เมือง San Carlos ในฟิลิปปินส์ ประกาศห้ามใช้หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ??
กลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่น่าตกใจไม่น้อย เมื่อหน่วยงานท้องถิ่นของเมือง San Carlos ในประเทศฟิลิปปินส์ ได้ออกมาประกาศแบนการใช้งานหมวกกันน็อตแบบเต็มใบ ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจไม่น้อย กับการสั่งแบนในครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์นิรภัยพื้นฐานของการขับขี่มอเตอร์ไซค์ก็คือเรื่องของ “หมวกกันน็อต” ซึ่งในบรรดาหน่วยงานของรัฐในแต่ล่ะประเทศเองก็พยายามอย่างหนักในการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่สวมใส่หมวกกันน็อคกันโดยเป็นปกติ ซึ่งหมวกกันน็อคหรือหมวกนิรภัย ที่ถือว่ามีความปลอดภัยสูงสุดก็คือหมวกแบบเต็มใบหรือ Full Face Helmet ซึ่งมีคำนิยามไว้ว่า เป็นหมวกกันน็อคที่ปลอดภัยและช่วยป้องกันได้ดีที่สุด สามารถป้องกันได้ทั้งศีรษะ ตั้งแต่ท้ายทอยไปถึงปลายคาง สามารถใช้กับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงได้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่สบายมากนัก แต่เป็นหมวกกันน็อคที่ควรค่าแก่การมีไว้ใช้งานเพื่อความปลอดภัย
แต่ในเมือง San Carlos ประเทศฟิลิปปินส์กลับมีการออกมาประกาศของรัฐบาลท้องถิ่นเกี่ยวกับการแบนหมวกกันน็อตรูปแบบนี้ โดยประกาศห้ามไม่ให้สวมใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบในเขตเมืองโดยเด็ดขาด โดยให้เหตุผลหลักว่า “เพื่อลดการเกิดอาชญากรรม”
ในคำสั่งผู้บริหารที่บังคับใช้การห้ามสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้กล่าวให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานท้องถิ่น จะมีการจำกัดเขตการแบนการใช้งานหมวกแบบเต็มใบเฉพาะจุด โดยแต่ล่ะจุดจะมีการตั้งด่านสำหรับการสกัดคำสั่งนี้บังคับใช้โดยจุดตรวจ “ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสารทุกคนจะต้องถอดหมวกกันน็อค ซึ่งหมวกกันน็อคในรูปแบบที่แนะนำให้ผู้ขับขี่และโดยสารสวมใส่นั้นจะเป็นแบบ Open Face หรือแบบเปิดคาง
นอกเหนือจากการออกคำสั่งห้ามสวมใส่หมวกกันน็อคแบบเต็มใบแล้ว ในเมือง San Carlos ยังมีการปรับข้อจำกัดความเร็วใหม่ โดยปรับให้ในเขตเมืองนั้นรถมอเตอร์ไซค์จะสามารถขับขี่ความเร็วได้เพียง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกันของหน่วยงานจารจรและหน่วยงานควบคุม ซึ่งจะมีทั้งการตั้งตรวจจุด กล้องจับความเร็ว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อลดอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุ และเป็นการป้องกันการก่ออาชญากรรมไปในตัว
Renato Gustilo นายกเทศมนตรี ของเมือง San Carlos ได้ออกมากล่าวถึงระเบียบใหม่ไว้ว่า “มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาชญากรรมส่วนใหญ่กระทำโดยบุคคลที่สวมหมวกกันน็อครถจักรยานยนต์เพื่อปกปิดตัวตนของตน และการออกมาตรการใหม่นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมอาชญากรรมและช่วยระบุตัวอาชญากรได้อย่างง่ายดาย”
เท่าที่มองแล้วว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ อาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุจนเกินไป อีกทั้งยังมีผลกระทบโดยตรงกับรูปแบบการจารจรในเขตเมืองที่หนาแน่น ทั้งนี้การสั่งห้ามหมวกแบบเต็มใบและการจำกัดความเร็วใหม่ จะเริ่มใช้งานทันที และมีการบังคับใช้ที่เข้มงวดมาก
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.pna.gov.ph www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.