องของความคล่องตัวนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นรถแบบมีแฟริ่งขนาดใหญ่กว่ารถทั่วๆ ไป แต่ว่ามันก็สามารถมุดสามารถซอกแซกได้ ด้วยการออกแบบบาลานซ์ของตัวรถที่ดี โดยคนที่ไม่เคยขี่รถในแนวนี้มาก่อน อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกันสักพักหนึ่ง ก็จะสามารถสนุกไปกับการขับขี่ในเมืองได้ไม่ยากครับ
ต่อมาเราจะลองมาทดสอบขับขี่กันแบบทางไกลยาวๆ กันบ้างครับ ประเด็นแรกเลยก็คือในเรื่องของการไต่ความเร็ว ตัวรถนั้นสามารถทำความเร็ว 0 – 100 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ส่วนความเร็วหลังจากนั้นไปจนถึงท้อปสปีด ก็ยังคงทำได้อย่างไหลลื่นอยู่ ตรงนี้คนที่ชอบความเร้าใจในการขับขี่น่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ และที่สำคัญก็คือในเรื่องของการขับขี่แบบยืนระยะในความเร็วสูงนั้น ไม่มีอาการสะท้านของเครื่องยนต์ให้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด จากผลของการเพิ่มเพลาบาลานเซอร์ให้กับเครื่องยนต์ ทำให้ได้ฟีลลิ่งแบบนุ่มนวลเอามากๆ ยิ่งถ้าปรับชิลด์หน้าขึ้นให้สูงที่สุดแล้วก็จะพบว่า ลมแทบจะไม่โดนตัวเราเลยก็ว่าได้
และสำหรับการทดสอบในการขึ้นเขาแบบชันๆ ก็พบว่ารถคันนี้นั้นสามารถเอาอยู่แบบสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งขึ้นตามปกติ หรือว่าบางสถานการณ์ที่จำเป็นต้องชะลอความเร็วระหว่างบนทางชันๆ เมื่อรถข้างหน้าเบรกหรือวิ่งช้าลง แต่เราก็สามารถเร่งส่งเพื่อเปลี่ยนความเร็วให้ต่อเนื่องตามต้องการได้ทันที ด้วยพละกำลังที่มีให้แบบเหลือๆ ของเครื่องยนต์ ตรงนี้ก็เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่สำหรับเส้นทางลักษณะนี้ได้มากยิ่งขึ้น ส่วนในการลงเขาสำหรับรถออโตเมติกแบบนี้ ต้องเลี้ยงคันเร่งให้มีความเร็วไว้บ้างสักเล็กน้อย จึงจะเป็นการสั่งให้เอนจิ้นเบรกทำงาน
ในส่วนของการเข้าโค้งนั้นถือว่า สามารถพลิกรถเข้าโค้งกันได้ง่ายๆ ด้วยการวางตำแหน่งหม้อน้ำใหม่มาที่ด้านหน้ารถ ทำให้บาลานซ์ของตัวรถนั้นค่อนข้างสมดุลย์ เพียงแค่เราเอียงตัวเล็กน้อยสำหรับการเข้าโค้งเท่านั้น รถก็จะสามารถลีนไปตัวเราในโค้งได้เลย ทำให้มันเป็นรถที่มีความคล่องตัวในการเข้าโค้งสูง ผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่บางคนมองกันทีแรก อาจจะคิดว่ามันไม่ค่อยจะพลิ้วเท่าไหร่ และระบบช่วงล่างนั้นถือว่าเซ็ทมาแบบกลางๆ ไม่แข็งหรือว่าย้วยเกินไปนัก เหมาะสำหรับการใช้งานแบบปกติบนทางเรียบอยู่แล้ว
ในส่วนของระบบเบรก ABS ที่มีมาให้ทั้งล้อหน้าและล้อหลังนั้น ถือว่าตอบสนองได้ดีมาก เมื่อเราจะต้องเบรกกระทันหัน ทำให้ยังสามารถควบคุมตัวรถได้แบบไม่เสียอาการแต่อย่างใด และระบบที่ถือว่าเป็นอีกหัวใจสำคัญในด้านความปลอดภัยอย่างระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) สำหรับการป้องกันล้อหมุนฟรีนั้น เมื่อในสถานการณ์ที่เราจะต้องเจอเศษทรายหรือกรวดบนท้องถนนบางแห่ง และล้อหน้าและและล้อหลังเกิดอาการหมุนไม่สัมพันธ์กัน ตัว HSTC จะตัดการส่งกำลังทันที เพื่อให้ล้อกดลงพื้นตามปกติ ไม่ให้ตัวรถเสียอาการ และเมื่อเราเริ่มส่งกำลังอีกครั้ง รถก็สามารถวิ่งออกไปได้อย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ถือว่าช่วยในการขับขี่จริงๆ ได้เป็นอย่างมาก
ภาพรวมของ New Honda Forza 350 RoadSync นั้น ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสะดวกสบายในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ยังต้องการความแรงเร้าใจในตัวอยู่ สามารถใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวัน และสามารถออกทริปเดินทางไกลแบบจบๆ ได้ในคันเดียว เมื่อเทียบกับสเปคของตัวรถ ฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้มา ระบบความปลอดภัย รวมไปถึงภาพลักษณ์ที่มีความพรีเมี่ยมเป็นอย่างมากอยู่ในตัว กับราคาค่าตัว 177,500 บาทนั้น ทาง GreatBiker ฟันธงเลยว่า คุ้มค่าแน่นอน สมกับสโลแกน “ONLY FOR THE GREATEST” เพราะว่าตัวรถ “สุด” ในทุกด้านจริงๆ เป็นหนึ่งในรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ที่น่าใช้มากที่สุดในตอนนี้แล้วครับ (เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ)
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience