กำเนิดใหม่ Bimota Tesi H2 ศิลปะสองล้อข้ามโลก!!!
อย่างที่เราได้ข่าวคราวกันมาเป็นเวลาพอสมควร Kawasaki แบรนด์มอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นได้บินข้ามโลกมาซื้อกิจการของแบรนด์ที่กำลังวิกฤติอย่าง Bimota และ ณ บัดนี้ยุคใหม่แห่งแบรนด์อิตาลีกำลังจะกำลังจะเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง
Kawasaki ได้เข้าซื้อหุ้นของกิจการ Bimota แบรนด์มอเตอร์ไซค์อิตาลีที่เป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานออกแบบชุดล้อหน้า hub-steering ซึ่งครั้งหนึ่งสัญญานี้ได้สิ้นสุดลงโดยมีข้อตกลงว่า Kawasaki Motor Europe จะสนับสนุนบริษัทโดยการซื้อหุ้น 49.9 % โดยที่ยังเหลืออีก 50.1% ยังคงถือโดย Bimota เพื่อรักษาความเป็นเจ้าของดั้งเดิมไว้
Hiroshi Ito ผู้จัดการฝ่ายอุตสาหกรรมหนักของ Kawasaki ได้เผยว่าเขามีแผนการสำหรับกิจการ มอเตอร์ไซค์และเครื่องยนต์ โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์ที่งาน EICMA ถึงความคิดเห็นของเขาที่มีต่อการทำสัญญา และทำงานร่วมกับ Bimota มาตลอด 3 ปี โดยคุณ Ito ได้พบกับคุณ Marco Chiancianesi ประธานของ Bimota เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2016
คุณ Chiancianesi ได้เล่าว่า Bimota นั้นได้รับข้อเสนอมากมายจากหลายบริษัท แต่ข้อเสนอจาก Kawasaki โดดเด่นเกินกว่าใคร โดยเขากล่าวว่า
“อย่างที่คุณรู้ ผมเป็นคนคนหนึ่งที่หลงใหลและรักแบรนด์อิตาลีนี้มากๆ แต่การขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นแตกต่างกับการขับเคลื่อนกิจการมอเตอร์ไซค์อย่างมาก ซึ่งอย่างที่คุณรู้ดีว่า Bimota นั้นได้เผชิญฏับกับความลำบากอย่างใหญ่หลวง เราได้รับข้อเสนอเข้ามามากมาย แต่ในตอนนั้นผมคิดว่า ข้อเสนอของ Kawasaki นั้นดีที่สุด โดยตลอดการทำงานร่วมกับคุณ Ito Kinuhata และทีมงานคนอื่นๆ ทำให้ผมได้เข้าใจการแบ่งปันความหลงใหล อารมณ์ความรู้สึก และคุณค่าไปด้วยกัน”
ส่วนคุณ Ito นั้นได้เน้นย้ำว่า Bimota นั้นจะต้องคงอยู่เป็นแบรนด์อิตาลีต่อไป ฐานการผลิตจะต้องอยู่ใน Rimini และการจ้างงานจะต้องจ้างนักออกแบบ และช่างฝีมือชาวอิตาลี โดยในอดีต Bimota ได้ซื้อลิขสิทธิเครื่องยนต์มาจากหลากหลายโรงงาน แต่ตอนนี้พวกเขาก้าวหน้าต่อไป และนับจากไปรถของ Bimota จะใช้หัวใจเหล็กจาก Kawasaki
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความร่วมมือกันครั้งใหม่ของสองสหายแดนตะวันตกและตะวันออก Pierluigi Marconi วิศวกรของแบรนด์จึงได้ออกแบบ Bimota Tesi H2ขึ้นมา และตืดตั้งเครื่องยนต์จาก Kawasaki Ninja H2 ที่มีเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง พร้อมระบบอัดอากาศระบบซุปเปอร์ชาร์จ และใช้ตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์จาก Bimota ที่มีสวิงอาร์มหน้า พร้อมระบบเลี้ยวแบบ hub-steering โดยมีอุปกรณ์บางส่วนที่ยกมาจกาเจ้า Ninja เช่น เครื่องยนต์ กระจกมองหลัง แฮนเดิ้ลบาร์ ปุ่มต่างๆ เป็นต้น โดย คุณ Marconi นั้นได้บอกอีกว่ารถคันนี้มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนไฟฟ้า Traction Control ป้องกันล้อหมุนฟรี ABS ซึ่งคล้ายว่ายกมาจากรถ Ninja H2 และเขายังได้บอกเป็นนัยว่ามันจะมีกล้องติดมาให้ด้วย เพื่อใช้บันทึกวิดีโอการขับขี่ของเราได้อีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก www.motorcycle.com
