Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

Royal Enfield ปรับแผนการใหม่ ขยับเวลาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าคันแรกเร็วขึ้น 1 ปี

Royal Enfield ปรับแผนการใหม่ ขยับเวลาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าคันแรกเร็วขึ้น 1 ปี

หลังจากที่เคยประกาศกำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าคันแรกของทางค่าย Royal Enfield ในปี 2026 ล่าสุดดูเหมือนว่าบริษัทมีการปรับแผนการใหม่ ตามความต้องการของตลาด โดยมีการขยับเวลาในการเปิดตัวให้เร็วขึ้น โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รูปแบบพลังงานไฟฟ้าคันแรกในปี 2025 เร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิม 1 ปี

vZDUs0.jpg

Royal Enfield เตรียมเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันแรกในความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากตลาดที่กำลังมีการขยายตัวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดีย ที่เป็นตลาดหลักของทางค่ายนั้น มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมาก ต่อรถมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และทางบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของพื้นที่ในการตลาด ที่หากปล่อยให้เวลาล่วงเลยนานจนเกินไป การขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดจะเป็นการยาก จึงมีการปรับแผนใหม่และขยับเวลาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม

vZDgQq.jpg

B Govindarajan ซีอีโอของบริษัทได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับ Bike Dekho ไว้ว่า “ในช่วง 6-8 เดือนที่ผ่านมา เราได้ลงทุนในพื้นที่ EV ในแง่ของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพสำหรับการทดสอบยานพาหนะและการเตรียมพร้อมที่เกี่ยวข้อง เรายังได้ว่าจ้างผู้มีความสามารถที่ดีสำหรับศูนย์เทคโนโลยีของเราในอินเดียและสหราชอาณาจักร โดยรวมแล้ว เรามุ่งเน้นที่พื้นที่ EV อย่างเข้มข้น”

vZDqmu.jpg

อย่างไรก็ตาม Royal Enfield ในปีนี้ ยังคงวุ่นอยู่กับการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ทั้งในพิกัดเริ่มต้นอย่าง Hunter 350, Scram 411 และการปรับปรุงรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางอย่าง Continental GT และ Interceptor 650 ที่ปรับปรุงใหม่ อีกทั้งยังมีโมเดลใหม่อย่าง Shotgun 650 และ Super Meteor 650 ที่มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้

vZDQZR.jpg

ในขณะเดียวกัน คู่แข่งคนสำคัญของ RE ในตลาดอินเดียอย่าง Hero เองก็ประกาศการเป็นพันธมิตรกับ Zero แบรนด์ EV ชื่อดังจากฝั่งอเมริกัน ซึ่งทั้งสองกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการใช้งานที่เหมาะสมในประเทศอินเดีย โดยเน้นไปที่การกำหนดราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและประสิทธิภาพในการใช้งานที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับผู้บริโภคในประเทศ รวมไปถึงตลาดรถพลังงานไฟฟ้าราคาประหยัดในยุโรปอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com