Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Bajaj Dominar 250 มีลุ้นเข้ามาทำตลาดเมืองไทยในปีนี้

หลังจากเมื่อวานเราได้เผยแพร่คลิปหลุดของเจ้า Bajaj Dominar 250 มอเตอร์ไซค์รุ่นเล็กจากประเทศอินเดียไป เพียงหนึ่งวันต่อมาทางผู้ผลิตก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการและได้ข้อมูลบางส่วนเพิ่มเข้ามาจากของเดิมที่มีอยู่

1456684

2020 Baja Dominar 250 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทาง Street Naked โดยจะเป็นรุ่นราคาประหยัดจาก Dominar 400 ด้วยการลดต้นทุนในการผลิตทำให้ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นต่ำกว่ารุ่นใหญ่อยู่พอสมควร โดยที่ฟีเจอร์หลักๆ ของตัวรถนั้นยังคงรูปแบบที่ใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่เป็นอย่างมาก เรามาดูกันที่เรื่องของขุมกำลังกันก่อน ชัดเจนว่าทาง Bajaj ได้เลือกใช้งานเครื่องยนต์แบบหนึ่งลูกสูบที่มีต้นทางมาจากเครื่องยนต์ของ KTM ในพิกัด 250 ซีซี โดยได้เลือกใช้งานเครื่องยนต์ หนึ่งลูกสูบ 4 จังหวะ แบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 248.7 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 27 แรงม้า (PS) ที่ 8,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 23.5 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที และแน่นอนว่าผ่านมาตรฐานไอเสีย BS-VI เป็นที่เรียบร้อย

bajaj dominar 250 side profile right 5921

ในส่วนของระบบช่วงล่างนั้น Dominar 250 จะยังคงใช้รูปแบบที่เหมือนกับ Dominar 400 ไม่ว่าจะเป็นโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside-Down แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาด โดยที่รุ่น 250 นั้นจะใช้โช้คอัพหน้าขนาด 37 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 400 จะใช้ขนาด 43 มิลลิเมตร ส่วนโช้คอัพหลังจะเป็นแบบ Monoshock เหมือนกัน ในส่วนของระบบเบรกนั้นจะใช้แบบจานดิสก์เดี่ยวหน้าหลัง ขนาด 300 มิลลิเมตร และ 230 มิลลิเมตร พร้อมระบบนิรภัย ABS แบบ Dual Channel โดยที่ระบบไฟส่องสว่างรอบคันจะเป็นแบบ LED ท่อไอเสียแบบปลายคู่ และขนาดของยางหน้า 100/80-17 และยางหลังขนาด 130/70-17 ถังน้ำมันจุได้ 13 ลิตร น้ำหนักตัวอยู่ที่ 180 กิโลกรัม

bajaj dominar 250 rear three quarter ba29

2020 Bajaj Dominar 250 จะมีให้เลือกกันสองสีประกอบไปด้วยสี Canyon Red และ Vine Black โดยที่ราคาจำหน่ายนั้นถูกวางไว้ที่ 160,000 อินเดียรูปี หรือประมาณ 68,110 บาท ต่ำกว่าราคาที่คาดไว้ 2,000 อินเดียรูปี และมีแววว่าทาง VRoom ผู้นำเข้าแบรนด์ KTM, Husqvarna และ Bajaj ในประเทศไทยอาจจะหยิบเอาโมเดลนี้เข้ามาทำตลาดเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มผู้บริโภคในราคาที่อาจจะไม่ถูกเหมือนที่อินเดีย แต่น่าจะเอื้อมถึงได้ง่ายกว่าหากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก indianautosblog.com