Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

วิเคราะห์ความแตกต่างของ New Kawasaki Ninja ZX-25R รุ่นเริ่มต้นและรุ่นท็อป!

จากที่ทางเราได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับราคาของ New Kawasaki Ninja ZX-25R ที่หลุดมาจากทางฝั่งประเทศอินโดนีเซียก่อนหน้านี้ ทำให้พบว่าตัวรถคันนี้จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นคือรุ่นเริ่มต้นแบบ Non ABS และรุ่นท็อป ABS (โดยอาจจะมีรุ่นพิเศษอย่าง KRT ลวดลายทีมแข่งเพิ่มเติมอีก) แต่แน่นอนว่ามันน่าจะไม่ได้มีความแตกต่างแค่ในเรื่องของระบบ ABS เพียงอย่างเดียว เราลองไปวิเคราะห์ดูด้วยกันเลยว่าจะมีอะไรอย่างอื่นที่แตกต่างกันอีกบ้าง?

Ninja ZX-25R

โดยข้อมูลตรงนี้ต้องขออ้างอิงมาจากทางเว็บไซต์ iwanbanaran.com ที่ได้ทำการลงรายละเอียดไว้ ซึ่งราคาที่หลุดมาของ New Kawasaki Ninja ZX-25R รุ่นเริ่มต้นแบบ Non ABS นั้นแปลงเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 213,000 บาท ในขณะที่รุ่นท็อปแบบมี ABS นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 246,000 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นนั้นมีช่วงราคาที่แตกต่างกันถึง 33,000 บาท นั่นก็ชัดเจนแล้วว่า มันจะไม่ใช่แค่เรื่องของการมีและไม่มี ABS เพียงเท่านั้นอย่างแน่นอน

ราคา Kawasaki Ninja ZX-25R

ทางแหล่งข้อมูลนั้นได้ชี้ว่าพื้นฐานของทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมีเครื่องยนต์ที่เหมือนกัน พร้อมทั้งระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down ของ Showa, ปั้มเบรกเรเดียลเมาท์แบบ 4 ลูกสูบ, โหมดในการขับขี่, KTRC ระบบแทรคชั่นคอนโทรล ตัวป้องกันล้อหมุนฟรี, แอซซิสแอนด์สลิปเปอร์คลัทช์ ตัวป้องกันท้ายปัดขณะเปลี่ยนเกียร์แบบแรงๆ, กุญแจแบบ immobilizer, สวิงอาร์มแบบ Banana และท่อรถที่จะเป็นสเปคเดียวกัน

Ninja ZX-25R 2020

แต่สิ่งที่จะแตกต่างกันโดยจะมีเฉพาะรุ่นท้อป ABS นั้นก็คือ ระบบเบรก ABS (ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วตามชื่อรุ่น) และไฮไลท์สำคัญอย่างระบบ Quick Shifer ที่จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มเกียร์โดยไม่ต้องยกคันเร่งหรือกำคลัทช์ เพื่อความรวดเร็วและต่อเนื่องในการไต่ความเร็ว อีกทั้งยังจะมีระบบ Auto Blipper ที่สามารถถอนเกียร์ลงโดยไม่ต้องยกคันเร่งและกำคลัทช์เช่นกัน ซึ่งตรงนี้เองถือว่ามันเป็นข้อแตกต่างที่เพียงพอจะทำให้รุ่นท้อปอย่าง ABS นั้นน่าสนใจเอามากๆ โดยเฉพาะกับรถที่เป็นคาแรกเตอร์แบบรถแข่งเต็มตัวอย่างนี้

อดใจรออีกไม่กี่วันเท่านั้น เราก็จะได้ทราบกันแล้วว่าสเปคอย่างเป็นทางการของทั้ง 2 รุ่นนั้นจะเป็นอย่างไรกันแน่ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับการวิเคราะห์ในครั้งนี้ ส่วนประเทศไทยเรารอพบกับตัวเป็นๆ ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Motor Show 2020 14 ก.ค. นี้!

Credit : iwanbanaran.com