Banner Yamaha XMAX Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha XMAX Connected 2024 400x300

อัปเดทใหม่ New Honda Hornet 2.0 สปอร์ตเนกเกตรุ่นใหม่ ในราคาเบาๆ

อัปเดทใหม่ New Honda Hornet 2.0 สปอร์ตเนกเกตรุ่นใหม่ ในราคาเบาๆ

หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา สำหรับ Honda Hornet 2.0 มอเตอร์ไซค์สปอร์ตเนกเกต ที่มุ่งเน้นตลาดเอเชียใต้ ก็มีการนำเสนอการปรับปรุงครั้งใหม่ โดยเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์บนตัวรถ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

aERgF5.png

โดยที่จุดเด่นของ Honda Hornet 2.0 ที่ทำตลาดในประเทศอินเดีย ก็คือรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดันเป็นพิเศษ ถึงจะตั้งอยู่บนฐานของรถสปอร์ตเนกเกตมาตรฐาน แต่ตัวรถก็มีคุณสมบัติที่ทันสมัย โดดเด่นด้วยไฟหน้าโคมเดี่ยวขนาดใหญ่ มาพร้อมกับระบบไฟแบบ LED รอบคัน โครงสร้างจะเป็นชุดโครงสร้างแบบ Diamond Type เชื่อมต่อกับระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside-Down และโช้คอัพหลังแบบ Monoshock ปรับระดับได้

aERsay.png

โดยตัวรถจะมาพร้อมกับมิติตัวรถที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ โดยจะมีขนาดความยาว 2,047 มิลลิเมตร กว้าง 783 มิลลิเมตร และสูง 1,064 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 1,355 มิลลิเมตร ในขณะที่ความสูงเบาะนั่งค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ในทุกๆสรีระ โดยจะมีความสูงเพียง 590 มิลลิเมตร มาพร้อมกับความจุถังน้ำมัน 12 ลิตร และมีน้ำหนักตัวแบบพร้อมขี่ที่ 142 กิโลกรัมเท่านั้น

aERynw.png

ส่วนทางด้านของขุมกำลังนั้น จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ ขนาด 184.4 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ให้กำลังสูงสุด 12.7 แรงม้า (kW) ที่ 8,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 15.9 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที

aER1Wk.png

โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจบนตัวรถ นอกเหนือจากระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside-Down และระบบไฟ LED รอบคัน ระบบเบรกแบบดิสก์เดี่ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยจะมีจานดิสก์ขนาด 270 และ 200 มิลลิเมตร ติดตั้งบนล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับยางขนาด 110/70 – 17 M/C 54S และ 140/70 – 17 M/C 66S แบบ Tubeless หรือไม่มียางใน

aERMzg.png

ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงนั้น Honda Hornet 2.0 รุ่นปี 2024-2025 นั้นจะมีการเพิ่มระบบ Assist Slipper Clutch พร้อมกับการปรับเปลี่ยนหน้าจอใหม่ โดยใช้หน้าจอแบบ Fully Digital, Liquid Crystal Meter และได้เสริมในส่วนของระบบเบรก ABS ที่ล้อหน้า ในขณะที่สีสันของตัวรถนั้นจะยังคงใช้สีสันตัวรถเดิมจากการเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยชุดสี Matte Axis Grey Metallic สี Matte Marvel BLue Metallic และสี Matte Sangria Red Metallic เป็นสามสีประจำในปีนี้

aER6sz.jpeg
aERpAr.jpeg

สิ่งที่น่าสนใจกว่าของการปรับปรุงใหม่ในครั้งนี้ คือเรื่องของราคาจำหน่าย ที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้า โดยยังคงยืนราคาอยู่ที่ 139,000 รูปี หรือคิดเป็นเงินไทยจะตกที่เพียง 61,270 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายมาก แต่อย่างที่บอกไปข้างต้น ตัวรถจะเน้นการทำตลาดเฉพาะในโซนเอเชียใต้ โดยมีอินเดียเป็นประเทศหลักในการนำเสนอ และแน่นอนว่า โมเดลนี้ ไม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก lajumotor.com

.